เรากำลังเลิกใช้งาน API ภายในองค์กร และหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมและเรียนรู้วิธีย้ายไปใช้ API ระบบคลาวด์รุ่นใหม่ของเรา โปรดดูเอกสารการเลิกใช้งาน API ภายในองค์กรของเรา
โปรดดูข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการขัดข้องของแพลตฟอร์มที่หน้าสถานะของแพลตฟอร์ม WhatsApp Business
WhatsApp พิจารณาว่าการสื่อสารกับผู้ใช้ Business API ที่จัดการตำแหน่งข้อมูล API บนเซิร์ฟเวอร์ที่ตนควบคุมนั้นมีการเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทาง เนื่องจากบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาระหว่างตำแหน่งข้อมูลได้
บางองค์กรอาจเลือกที่จะมอบหมายให้ผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นทางธุรกิจจากภายนอกเป็นผู้จัดการตำแหน่งข้อมูล WhatsApp Business API ของตน ในกรณีเหล่านี้ การสื่อสารจะยังคงใช้การเข้ารหัสโปรโตคอลสัญญาณแบบเดียวกันนี้ แต่ WhatsApp จะไม่พิจารณาข้อความเหล่านี้ว่ามีการเข้ารหัสแบบต้นทางถึงปลายทาง เนื่องจากผู้ใช้ WhatsApp Business API ได้เลือกให้บุคคลภายนอกมาจัดการตำแหน่งข้อมูลของตน อนาคตในปี 2021 การพิจารณาในลักษณะนี้จะมีผลกับธุรกิจที่เลือกใช้ API เวอร์ชั่นบนระบบคลาวด์ที่โฮสต์โดย Facebook ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ หากคุณกำลังใช้ HTTPS เมื่อเรียกใช้ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเข้ารหัส SSL (จากไคลเอ็นต์แบ็กเอนด์ของคุณไปยังไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API)
โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเอกสารข้อมูลทางเทคนิคเรื่องภาพรวมการเข้ารหัสของ WhatsApp ของเรา
ไม่ได้ คุณสามารถเรียกใช้ได้เพียงบัญชีเดียวต่อหนึ่งอินสแตนซ์เท่านั้น หากคุณต้องการใช้บัญชีทดสอบที่สอง คุณต้องใช้หมายเลขที่แตกต่างกันสำหรับอินสแตนซ์ที่สองนั้น
ไม่ได้ ในเวลาใดก็ตาม คุณสามารถมีไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API ได้เพียงอินสแตนซ์เดียวที่กำลังใช้งานสำหรับหมายเลขโทรศัพท์เดียวเท่านั้น ในทันทีที่คุณลงทะเบียนอินสแตนซ์ที่สอง อินสแตนซ์แรกของคุณจะถูกนำออกและใช้งานไม่ได้ เรากำลังทำงานเพื่อค้นหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่จะทำให้คุณดำเนินการดังกล่าวได้ เราจะแจ้งให้คุณทราบถึงการอัพเดตใดๆ
ไคลเอ็นต์ API ภายในองค์กรของ WhatsApp Business จำเป็นต้องมีฐานข้อมูลเพื่อจัดเก็บคีย์ต่างๆ ในการถอดรหัสข้อความที่ส่งระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ระบบจะเข้ารหัสข้อความทั้งหมดบน WhatsApp ด้วยคีย์ผู้ส่งและคีย์ผู้รับ คีย์ของลูกค้าจะจัดเก็บอยู่บนอุปกรณ์มือถือของลูกค้านั้นๆ ส่วนคีย์ของธุรกิจก็จะอยู่ในฐานข้อมูลของธุรกิจ โปรดเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของ WhatsApp
คุณสามารถเลือกใช้ API ระบบคลาวด์ของ WhatsApp Business แทนได้ ซึ่ง Meta จะโฮสต์ฐานข้อมูลของธุรกิจเอาไว้ โดย API ระบบคลาวด์ช่วยให้คุณสามารถใช้ WhatsApp Business API ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง เรียนรู้เพิ่มเติม
ไม่ได้ ในขณะนี้ คุณไม่สามารถเรียกใช้หลายหมายเลขในการตั้งค่าไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API เดียวกันได้ ทั้งนี้เรากำลังคิดหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมที่จะช่วยให้ดำเนินการนี้ได้ในอนาคต
ควร ตามค่าเริ่มต้น ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API พยายามสื่อสารโดยใช้ chatd
บนพอร์ต 5222 เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด ให้เปิดพอร์ต 5222 สำหรับปริมาณข้อมูลขาออกทั้งหมด ซึ่งไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากปริมาณข้อมูลนั้นเป็นเพียงขาออกจากศูนย์ข้อมูลของคุณ
หากคุณไม่สามารถเปิดพอร์ต 5222 ได้ ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API จะพยายามใช้พอร์ต 443 หากไฟร์วอลล์หรือพร็อกซียังคงตัดการเชื่อมต่อ โปรดติดต่อทีมงาน WhatsApp โดยส่งคำถามผ่านทางความช่วยเหลือโดยตรง เพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง
ไม่จำเป็น ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API เปิดการเชื่อมต่อ TCP ขาออกไปยังพอร์ต 5222 หรือ 443 บนเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp ปริมาณข้อมูลบน TCP เกิดขึ้นบนการเชื่อมต่อที่ใช้งานมานาน โดยปกติ ไฟร์วอลล์จะจำแนกประเภทเป็นการอนุญาต “ปริมาณข้อมูลขาออกและปริมาณข้อมูลที่จัดทำขึ้นแล้ว” แน่นอนว่า แพคเก็ตสามารถย้ายกลับไปกลับมาได้เมื่อจัดทำการเชื่อมต่อแล้ว แต่จุดเริ่มต้นของการเชื่อมต่อนั้นมาจากไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีกฎที่อนุญาตการเชื่อมต่อขาเข้า
