การจอง

การจองช่วยให้คุณวางแผนและซื้อแคมเปญได้ด้วยต้นทุนคงที่ โดยเสนอการเข้าถึงที่มีการปรับให้เหมาะสมและความถี่ของโฆษณาที่มีการควบคุม ในขณะเดียวกันก็ช่วยคุณคาดการณ์ประสิทธิภาพของแคมเปญได้ด้วย ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับวิธีซื้อโฆษณาบนทีวีแบบเดิมๆ ขั้นตอนนี้เป็นตัวเลือกเฉพาะทางขั้นสูงที่ผู้ลงโฆษณาส่วนใหญ่จะใช้ต่อเมื่อต้องการให้มั่นใจว่าโฆษณาจะเข้าถึงบัญชีในศูนย์บัญชีจำนวนหนึ่งได้อย่างแน่นอน

การจองใช้ได้กับทุกประเภทโฆษณาและอุปกรณ์ เนื่องจากเป้าหมายของ Meta อิงจากผู้คนจริงๆ ไม่ใช่คุกกี้ เราจึงสามารถคาดการณ์การเข้าถึงและควบคุมความถี่สำหรับทุกอุปกรณ์ได้แม่นยำกว่า

ข้อจำกัด

• ใช้งานได้กับบัญชีโฆษณาบางบัญชี โปรดดูพารามิเตอร์ CAN_USE_REACH_AND_FREQUENCYของบัญชีโฆษณา
• stop_time ของชุดโฆษณาต้องอยู่ภายใน 180 วันของการคาดการณ์
• นอกจากนี้ บัญชียังมีข้อจำกัดตามประเทศ โปรดตรวจสอบด้วยการเรียก API GET ไปยัง https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>?fields=rf_spec
• เลือกเพียงหนึ่งประเทศต่อครั้งเท่านั้นใน target_spec
• ไม่มีเวอร์ชั่น iOS ขั้นต่ำสำหรับ user_os เช่น iOS_ver_2.0_and_above
• เมื่อสร้างหรืออัพเดตแคมเปญการจอง คุณจะไม่สามารถกำหนดงบประมาณต่อวันหรือตลอดอายุการใช้งาน ขีดจำกัดอิมเพรสชั่นต่อวันหรือตลอดอายุการใช้งาน ความถี่สูงสุดในการแสดงผลหรือราคาประมูลภายนอก หรือช่อง PacingType ได้

ค้นหา rf_spec เพื่อดูข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องดังนี้

ผลลัพธ์จะมีลักษณะดังนี้

{
  "rf_spec": {
    "min_reach_limits": {
      "US": 1000000,
      "CA": 1000000,
    },
    "countries": [
      "US",
      "CA",
    ],
    "min_campaign_duration": {
      "US": 3,
      "CA": 3,
    },
    "max_campaign_duration": {
      "US": 30,
      "CA": 30,
    },
    "max_days_to_finish": {
      "US": 56,
      "CA": 56,
    }
  }
}

สร้างการคาดการณ์

การคาดการณ์ประกอบด้วยจำนวนบัญชีในศูนย์บัญชีที่โฆษณาของคุณเข้าถึงได้ในช่วงวันที่ โดยอิงจากการเข้าถึง ความถี่ กลุ่มเป้าหมาย และงบประมาณที่กำหนด ค่าประมาณการจองช่วยให้คุณจำลองผลลัพธ์ตลอดอายุการใช้งานของแคมเปญได้ และจะปรับตามวัตถุประสงค์ งบประมาณ กลุ่มเป้าหมาย รูปแบบและตำแหน่งการจัดวาง ความปลอดภัยของแบรนด์ เป้าหมายด้านประสิทธิภาพ และการตั้งค่าการควบคุมความถี่