ข้อกำหนดต่างๆ ขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูลและสถานการณ์ของคุณ วิธีการนี้จะทำงานบนเครื่องที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เรียกใช้ Docker ตัวอย่างเช่น สามารถทำการทดสอบง่ายๆ ได้บนแล็ปท็อปได้
สำหรับรูปแบบของเซิร์ฟเวอร์ในการใช้งานจริงแบบอินสแตนซ์เดียว เราแนะนำให้ใช้ 250 GB SSD, 16 GB RAM และ 4 core CPU เป็นอย่างน้อย ไม่แนะนำให้ใช้ HDD เนื่องจากความเร็วของ I/O จะอยู่ในสภาวะคอขวดเมื่อมีข้อมูลในปริมาณสูง
สำหรับรูปแบบของเซิร์ฟเวอร์ในการใช้งานจริงแบบมีการเชื่อมต่อหลายจุด เราแนะนำให้ใช้ 50 GB SSD, 4 GB RAM และ 2 core CPU เป็นอย่างน้อยสำหรับคอนเทนเนอร์ Coreapp/Master/Webapp แต่ละตัว
ในกรณีส่วนใหญ่ คุณควรเรียกใช้ฐานข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ต่างหากจากคอนเทนเนอร์ Core และ Web เซิร์ฟเวอร์ของฐานข้อมูลควรมีเวลาแฝงจากเครื่องประมวลผลเพียงไม่กี่มิลลิวินาทีเท่านั้น
รูปแบบนี้รองรับการส่งข้อความประมาณ 20 ข้อความต่อวินาที
ต้องใช้ MySQL 5.7.x, PostgreSQL 9.5.x, 9.6.x, 10.x การใช้เวอร์ชั่นก่อนหน้าจะทำให้เกิดข้อผิดพลาด Unable to initialize config store
ติดตั้ง MySQL ในเครื่องโดยใช้ Docker โดยทำตามคู่มือ Docker MySQL
ติดตั้ง PostgreSQL ในเครื่องโดยใช้ Docker โดยทำตามคู่มือ Docker PostgreSQL
ในกรณีส่วนใหญ่ คุณควรเรียกใช้ฐานข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ต่างหากจากคอนเทนเนอร์ Core และ Web เซิร์ฟเวอร์ของฐานข้อมูลควรมีเวลาแฝงจากเครื่องประมวลผลเพียงไม่กี่มิลลิวินาทีเท่านั้น
คุณสามารถสร้างรายการที่อนุญาตด้วยชื่อโฮสต์หรือที่อยู่ IP ก็ได้
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ส่วนชื่อโฮสต์ในเอกสารประกอบข้อกำหนดของเครือข่าย
จำเป็น การเชื่อมต่อ TCP เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าธุรกิจของคุณไม่สามารถเปิดพอร์ตเพิ่มเติมได้ คุณสามารถใช้ SSL ที่สิ้นสุดแล้วได้
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบข้อกำหนดของเครือข่าย
ไม่ เนื่องจากเราไม่รองรับ KOPS ทั้งนี้ เรารองรับโซลูชั่น AWS ที่ใช้ ECS และยังมีการตั้งค่า Kubernetes minikube ทั่วไปด้วย
รองรับ MySQL และ PostgreSQL หากคุณเรียกใช้ Docker ด้วยตัวเอง คุณต้องจัดเตรียมฐานข้อมูล MySQL/PostgreSQL ไว้ให้คอนเทนเนอร์เชื่อมต่อ ตามค่าเริ่มต้น การใช้เทมเพลต AWS จะติดตั้งฐานข้อมูล MySQL
ไม่ได้ ขณะนี้ ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API ยังไม่ทำงานบน Docker สำหรับ Windows สำหรับความต้องการในการพัฒนา ขอแนะนำให้ใช้เครื่องเสมือนบน Linux และเรียกใช้งาน Docker ภายในนั้น สำหรับปริมาณงานในการทำงานจริง ขอแนะนำให้ใช้เซิร์ฟเวอร์ Linux เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความเข้ากันได้และประสิทธิภาพการทำงาน
คุณสามารถรีสตาร์ทคอนเทนเนอร์ Docker ได้ด้วยการเรียกใช้โค้ดต่อไปนี้:
docker restart wacore<Current_WABA_Version>
docker restart webapp<Current_WABA_Version>
คุณสามารถตรวจสอบว่าคุณกำลังเรียกใช้เวอร์ชั่นใดได้
docker ps
มี การหมุนเวียนบันทึกสำหรับคอนเทนเนอร์ของ Webapp และคอนเทนเนอร์ของ Coreapp มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันเล็กน้อยดังนี้
มีสคริปต์ที่สามารถสั่งทำงานได้จากภายนอกเพื่อล้างบันทึกเก่าของคอนเทนเนอร์:
docker exec CONTAINER_NAME /opt/whatsapp/bin/cleanup.sh
สคริปต์ใช้งานได้กับทั้งคอนเทนเนอร์ Webapp และ Coreapp การเรียกใช้สคริปต์จะลบไฟล์บันทึกเก่าออกไปเพื่อให้เหลือเพียง 30 ไฟล์บนคอนเทนเนอร์
ระบบของคุณอาจเริ่มทำงานช้าลงเมื่อพื้นที่เต็ม ซึ่งอาจเกิดจากการมีไฟล์สื่อ ข้อความ และไฟล์บันทึกขนาดใหญ่จำนวนมาก ไฟล์บันทึกมีการหมุนเวียนโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็สามารถลบออกได้อย่างปลอดภัย
ข้อความถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล คุณสามารถลบข้อความออกได้ตามความจำเป็น นอกจากนี้ หากตั้งค่า pass_through
เป็น false ในการตั้งค่าแอพพลิเคชั่น ข้อความทั้งหมดก็จะได้รับการบันทึกไว้ในฐานข้อมูลจนกว่าจะถูกลบทิ้งอย่างชัดเจน
ไฟล์สื่อที่ผู้ใช้ส่งให้คุณจะถูกดาวน์โหลดลงในไดรฟ์ข้อมูลสื่อ ธุรกิจต้องตัดสินใจเอาเองว่าจะลบไฟล์ใด แต่โดยทั่วไปแล้ว สามารถลบไฟล์สื่อใดก็ได้อย่างปลอดภัย คุณสามารถใช้ docker inspect your-container-id