การแก้ไขแคมเปญการจองสามารถทำได้หลังการจอง แต่เมื่อแคมเปญเริ่มทำงานแล้ว คุณจะไม่สามารถแก้ไขหรือหยุดชั่วคราวได้ ยกเว้นแต่จะเปลี่ยนชิ้นงานโฆษณาของคุณ หากคุณแก้ไขเฉพาะชิ้นงานโฆษณา การคาดการณ์ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง คุณสามารถลบแคมเปญเพื่อยกเลิกและหยุดได้ แต่จะต้องจองแคมเปญอีกครั้ง ซึ่งคุณอาจได้รับ CPM และการคาดการณ์ผลลัพธ์ของแคมเปญใหม่ จองเฉพาะแคมเปญที่คุณตั้งใจจะใช้งานเท่านั้น** สำหรับการทดสอบ ให้จำกัดการจองสำหรับการทดสอบให้มีขนาดเล็กและสั้นที่สุด และยกเลิกเฉพาะเมื่อจำเป็น เนื่องจากนี่คือคลังโฆษณาจริงที่เราจองไว้ให้คุณ

ข้อจำกัด

ข้อจำกัดเริ่มต้นสำหรับการคาดการณ์มีดังนี้

• บัญชีในศูนย์บัญชีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 300,000 บัญชี
• การเข้าถึงของบัญชีในศูนย์บัญชีขั้นต่ำ 200,000 บัญชี
• ต้องแสดงชุดโฆษณาขั้นต่ำ 1 วันและสูงสุด 90 วัน (ระบบจะคำนวณจำนวนวันเป็นจำนวนวันตลอดระยะเวลาแคมเปญ ตัวอย่างเช่น หากแคมเปญเริ่มต้นเวลา 12:00 น. ในวันที่ 1 และสิ้นสุดเวลา 10:00 น. ในวันที่ 2 จะถือว่าเผยแพร่แคมเปญเป็นเวลา 2 วัน แม้จะมีส่วนต่างของชั่วโมงน้อยกว่า 24 ชั่วโมงก็ตาม)
• เวลาหยุดชุดโฆษณาต้องอยู่ภายใน 180 วันของการคาดการณ์
• แคมเปญต้องสิ้นสุดหลัง 06:00 น.ในวันสุดท้ายตามโซนเวลาของบัญชีโฆษณา

การอ่านการคาดการณ์

โปรดระบุช่องสำหรับรายละเอียด หากต้องการดูreachfrequencyprediction ทั้งหมดสำหรับบัญชี ให้ส่งคำขอ HTTP GET ไปที่ https://graph.facebook.com/{API_VERSION}/act_{AD_ACCOUNT_ID}/reachfrequencypredictions?fields={COMMA_SEPERATED_FIELD_LIST}

หากต้องการเข้าถึง reachfrequencyprediction ทั้งหมดที่อิงจาก ID reachfrequencyprediction ให้ส่งคำขอ HTTP GET ที่มีช่องที่ต้องการ ดังนี้ https://graph.facebook.com/{API_VERSION}/{RF_PREDICTION_ID}?fields={COMMA_SEPERATED_FIELD_LIST}

Meta จะส่งคืน ID ตามค่าเริ่มต้น โปรดดูรายละเอียดของช่องที่การคาดการณ์ความถี่การเข้าถึง, การอ่าน

รหัสสถานะการตอบกลับ

รหัสสถานะการตอบกลับจะแสดงผลลัพธ์ status ที่อาจเกิดขึ้นใน reachfrequencyprediction ซึ่งอาจแสดงข้อกำหนดเบื้องต้นที่บังคับใช้ และในอนาคตข้อจำกัดดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปตามบัญชีโฆษณาหรือตามประเทศ:

การใช้การคาดการณ์

ระบุ ID การคาดการณ์ของคุณพร้อมข้อมูลเพื่อสร้าง ID ใหม่ที่ทำหน้าที่เป็น ID การจอง จากนั้นจึงแนบ ID การจองเข้ากับชุดโฆษณาของคุณ การสร้างการจองจะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถใช้คลังโฆษณาได้ ดังนั้นคุณควรแนบ ID การจองก่อนหมดเวลา

หากการจองสำเร็จ เราจะจองคลังโฆษณาให้คุณชั่วคราว คุณมีเวลาหนึ่งชั่วโมงโดยประมาณหลังการจองในการกำหนดโฆษณาให้กับชุดโฆษณา