เพื่อตรวจหาตำแหน่งของโฟล์เดอร์ไดรฟ์ข้อมูลสื่อ
ได้ สามารถใช้ฐานข้อมูลในวิธีอื่นๆ ได้โดยไม่แตะต้องตารางที่เกี่ยวข้องของ WhatsApp
ตารางของฐานข้อมูลจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าแอพ เธรดการแชท ข้อความ สื่อ ฯลฯ ซึ่งแอพต้องใช้ทั้งหมดนี้ในการทำงาน
v2.25.x
จะพัฒนาประสิทธิภาพทั้งขาเข้าและขาออกให้ดีกว่ารุ่นที่ปล่อยไปก่อนหน้านี้ การปรับให้เหมาะสมนี้อาศัยการสร้างจุดเชื่อมต่อฐานข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้จำนวนจุดเชื่อมต่อฐานข้อมูลถึงขีดจำกัดได้สำหรับการใช้งานบางรูปแบบ คุณสามารถเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมต่อสูงสุดที่เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลของคุณสามารถยอมรับได้เพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น หากไม่สามารถทำได้ คุณสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ axolotl_context_striping_disabled เพื่อปิดใช้งานลักษณะการทำงานนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้ที่เอกสารประกอบการตั้งค่าแอพพลิเคชั่น
การรวบรวมฐานขยะข้อมูลจะทำการล้างข้อมูลตาราง messages
และ messages_reciept_log
เป็นระยะๆ เพื่อช่วยในการจัดการฐานข้อมูล
ตัวรวบรวมขยะจะเก็บรักษาข้อความบางรายการเอาไว้เพื่อให้สามารถนำส่ง/ประมวลผลได้ ตัวอย่างเช่น การเก็บรักษาข้อความขาเข้าเป็นระยะเวลาช่วงหนึ่งเพื่อให้การผสานรวมธุรกิจสามารถทำเครื่องหมายข้อความดังกล่าวว่าอ่านแล้วได้
Coreapp จะทำการรวบรวมขยะโดยสุ่มเวลาแตกต่างกันไป (ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง) ซึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ประสิทธิภาพการทำงานในสแตกความพร้อมใช้งานสูงลดลงอันเนื่องมาจากความขัดแย้งของฐานข้อมูล
การรวบรวมขยะไม่เกี่ยวข้องกับคิวการเรียกกลับ ตัวอย่างเช่น หากเซิร์ฟเวอร์ Webhook ไม่พร้อมใช้งานเป็นเวลา 4 วัน ระบบจะจัดเก็บการเรียกกลับไว้เพื่อนำส่งเมื่อเซิร์ฟเวอร์ Webhook กลับมาเชื่อมต่อแล้ว
ใช้การรวบรวมขยะฐานข้อมูลตำแหน่งข้อมูล API services
เพื่อล้างข้อความและการรับข้อความที่เกี่ยวข้องจากตาราง messageStore.messages
และ messageStore.messages_receipt_log
หากคุณสำรองข้อมูลการตั้งค่าปัจจุบันของคุณ แล้วกู้คืนบนเครื่องใหม่ ข้อมูลการลงทะเบียนควรย้ายไปพร้อมกับการนำมาใช้งานส่วนที่เหลือของคุณ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบการตั้งค่าการสำรองข้อมูลและกู้คืนข้อมูล
การนำผู้ใช้ออกจากระบบผ่านทางตำแหน่งข้อมูล users
จะเลิกใช้โทเค็นการยืนยันตัวตนทั้งหมดที่กำหนดให้แก่บัญชีนั้น การลบผู้ใช้จะให้ผลลัพธ์เดียวกัน แต่มีความรุนแรงกว่ามาก โปรดทราบว่าการนำผู้ใช้เข้าสู่ระบบผ่านทางตำแหน่งข้อมูล users
จะส่งคืนโทเค็นการยืนยันตัวตนใหม่ แต่จะไม่เลิกใช้โทเค็นการยืนยันตัวตนที่ใช้งานอยู่แล้วสำหรับผู้ใช้รายนั้น ผู้ใดก็ตามที่มีโทเค็นที่จัดให้ก่อนหน้านี้จะยังคงสามารถใช้โทเค็นนั้นต่อไปได้ จนกว่าจะหมดอายุหรือถูกเลิกใช้ผ่านทางวิธีการใดวิธีการหนึ่งที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้
หมายเหตุ: โปรดอย่าส่งข้อความเดิมถึงผู้รับคนเดิมซ้ำๆ โดยใช้ WhatsApp Business API
การที่อัตราการนำส่งไม่เป็น 100% อาจมีได้หลายสาเหตุ กรณีหนึ่งที่พบบ่อย ได้แก่ การที่ผู้ใช้มีการเข้าถึงเครือข่ายนานๆ ครั้งหรือไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน หรือต้องการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่มีคุณภาพสูง
ข้อความที่สามารถส่งถึงผู้รับด้วย WhatsApp จะมีอัตราการนำส่งที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม มีหลายเหตุผลที่อธิบายว่าเหตุใดจึงอาจไม่สามารถส่งข้อความถึงผู้รับได้ คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงสถานะที่แน่นอนของข้อความด้วยการติดตามการเรียกกลับของคุณ ซึ่งจะแตกต่างจากการส่งข้อความด้วยวิธีอื่นๆ เช่น SMS ที่คุณจะไม่สามารถเข้าถึงสถานะการนำส่งขั้นสุดท้าย และการส่งข้อความซ้ำอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไป
ข้อความอาจยังคงไม่ได้ส่ง เพราะโทรศัพท์ของผู้ใช้อาจเสียหรือแบตเตอรี่หมด หรือสูญหายและกำลังจะได้เครื่องใหม่ และได้ปิดใช้งาน SIM เอาไว้ เป็นไปได้หรือไม่ที่ลูกค้าธุรกิจะมีข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย นอกจากนี้ ยังเป็นไปได้ที่การเรียกกลับ (Webhooks) ไม่ได้ถูกส่งไป คุณสามารถติดตามสถานการณ์เหล่านี้ได้โดยใช้โหนด health
คุณสามารถเปิดการเรียกกลับการรับของเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้ทราบว่าข้อความได้ไปถึงคลาวด์ของเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp แล้ว
ถ้าและเมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อกับเครือข่ายได้อีกครั้งแล้ว ข้อความทั้งหมดที่คุณส่งก็จะถูกส่งให้กับผู้รับ การได้รับมากกว่าหนึ่งข้อความที่มีเนื้อหาเดียวกันจะเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายสำหรับผู้รับ พวกเขาจะมีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะบล็อกคุณหรือร้องเรียน คุณจะมีแนวโน้มสูงขึ้นที่จะถูกแบน
หากคุณส่งข้อความและได้รับ ID ข้อความจาก API แสดงว่าคุณได้ทำสิ่งที่สามารถทำได้เพื่อส่งข้อความนี้แล้ว อย่าส่งเนื้อหาเดิมซ้ำถึงผู้รับคนเดิม
หากคุณประสบปัญหาอัตราการนำส่งต่ำติดต่อกันเป็นเวลานาน โปรดส่งบัตรคำร้องขอรับความช่วยเหลือกับ ฝ่ายความช่วยเหลือโดยตรง
เมื่อคุณส่งข้อความ ในทันทีที่คุณได้รับ ID ข้อความ แสดงว่าคำขอข้อความถูกจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลแล้ว ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API จะพยายามส่งข้อความนั้นจนกว่าเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp จะรับทราบ กระบวนการนี้ไม่มีเวลาสิ้นสุด จากนั้น เซิร์ฟเวอร์ WhatsApp จะพยายามส่งข้อความนั้นไปยังโทรศัพท์ของผู้ใช้ ถ้าโทรศัพท์ของผู้ใช้ไม่ได้ออนไลน์ ข้อความจะถูกจัดเก็บเป็นเวลา 30 วันก่อนที่เซิร์ฟเวอร์ WhatsApp จะทิ้งไป
ขณะนี้ยังไม่มีวิธีใดในการดูว่ามีผู้ใช้กี่รายหรือรายใดบล็อกธุรกิจของคุณ ตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดคือการรอติดต่อการเรียกกลับสถานะ และถ้าคุณไม่ได้รับสถานะ delivered
แสดงว่ามีผู้ใช้บล็อกธุรกิจของคุณ หรือไม่ก็ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่าย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบ Webhook
ถ้ามีผู้ใช้บล็อกธุรกิจของคุณ API ผู้ติดต่อจะยังคงส่งคืนหมายเลขโทรศัพท์นั้นเป็นผู้ใช้ WhatsApp ที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณส่งข้อความ จะไม่มีวันถูกส่งถึง ถ้าเป็นข้อความที่มาจากโฆษณา คุณจะไม่ถูกเรียกเก็บค่าบริการ
ในกรณีผู้บริโภคทั่วไป นี่คือการออกแบบสำหรับกรณีที่ผู้ส่งไม่ได้อยู่ในสมุดรายชื่อของคุณ และคุณไม่เคยส่งข้อความไปยังผู้ส่งรายนี้ ในกรณีองค์กร ธุรกิจควรใช้เทมเพลตข้อความเพื่อสร้าง "ความน่าเชื่อถือ" ในครั้งแรกกับผู้ใช้ เมื่อดำเนินการดังกล่าว ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API จึงจะทำตามการตั้งค่าการดาวน์โหลดอัตโนมัติในแอพ
ในกรณีผู้บริโภคทั่วไป นี่คือการออกแบบสำหรับกรณีที่ผู้ส่งไม่ได้อยู่ในสมุดรายชื่อของคุณ และคุณไม่เคยส่งข้อความไปยังผู้ส่งรายนี้ ในกรณีองค์กร ธุรกิจควรใช้เทมเพลตข้อความเพื่อสร้าง "ความน่าเชื่อถือ" ในครั้งแรกกับผู้ใช้ เมื่อดำเนินการดังกล่าว ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API จะสามารถอ่านลิงก์และทำให้คลิกได้
แน่นอน โปรดติดต่อตัวแทน WhatsApp ของคุณและส่งคำขอดังกล่าว
ไม่ได้ ไม่สามารถรับประกันได้ว่าข้อความจะมาถึงในลำดับเดียวกันกับที่ส่งมา ถ้าการเรียงลำดับมีความสำคัญต่อกรณีการใช้งานของคุณ ขอแนะนำให้รอการติดต่อการเรียกกลับที่ส่งไปแล้วของข้อความแรก ก่อนที่จะส่งข้อความที่สอง
เมื่อใช้โหนด messages
คุณจำเป็นต้องตั้งค่าส่วนหัว Content-Type
เป็น application/json
เพื่อให้ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API แยกวิเคราะห์เนื้อหาข้อความได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีส่วนหัว Authorization
ที่จำเป็นต้องตั้งค่า และต้องมีโทเค็นการเข้าถึงที่ยังไม่หมดอายุ ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีรับโทเค็นและเวลาหมดอายุได้ในเอกสารประกอบการเข้าสู่ระบบและการยืนยันตัวตน
จำเป็น ต้องส่งการเรียก API ไปยังโหนด contacts
ก่อนที่จะส่งข้อความ ข้อมูลจากการตรวจสอบ contacts
จะถูกแคชไว้ในคอนเทนเนอร์ และหากไม่ทำเช่นนี้ อาจส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาด Unkown Contact
ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบการตรวจสอบผู้ติดต่อ
If there is a delay in a subset of numbers, then it is likely not an issue affecting the customers integration but rather an issue on the recipients end, these delays in delivery can happen for a number of reasons. See Send Message Performance, Delays for more information.
No this is not possible. Numbers that are registered under WABAs (WhatsApp Business Accounts) can only message regular WhatsApp accounts.