จอง

จองการคาดการณ์สำหรับชุดโฆษณาของคุณเพื่อล็อคราคาและจะได้มีการเข้าถึงที่คาดการณ์ได้ จองกลุ่มเป้าหมายที่ระบุด้วย reachfrequencyprediction สำหรับเวลาที่ตั้งไว้ พร้อมด้วย reserve สำหรับ action คุณสามารถสร้างการจองหลายครั้งด้วย ID การคาดการณ์เพียง ID เดียว ตัวอย่างเช่น:

curl \
-F 'action=reserve' \
-F 'rf_prediction_id=<RF_PREDICTION_ID>' \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/reachfrequencypredictions'
 
// Response 
{"id":9876543210"}

หากต้องการจองคลังโฆษณาตามการคาดการณ์ ให้ส่งคำขอ HTTP POST ไปที่ https://graph.facebook.com/{API_VERSION}/act_{AD_ACCOUNT_ID}/reachfrequencypredictions

คุณสามารถจองการคาดการณ์ตามจุดที่กำหนดบน curve_budget_reach สำหรับ reach, budget และ impression แทนที่ทูเพิลเดิมของการเข้าถึง/งบประมาณของการคาดการณ์ ใช้ช่องเหล่านี้:

Meta จะจองการคาดการณ์แบบไม่ประสานเวลา ดังนั้น คุณควรสุ่มและตรวจสอบสถานะของการคาดการณ์ ในเบื้องต้น สถานะของการคาดการณ์คือ 2 (รอดำเนินการ) เมื่อเสร็จสมบูรณ์ สถานะจะเป็น 1, SUCCESS หรือ 15FAIL ซึ่งหมายความว่าเราขาดคลังโฆษณาเพื่อจองให้เสร็จสมบูรณ์

เนื่องจากระบบการจองมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด คุณอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงสภาพความพร้อมใช้งานของคลังโฆษณาเล็กน้อยในระหว่างเวลาการคาดการณ์และเวลาการจองของคุณ อย่างไรก็ตาม Meta ให้น้ำหนักกับค่าที่คุณได้รับในเวลาการคาดการณ์ ตราบใดที่การเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล

กำหนดให้กับชุดโฆษณา

หลังจากจองการคาดการณ์สำเร็จแล้ว โปรดสร้างชุดโฆษณาด้วยการคาดการณ์นั้น:

curl \
-F "rf_prediction_id=<RF_PREDICTION_ID>" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<AD_SET_ID>"

หากต้องการกำหนดการคาดการณ์ให้สำเร็จ ชุดโฆษณาจะต้องตรงตามเกณฑ์ต่อไปนี้:

• ไม่ต้องระบุ:
• start_time - ที่ได้จากการคาดการณ์
• end_time - ที่ได้จากการคาดการณ์
• targeting - ที่ได้จากการคาดการณ์
• bid_amount
• optimization_goal
• lifetime_budget หรือ daily_budget
• คุณสามารถกำหนดการจองให้กับชุดโฆษณาได้ แม้คุณจะไม่มีโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ แต่คุณต้องมีโฆษณาที่กำลังเผยแพร่อย่างน้อยหนึ่งชิ้นก่อนเริ่มแสดงชุดโฆษณาที่จองไว้
• คุณต้องใส่ rf_prediction_id ซึ่งแนบการคาดการณ์เข้ากับชุดโฆษณาใหม่
• แอตทริบิวต์แคมเปญโฆษณาของ buying_type คือ RESERVED

คุณสามารถแนบ reachfrequencyprediction เข้ากับชุดโฆษณาเพื่อแก้ไขการคาดการณ์ของชุดโฆษณานั้นๆ ได้เช่นกัน โดยส่งคำขอ POST ไปยัง https://graph.facebook.com/{ad_set_id} ที่มี rf_prediction_id สำหรับ reachfrequencyprediction ที่คุณต้องการใช้

ข้อจำกัดในชุดโฆษณามีดังต่อไปนี้

• ตัวเลือกแพลตฟอร์มผู้เผยแพร่: facebook, instagram
• ตัวเลือกตำแหน่งการจัดวางบน Facebook: feed และ rightcolumn
• ตัวเลือกตำแหน่งการจัดวางบน Instagram: stream, story, explore, explore_home และ reels หากตำแหน่งการจัดวางประกอบด้วย instagram คุณต้องใช้ destination_ids ไม่ใช่ destination_id ช่อง destination_ids ควรประกอบด้วย ID เพจ Facebook ที่ใช้เป็น destination_id รวมถึง ID บัญชี Instagram
• ต้องเป็นกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองหรือหมวดหมู่พาร์ทเนอร์อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งสอง
• ไม่อนุญาตให้กำหนดเป้าหมายโดยมีการยกเว้นกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนเว็บไซต์ แฟน หรือการมีส่วนร่วมกับวิดีโอ
• promoted_object ของชุดโฆษณาต้องตรงกับ destination_id ของการคาดการณ์ สำหรับโพสต์บนเพจ ต้องตรงกับ ID เพจที่ระบุไว้และสำหรับ ID โฆษณาแอพ ต้องตรงกับ ID ของแอพที่ระบุไว้
• รองรับช่วงจังหวะจัดแสดงโฆษณาแบบมาตรฐานและแบบกำหนดเวลา แต่ไม่รองรับการแสดงโฆษณาแบบเร่งความเร็ว

เราเก็บค่าบริการแคมเปญการจองตามอิมเพรสชั่นที่แสดงตามจริง หากเลยเวลาเริ่มต้นแคมเปญไปแล้วและชุดโฆษณายังไม่มีโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ แคมเปญจะไม่สามารถแสดงได้และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการ Meta จะปล่อยโฆษณาในคลังที่เหลือ แต่เราอาจมีบทลงโทษสำหรับบัญชีโฆษณาที่มีรายการซ้ำ

เมื่อคุณสร้างแคมเปญด้วยการใช้ประเภทการซื้อแบบการจองของ Meta แสดงว่าคุณยินยอมที่จะจ่ายในราคาที่เสนอสำหรับคลังโฆษณาที่คุณจองไว้ หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงขนาดกลุ่มเป้าหมายหรือความถี่โฆษณา ราคาของคุณจะเปลี่ยนแปลงเช่นกัน คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาก่อนที่แคมเปญจะเริ่มต้น คุณสามารถแก้ไขชิ้นงานโฆษณาได้จนกว่าแคมเปญจะเริ่มต้น

การจัดการโฆษณา

ชุดโฆษณาการจองอาจประกอบด้วยโฆษณามากมาย ดังนั้นคุณสามารถเพิ่มโฆษณาได้ทุกเมื่อ หากชุดโฆษณาเริ่มการทำงานโดยไม่มีโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ คุณจะต้องสร้างโฆษณาชิ้นแรกภายใน 24 ชั่วโมงสำหรับชุดโฆษณาที่มีระยะเวลา 3 ถึง 30 วัน หรือภายใน 6 ชั่วโมงสำหรับชุดโฆษณาที่มีระยะเวลา 1 ถึง 2 วัน ไม่เช่นนั้น เราจะลบการจอง

ถอนการคาดการณ์และแก้ไขชุดโฆษณา

คุณสามารถแก้ไขหรือหยุดแคมเปญการจองชั่วคราวก่อนที่แคมเปญดังกล่าวจะเริ่มต้นได้ เมื่อแคมเปญเริ่มต้นไปแล้ว คุณจะสามารถแก้ไขได้เฉพาะชิ้นงานโฆษณา งบประมาณ หรือขยายวันที่สิ้นสุดเท่านั้น หากคุณแก้ไขเฉพาะชิ้นงานโฆษณา การคาดการณ์ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง

แต่หากคุณเปลี่ยนงบประมาณหรือวันที่สิ้นสุด การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวอาจสร้างการคาดการณ์ใหม่ให้กับแคมเปญของคุณ ซึ่งจะแสดงให้คุณเห็นในค่าประมาณในการจอง