ไม่มีกลไกการล้างข้อมูลสำหรับไฟล์สื่อทั้งที่ออกไปหรือเข้ามา คุณสามารถลบไฟล์สื่อได้ด้วยตนเองโดยการค้นหาตำแหน่งไฟล์ในระบบไฟล์ของคุณ
เพื่อค้นหาตำแหน่งเมาต์ของไดรฟ์ข้อมูลสื่อ คุณสามารถเรียกใช้คำสั่ง docker ได้
docker volume inspect whatsappMedia
[ { "Driver": "local", "Labels": {}, "Mountpoint": "/var/lib/docker/volumes/whatsappMedia/_data", "Name": "whatsappMedia", "Options": {}, "Scope": "local" } ]
จากนั้น เพื่อดูไฟล์สื่อที่เข้ามาทั้งหมด คุณสามารถเรียกใช้คำสั่ง ls
พร้อมด้วยพาธไฟล์ Mountpoint
ที่ได้รับ:
ls /var/lib/docker/volumes/whatsappMedia/_data/
สำหรับการตั้งค่า AWS ไดรฟ์ข้อมูลสื่อจะถูกเมาต์ที่พาธ /mnt/wa/media
บนโฮสต์
การอัพโหลดไฟล์มีขนาดสูงสุด 64 MB ซึ่งหมายความว่าขีดจำกัดนี้ใช้กับรูปภาพ เอกสาร หรือวิดีโอใดๆ ที่คุณส่งมากับข้อความ
คุณจะลบสื่อเมื่อใดก็ได้แล้วแต่คุณ
หลังจากที่อัพโหลดสื่อ คุณจะได้รับ ID สื่อ ซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อส่งข้อความที่มีองค์ประกอบสื่อที่อัพโหลดนั้นได้ เมื่อส่งข้อความสื่อแล้ว WhatsApp Business API จะเข้ารหัสและอัพโหลดสื่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp ซึ่งจะยังคงอยู่ในนั้นเป็นเวลา 14 วัน หลังจากนั้น คุณสามารถตัดสินใจว่าจะลบสื่อนั้นได้โดยระบุ ID สื่อ หรือจะเก็บไว้ใช้งานในภายหลังก็ได้ ในขณะที่เราแนะนำให้เก็บสื่อไว้เป็นเวลา 30 วัน คุณสามารถตัดสินใจนโยบายการเก็บรักษาได้โดยใช้นโยบายของธุรกิจของคุณหรือกรณีการใช้งานของธุรกิจของคุณ
สำหรับรูปภาพ คำบรรยายจะถูกเพิ่มเป็นคำอธิบาย ข้อความของคำบรรยายจะปรากฏเต็มความยาวสำหรับรูปภาพทั้งบน Android และ iPhone
สำหรับเอกสาร คำบรรยายจะแทนที่ชื่อไฟล์ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะแสดงบนอุปกรณ์ของผู้ใช้เป็นคำอธิบาย แต่เพื่อแสดงชื่อของไฟล์ iPhone จะแสดงข้อความทั้งหมดในขณะที่ Android จะตัดทอนชื่อไฟล์ ซึ่งเป็นข้อจำกัดทางเทคนิคของการนำ WhatsApp มาใช้ล่าสุดบนอุปกรณ์ทั้งสองชนิด
เมื่อส่งรูปภาพเป็นอัลบั้มจาก WhatsApp Business API คุณจะต้องส่งอย่างน้อย 4 รูปอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ใช้กำลังใช้งานมุมมองการสนทนาอยู่ในขณะที่ได้รับรูปภาพ ผู้ใช้จะไม่สามารถใช้งานมุมมองแบบอัลบั้มได้จนกว่าจะเข้ามาใช้ในครั้งถัดไป
ระบบจะไม่สร้างอัลบั้มหากเนื้อหาเป็นไปตามเกณฑ์ใดๆ ต่อไปนี้:
ไม่มี ขณะนี้เราต้องใช้ EFS ของ AWS เพื่อแชร์ไดรฟ์ข้อมูลสื่อระหว่าง Coreapp กับ Webapp
ไม่ได้ ขณะนี้เราไม่รองรับการเปลี่ยนแปลงพาธที่นำไปยังพื้นที่เก็บข้อมูลสื่อตามค่าเริ่มต้น (/usr/local/wamedia/) พื้นที่เก็บข้อมูลสื่อทั้งหมดจะต้องอยู่ในตำแหน่งเริ่มต้นนี้เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง
ขณะนี้เป็นเวลา 7 วัน หากแคชไม่ได้รับการอัพเดตนานกว่า 7 วัน ก็จะดึงชุดภาษาล่าสุดจากเซิร์ฟเวอร์โดยไม่คำนึงว่าองค์ประกอบมีอยู่แล้วในชุดภาษาหรือไม่
หมายเหตุ: เราได้เลิกใช้นโยบายภาษา fallback
แล้วโดยเริ่มตั้งแต่ v2.27.8
และขณะนี้ นโยบายภาษา deterministic
จะเป็นนโยบายที่เป็นค่าเริ่มต้น
หากคุณสร้างคำแปลในภาษาใหม่ คุณจะต้องแปลองค์ประกอบทั้งหมดที่คุณใช้เป็นภาษานั้นๆ มิฉะนั้น คุณอาจได้รับข้อผิดพลาด "โครงสร้างใช้งานไม่ได้" เนื่องจากโทรศัพท์ของผู้รับไม่พบองค์ประกอบที่คาดหวังสำหรับภาษานั้นๆ โดยจะพบข้อผิดพลาดโครงสร้างใช้งานไม่ได้เหล่านี้ เมื่อส่งข้อความเทมเพลตโดยใช้นโยบายแบบสำรอง
หากคุณไม่ได้เลือกที่จะสร้างคำแปลภาษาในขณะนี้ คุณสามารถใช้นโยบายแบบกำหนดชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้
ไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API ส่งการเรียกกลับ Webhook ให้คุณผ่านทางคอนเทนเนอร์ Coreapp ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำหนดค่าตำแหน่งข้อมูล Webhook ของคุณจึงจะรับคำขอที่เข้ามาจาก Coreapp ได้
ถ้า Webhook ไม่สามารถส่งการเรียกกลับได้ การเรียกกลับจะถูกใส่ไว้ในคิวการลองอีกครั้ง โดยจะไม่สามารถได้รับการเรียกกลับใดๆ ที่ส่งหลังจากที่การเรียกกลับครั้งแรกล้มเหลว หลังจากการเรียกกลับที่ล้มเหลวครั้งแรกนั้นกลับมาทำงานได้ ส่วนที่เหลือจึงจะตามมา
หากไม่ได้ส่งเหตุการณ์ Webhook ด้วยเหตุผลใดก็ตาม (เช่น ไคลเอ็นต์ออฟไลน์อยู่) หรือคำขอ Webhook ส่งคืนรหัสสถานะ HTTP อื่นนอกเหนือจาก 200
เราจะลองส่ง Webhook อีกครั้ง เราจะลองส่งใหม่ต่อไปโดยเลื่อนเวลาเพิ่มขึ้นจนหมดเวลา (24 ชั่วโมงโดยทั่วไป แต่ก็อาจแตกต่างออกไป) หรือจนกว่าจะส่งได้สำเร็จ
สามารถส่งข้อความซ้ำไปยัง WhatsApp Webhook ได้ โดยเป็นการรับประกันเพียงอย่างเดียวว่าจะได้รับข้อความอย่างน้อยหนึ่งครั้ง (โดยตรงข้ามกับเพียงครั้งเดียว) หากการดำเนินการดังกล่าวกระทบต่อวิธีการประมวลผลข้อความทางฝั่งคุณ เราขอเสนอให้ยกเลิกการซ้ำข้อความ Webhook โดยใช้ ID ข้อความ
ตรวจสอบการตั้งค่าการใช้งาน pass_through
ของคุณอีกครั้ง คุณจะไม่ได้รับการเรียกกลับสถานะ "อ่านแล้ว" ใดๆ หากคุณเปิดใช้งาน pass_through
ด้วยไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API v2.29.1
หรือสูงกว่า
หากคุณต้องการรับการเรียกกลับสถานะ "อ่านแล้ว" ให้ปิดใช้งานการตั้งค่าการใช้งาน pass_through
โปรดทราบว่าการปิดใช้งาน pass_through
อาจทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลของคุณมีขนาดเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการฐานข้อมูลที่เอกสารประกอบการจัดการฐานข้อมูล
ข้อผิดพลาดนี้เกิดจากจุดบกพร่องในไคลเอ็นต์ iOS เวอร์ชั่นเก่า เราคาดหวังว่าข้อผิดพลาดนี้จะลดลงในระยะยาวเมื่อคนทั่วไปอัพเกรด
ก่อนอื่น ตรวจสอบการเรียกกลับสำหรับข้อผิดพลาดวิกฤตเพื่อวินิจฉัยปัญหา
หากคุณมองเห็น "ข้อขัดแย้ง: ตรวจพบหลายอินสแตนซ์ที่ใช้หมายเลขเดียวกัน" คุณจำเป็นต้องตรวจสอบคอนเทนเนอร์ สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือคุณมีคอนเทนเนอร์ Docker หลายตัวที่พยายามเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ WhatsApp โดยใช้บัญชี WhatsApp เดียวกัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเพียงคอนเทนเนอร์เดียวที่กำลังทำงาน หากคุณมีคอนเทนเนอร์เก่า ให้ปิดการทำงานคอนเทนเนอร์เหล่านั้น แล้วปัญหาจะหายไปเอง
หากคุณต้องการทดสอบโซลูชั่นความพร้อมใช้งานสูงที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นของเรา โปรดดูเอกสารประกอบความพร้อมใช้งานสูง
นี่คือปัญหาที่ทราบอยู่แล้ว บางครั้ง การอัพเกรดไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API โดยใช้สคริปต์ CloudFormation สิ้นสุดด้วยการขอให้อัพเดตสแตก RDS DB อีกด้วย สแตก RDS ใหม่จะมีชื่อโฮสต์ไม่เหมือนสแตกเดิม และคอนเทนเนอร์ Docker จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลได้ วิธีแก้ไขคือการเพิ่ม SSH ในอินสแตนซ์ EC2 ที่สร้างโดย CloudFormation และอัพเดตไฟล์ whatsapp.conf
ด้วยชื่อโฮสต์ใหม่ แล้วจึงรีสตาร์ทคอนเทนเนอร์ Docker เพื่อให้รับการตั้งค่าใหม่
ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่ได้ตั้งค่าฐานข้อมูลอย่างถูกต้อง
ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตัวเชื่อม Docker เสียหาย วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือหยุดบริการ Docker และเริ่มใหม่อีกครั้ง คุณสามารถลอง docker restart
บนคอนเทนเนอร์ของคุณได้เช่นกัน
ข้อผิดพลาด "การเชื่อมต่อถูกปฏิเสธ" น่าจะหมายถึง Coreapp ไม่ทำงาน ใช้ docker ps
เพื่อตรวจดูว่า Coreapp ทำงานหรือไม่ ถ้าไม่ทำงาน ให้ตรวจดูบันทึก Docker Coreapp อาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลก็ได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตั้งค่าฐานข้อมูลไว้อย่างถูกต้อง
มีเหตุผลหลายข้อสำหรับข้อผิดพลาดนี้ Coreapp อาจกำลังใช้งานไม่ได้ หรือไม่ได้ตั้งค่าฐานข้อมูลของคุณอย่างถูกต้อง หากไม่ใช่กรณีดังกล่าว โปรดดูบันทึก Coreapp ของคุณ (หรือบันทึก Coreapp หลัก หากคุณกำลังใช้การเชื่อมต่อหลายจุด) หากคุณเห็นข้อผิดพลาดในการเชื่อมต่อฐานข้อมูล มีแนวโน้มว่าฐานข้อมูลของคุณมีการเชื่อมต่อไม่เพียงพอ ดูเอกสาร MySQL หรือเอกสาร PostgreSQL เกี่ยวกับข้อผิดพลาดนี้
ขอแนะนำให้เพิ่มจำนวนการเชื่อมต่อฐานข้อมูลกับฐานข้อมูลของคุณ 1000 การเชื่อมต่อฐานข้อมูลควรเป็นจำนวนที่ปลอดภัย แต่คุณควรตัดสินใจจำนวนการเชื่อมต่อด้วยตัวเองโดยมีข้อมูลสนับสนุน หากข้อผิดพลาดยังคงมีอยู่ เปิดบัตรขอรับความช่วยเหลือ
หากคุณมองเห็นข้อผิดพลาดนี้ แต่พารามิเตอร์ที่จำเป็นที่ขาดหายไปที่อ้างถึงนั้นถูกกำหนดในเนื้อหา JSON ของคุณ แสดงว่าอาจเป็นข้อผิดพลาดในการแยกวิเคราะห์ JSON ข้อผิดพลาดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อเพย์โหลด JSON ทั้งหมดไม่สามารถแยกวิเคราะห์ได้ เนื่องจากข้อผิดพลาดในการจัดรูปแบบของ JSON ตรวจหาอักขระที่ไม่ถูกต้องของ JSON ในค่าของพารามิเตอร์เหล่านั้น เช่น อักขระขึ้นบรรทัดใหม่ที่ตอนท้าย บางครั้งอาจมีการคัดลอกอักขระเว้นวรรคเพิ่มเติมที่อาจมีอักขระที่ทำให้ JSON เสียหายเข้ามาในพารามิเตอร์
ข้อผิดพลาด "structure unavailable" (โครงสร้างไม่พร้อมใช้งาน) จะเกิดขึ้นเมื่อโทรศัพท์ไม่สามารถอ่านข้อความเทมเพลตได้
เทมเพลตได้รับการจัดเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์ เมื่อส่งข้อความเทมเพลตโดยใช้โหนด messages