คุณไม่สามารถหยุดแคมเปญการจองชั่วคราวหลังจากที่เริ่มต้นไปแล้วได้ แต่สามารถลบแคมเปญเพื่อยกเลิกแคมเปญนั้นได้ทุกเมื่อ

หากต้องการแก้ไขหรือหยุดชุดโฆษณาชั่วคราวหลังจากที่เริ่มต้นไปแล้ว โปรดดูการหยุดชั่วคราวหรือเริ่มชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่อีกครั้ง และการแก้ไขชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ หากต้องการลบชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ โปรดดูชุดโฆษณา, ข้อมูลอ้างอิง ระบบจะเก็บค่าบริการตามจำนวนอิมเพรสชั่นที่เกิดขึ้น

โปรดทราบว่า หากต้องการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เราไม่แนะนำอย่างยิ่งที่จะให้คุณลบโฆษณาทั้งหมดในขณะที่ชุดโฆษณาการจองกำลังทำงานอยู่

หากคุณกำหนดการจองให้กับชุดโฆษณาก่อนชุดโฆษณาจะเริ่มเผยแพร่ คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแอตทริบิวต์ส่วนใหญ่ได้ นอกจากคุณจะถอนการจองนั้น โปรดส่งคำขอ HTTP POST ไปยังชุดโฆษณาและกำหนด rf_prediction_id ให้เป็น 0 คุณสามารถแก้ไขได้เฉพาะแอตทริบิวต์ name บนอ็อบเจ็กต์ของชุดโฆษณาเท่านั้น

วิธีถอนการจอง:

curl \
-F "rf_prediction_id=0" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<AD_SET_ID>"

เมื่อชุดโฆษณาเริ่มเผยแพร่แล้ว จะไม่สามารถถอนการจองและไม่สามารถแก้ไขแอตทริบิวต์ของชุดโฆษณาได้เช่นกัน ยกเว้นแอตทริบิวต์โฆษณาในรายการที่อนุญาตตามที่ระบุด้านล่าง:

• name
• creative_id
• creative_spec
• conversion_specs
• tracking_specs
• view_tags

การหยุดชั่วคราวและเริ่มต้นชุดโฆษณาใหม่

คุณสามารถหยุดชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ชั่วคราวได้ตามขั้นตอนในชุดโฆษณา, ข้อมูลอ้างอิง หากคุณพักชุดโฆษณานานเกิน 30 นาที เราจะไม่รับประกันการคาดการณ์สำหรับชุดโฆษณาดังกล่าว

หากต้องการงานชุดโฆษณาที่พักเกิน 30 นาทีอีกครั้ง คุณต้องทำการคาดการณ์ใหม่ ใช้ POST ไปที่ reachfrequencypredictions โปรดดูสร้างการคาดการณ์ และ จองการคาดการณ์ คุณควรส่ง existing_campaign_id สำหรับชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ที่ต้องการเปิดใช้งานอีกครั้งในคำขอ หลังจากสร้างและจองการคาดการณ์ใหม่เสร็จแล้ว โปรดแนบ reachfrequencyprediction เข้ากับชุดโฆษณาที่มี HTTP POST ไปยัง https://graph.facebook.com/{ad_set_id} โดยระบุ rf_prediction_id สำหรับการคาดการณ์ที่คุณต้องการใช้

การแก้ไขชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่

คุณสามารถทำการอัพเดตเหล่านี้ได้หลังจากที่ชุดโฆษณาเริ่มทำงาน

• เพิ่มหรือลดงบประมาณและการเข้าถึงของชุดโฆษณา งบประมาณหรือการเข้าถึงควรมากกว่าการใช้จ่ายในปัจจุบันหรือการเข้าถึงที่นำเสนอแล้ว
• ขยายกำหนดเวลาของชุดโฆษณาเป็น 90 วัน

คุณไม่สามารถแก้ไขหรือพักชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ได้ หากชุดโฆษณาดังกล่าวตรงตามหนึ่งในเกณฑ์ต่อไปนี้:

• นำเสนอต่ำกว่าเป้าอย่างมาก นำเสนอน้อยกว่า 10% ของการคาดการณ์ ชุดการโฆษณามีการใช้จ่ายมากกว่างบประมาณ
• ชุดโฆษณาที่เผยแพร่เพียง 1 วัน
• ชุดโฆษณาจะสิ้นสุดภายใน 24 ชั่วโมง