แล้วระบบจะส่งเฉพาะเนมสเปซ ภาษา ชื่อองค์ประกอบ และพารามิเตอร์ที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นไปยังโทรศัพท์ แต่จะไม่ได้ส่งข้อความทั้งหมด เมื่อค่าเหล่านี้ส่งไปถึงโทรศัพท์แล้ว ระบบจะพยายามแสดงข้อความดังกล่าว
หากมีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นระหว่างการแสดงผล ระบบจะส่งข้อผิดพลาด structure unavailable
(โครงสร้างไม่พร้อมใช้งาน) ไปยัง URL การเรียกกลับ ซึ่งประกอบด้วย ID ผู้รับและ ID ข้อความ ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากเนมสเปซไม่ถูกต้อง พารามิเตอร์ที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่นไม่ตรงกัน ชื่อองค์ประกอบไม่ถูกต้อง ฯลฯ
ไปที่ตัวจัดการ WhatsApp ในตัวจัดการธุรกิจของ Facebook เพื่อดูจำนวนพารามิเตอร์ที่ถูกต้อง ตรวจซ้ำว่าเนมสเปซนั้นถูกต้องและมีชื่อองค์ประกอบอยู่
ข้อผิดพลาดนี้มีแหล่งที่มาโดยทั่วไปจากการไม่ได้สร้างคำแปลสำหรับเทมเพลตทั้งหมดที่ใช้ ตัวอย่างเช่น หากคุณมี 2 เทมเพลตที่คุณใช้ส่งโดยทั่วไป และคุณเพิ่มคำแปลภาษาใหม่ให้กับเทมเพลตหนึ่ง คุณต้องเพิ่มคำแปลภาษาใหม่นั้นให้กับอีกเทมเพลตด้วย หากคุณมีแผนที่จะรองรับมากกว่า 1 ภาษา คุณต้องจัดให้มีคำแปลสำหรับเทมเพลตทั้งหมดในทุกภาษาที่รองรับ
ข่าวดีก็คือข้อผิดพลาด structure unavailable
(โครงสร้างไม่พร้อมใช้งาน) มักเกิดจากข้อผิดพลาดในการเรียกใช้ API messages
และสามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนเพย์โหลดการส่ง
คุณต้องตรวจสอบก่อนว่าผู้ติดต่อนั้นมีอยู่ไม่ ก่อนที่จะส่งข้อความ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีดำเนินการดังกล่าวได้ในเอกสารประกอบผู้ติดต่อ
ข้อผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเนื่องจากยังไม่ได้เริ่มต้นใช้งาน Coreapp ซึ่งหมายความว่าการลงทะเบียนอาจยังไม่เสร็จเรียบร้อย โปรดลองลงทะเบียนอีกครั้งก่อนที่จะโทรไปยังปลายทางอื่น หลังจากที่ติดตั้ง WhatsApp Business API ขั้นตอนแรกคือการเข้าสู่ระบบ ขั้นตอนที่สองคือการลงทะเบียน สองขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่จำเป็นก่อนที่จะทำการร้องขอไปยังปลายทางอื่นใด
บิวด์ทั้งหมดของไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API มีเวลาหมดอายุ 6 เดือนนับจากวันที่ออก หากคุณเห็นข้อผิดพลาดนี้ ให้อัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นที่ออกล่าสุดในทันทีที่เป็นไปได้
WhatsApp ดำเนินการทดลองเพื่อวัดและทำความเข้าใจผลกระทบของการแจ้งเตือน WhatsApp Business API เกี่ยวกับประสบการณ์ผู้ใช้และผลิตภัณฑ์โดยรวมโดยทั่วไป หากผู้ใช้ที่คุณกำลังส่งข้อความถึงอยู่ในการทดลองดังกล่าว พวกเขาอาจจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากคุณ แม้ว่าได้เลือกที่จะรับข้อความแล้วก็ตาม
หากคุณได้รับข้อผิดพลาดที่คล้ายคลึงกันนี้ในขณะตั้งค่าการนำ AWS ไปใช้งาน ให้ลองเปลี่ยนเป็นชื่อสแตกที่ใช้อักขระไม่เกิน 8 ตัว
ชื่อประเทศ (รหัส 2 ตัวอักษร) [AU]:ชื่อรัฐหรือมณฑล/จังหวัด (ชื่อเต็ม) [Some-State]:ชื่อท้องที่ (เช่น เมือง) []:ชื่อองค์กร (เช่น บริษัท) [Internet Widgits Pty Ltd]:ชื่อหน่วยงานในองค์กร (เช่น ฝ่าย) []:ชื่อทั่วไป (เช่น เซิร์ฟเวอร์ FQDN หรือชื่อของคุณ) []:สตริงยาวเกินไป จะต้องมีความยาวน้อยกว่า 64 ไบต์ ชื่อทั่วไป (เช่น เซิร์ฟเวอร์ FQDN หรือชื่อของคุณ) []:ที่อยู่อีเมล []:ข้อผิดพลาด ไม่ได้ระบุอ็อบเจ็กต์ในไฟล์ config ปัญหาในการสร้างคำขอใบรับรอง คีย์อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นสำหรับ internal-wa-inc-name-LB-123456789.ap-southeast-1.elb.amazonaws.com
ถ้าโปรไฟล์ธุรกิจถูกสร้างขึ้นเพียงบางส่วน จะส่งคืนอ็อบเจ็กต์ profile
ที่ว่าง กรุณาอัพเกรดเป็น v2.21.4
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกรอกโปรไฟล์ธุรกิจของคุณได้ในเอกสารประกอบการตั้งค่าโปรไฟล์ธุรกิจ
รหัสข้อผิดพลาด 471
เกี่ยวข้องกับขีดจำกัดอัตราตามคุณภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบขีดจำกัดอัตราตามคุณภาพ
ข้อผิดพลาดการตรวจสอบความถูกต้องของด้านการส่งเทมเพลตข้อความและเหตุผลที่คุณมองเห็นข้อผิดพลาดดังกล่าวมีดังต่อไปนี้
template
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เอกสารประกอบเทมเพลตข้อความสื่อสำหรับไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API ที่ทำงานในเวอร์ชั่น 2.21.6 เมื่อไคลเอ็นต์ตัดการเชื่อมต่อจากเซิร์ฟเวอร์ อาจยังคงตัดการเชื่อมต่อเพียงไม่กี่นาที (ไม่เกิน 4 นาที) แล้วจึงจะพยายามเชื่อมต่ออีกครั้ง การอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่น 2.23.4 จะช่วยลดเวลาหยุดทำงานลงได้ เมื่อไคลเอ็นต์พยายามเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์
ก่อนหน้า v2.29.x
เคยมีความเป็นไปได้ที่คิวข้อความขาออกจะมีขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีจุดบกพร่อง การอัพเกรดเป็น v2.29.3
จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
Coreapp จะตรวจสอบไดเรกทอรี /usr/local/waent/data
และ /usr/local/waent/log
ภายในคอนเทนเนอร์ Coreapp เพื่อให้แน่ใจว่ามีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่างน้อย 10 MB มิฉะนั้นจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงนี้
ตรวจสอบบันทึกและไดเรกทอรีข้อมูลของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่เพียงพอ
ขณะนี้ยังไม่มีวิธีในการดำเนินการเช่นนั้น หากคุณไม่สามารถจัดการการตอบกลับที่เข้ามาจากผู้ใช้ของคุณบน WhatsApp ขอแนะนำให้ส่งข้อความตอบกลับอัตโนมัติที่จะส่งต่อข้อความไปยังช่องทางที่รองรับที่เหมาะสมของคุณ
คุณควรลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ที่สอง และเรียกใช้สแตก CloudFormation ที่สองหรืออินสแตนซ์ Docker สำหรับการทดสอบ หากคุณมีไคลเอ็นต์ WhatsApp Business API สองตัวที่กำลังใช้งานโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์เดียวกัน เซิร์ฟเวอร์จะนำคุณออกมาเพราะคีย์การเข้ารหัสจะขัดแย้งกัน เราแนะนำให้มีสิ่งแวดล้อมที่สองที่คุณสามารถใช้เพื่อทดสอบอินสแตนซ์ที่ไม่ใช่การใช้งานจริงของคุณ ก่อนที่คุณจะทำการย้ายระบบประเภทใดก็ตามบนไคลเอ็นต์การทำงานจริงของคุณ
การตรวจสอบสถานภาพไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถสอบถามได้บ่อยเท่าที่จำเป็น
อ่านเอกสารประกอบสถิติ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถิติแอพพลิเคชั่นและฐานข้อมูลที่คุณสามารถสอบถามได้ สถิติแอพพลิเคชั่นจัดเก็บไว้ในหน่วยความจำและสามารถสอบถามข้อมูลในราคาถูก สถิติฐานข้อมูลต้องใช้ทรัพยากรมากกว่า และควรสอบถามเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ธุรกิจของคุณจะไม่ได้รับแจ้งเมื่อลูกค้าเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ WhatsApp ของตน เมื่อคุณใช้โหนด contacts
สถานะสำหรับหมายเลขนั้นจะเป็น invalid
ถ้าหมายเลขโทรศัพท์ของลูกค้าไม่ได้ใช้งานแล้ว แต่ลูกค้ายังใช้ WhatsApp อยู่ ลูกค้าจะยังคงมีสิทธิ์เข้าถึง WhatsApp ต่อไปจนกว่า/หากหมายเลขโทรศัพท์ถูกกำหนดใหม่หรือลงทะเบียนใหม่
WhatsApp จะตรวจสอบยืนยันให้แน่ชัดว่าหมายเลขที่ให้มานั้นเป็นของโทรศัพท์จริงๆ หรือไม่ ข้อเท็จจริงที่ผู้ใช้มีบัญชี WhatsApp เป็นข้อพิสูจน์ว่าพวกเขายืนยันหมายเลข และไม่มีผู้อื่นใช้หมายเลขนั้นเพื่อลงทะเบียนบน WhatsApp ตามมา อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การรับประกันตำแหน่งทางกายภาพของ SIM การ์ด
ในทางตรงกันข้าม หากโทรศัพท์ของผู้ใช้สูญหายหรือถูกขโมย ก็สามารถปิดใช้งานบัญชี WhatsApp ของตนได้ เพื่ออ่านเพิ่มเติมว่าผู้ใช้ปิดใช้งานบัญชีของตนอย่างไร ดูคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโทรศัพท์ที่สูญหายและถูกขโมย
ไม่ได้ ไม่มีวิธีการใดที่จะใช้ WhatsApp Business API ตรวจหาอุปกรณ์หลายเครื่องที่ใช้หมายเลขเดียวกันได้เลย
เพย์โหลดข้อความจากผู้ใช้สามารถเป็นได้ทั้งไฟล์ข้อความหรือไฟล์สื่อ
สำหรับข้อความ เชื่อว่าไม่มีอันตรายที่ได้รับการระบุใดๆ
สำหรับไฟล์สื่อ:
auto_download
เป็นอาร์เรย์เปล่าได้ โปรดติดต่อฝ่ายสนับสนุน พร้อมด้วยข้อมูลใดๆ ที่คุณมี เราจะสืบสวนและปิดการใช้งานหมายเลขปลอมใดๆ
เริ่มจากรุ่น v2.18.26 ตำแหน่งข้อมูลสถิติแอพอนุญาตให้ส่งออกเกณฑ์ชี้วัดภายในในรูปแบบตัวอักษร Prometheus ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบการติดตามอินสแตนซ์
ไคลเอ็นต์ API ภายในองค์กรของ WhatsApp Business จำเป็นต้องมีฐานข้อมูลเพื่อจัดเก็บคีย์ต่างๆ ในการถอดรหัสข้อความที่ส่งระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ระบบจะเข้ารหัสข้อความทั้งหมดบน WhatsApp ด้วยคีย์ผู้ส่งและคีย์ผู้รับ คีย์ของลูกค้าจะจัดเก็บอยู่บนอุปกรณ์มือถือของลูกค้านั้นๆ ส่วนคีย์ของธุรกิจก็จะอยู่ในฐานข้อมูลของธุรกิจ โปรดเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของ WhatsApp
คุณสามารถเลือกใช้ API ระบบคลาวด์ของ WhatsApp Business แทนได้ ซึ่ง Meta จะโฮสต์ฐานข้อมูลของธุรกิจเอาไว้ โดย API ระบบคลาวด์ช่วยให้คุณสามารถใช้ WhatsApp Business API ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของคุณเอง เรียนรู้เพิ่มเติม