หากต้องการแก้ไขชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ โปรดสร้างการคาดการณ์ใหม่ โปรดดูสร้างการคาดการณ์และจองการคาดการณ์ คุณควรส่ง existing_campaign_id สำหรับชุดโฆษณาที่กำลังเผยแพร่ที่ต้องการเปิดใช้งานอีกครั้งในคำขอ

หลังจากสร้างและจองการคาดการณ์เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถแนบ reachfrequencyprediction เข้ากับชุดโฆษณาด้วยการส่งคำขอ HTTP POST ไปยัง https://graph.facebook.com/{ad_set_id} ที่กำหนด rf_prediction_id เป็น ID ของ reachfrequencyprediction ที่คุณต้องการใช้

การใช้กลุ่มเป้าหมายที่จองไว้ครั้งก่อน

หากคุณยกเลิกการจอง ระบบจะปล่อยคลังโฆษณาที่จองไว้ให้ผู้ลงโฆษณารายอื่น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้กลุ่มเป้าหมายเดิมจากการคาดการณ์ที่จองไว้ครั้งก่อนได้ หากคุณไม่พร้อมที่จะใช้ การดำเนินการนี้ทำให้เราสามารถพิจารณาคลังโฆษณาเพิ่มเติมเพื่อสร้างการคาดการณ์ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยกเลิกการจองที่มีอยู่

เมื่อคุณสร้างการจอง ให้ระบุ rf_prediction_id_to_share ด้วย นี่คือ ID ของการคาดการณ์ครั้งก่อน ที่ทำให้การจองครั้งก่อนเป็นโมฆะ คุณจึงสามารถใช้คลังโฆษณานี้สำหรับการจองที่เพิ่งสร้างใหม่ได้

หากต้องการจองการคาดการณ์ใหม่ คุณต้องส่งพารามิเตอร์เพิ่มเติม rf_prediction_id_to_release ซึ่งก็คือ ID ของการจองครั้งก่อน

การหมุนเวียนและการจัดลำดับโฆษณา

คุณสามารถหมุนเวียนโฆษณาในชุดโฆษณาที่คุณกำลังใช้ คุณไม่จำเป็นต้องถอนการจองออกจากชุดโฆษณาเพื่อทำเช่นนั้น เพิ่มโฆษณาอย่างน้อย 1 ชิ้นลงในชุดโฆษณาและรอจนกว่าชุดโฆษณานั้นจะเริ่มเผยแพร่ ในขั้นตอนนี้ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงสถานะของโฆษณาช่วงแรกให้หยุดชั่วคราวได้ คุณต้องมีโฆษณาที่กำลังเผยแพร่อย่างน้อย 1 ชิ้นในชุดโฆษณา

คุณสามารถออกแบบลำดับโฆษณาที่นำเสนอได้ ขั้นแรก โปรดสร้างชุดโฆษณาและโฆษณา จากนั้นโปรดระบุลำดับที่ระดับชุดโฆษณาใน creative_sequence โฆษณาแต่ละชิ้นในชุดโฆษณานี้อาจไม่ปรากฏ อาจปรากฏเพียงครั้งเดียว หรือปรากฏหลายครั้งในลำดับ

หากความยาวอาร์เรย์ creative_sequence เท่ากับศูนย์ หมายความว่าคุณไม่ได้ใช้การเรียงลำดับ หากความยาวไม่ใช่ศูนย์ เราขอแนะนำให้ตั้งให้เท่ากับ frequency_cap ใน rf_prediction_id หากความยาวมากกว่า frequency_cap เราจะตัดโฆษณาล่าสุดหลายรายการออกจากอาร์เรย์ หากความยาวน้อยกว่า frequency_cap เราจะเติมอาร์เรย์อัตโนมัติด้วยการเรียงลำดับตั้งแต่ต้นซ้ำ หากต้องการให้ผลลัพธ์ชัดเจน ให้กำหนดความยาวของ creative_sequence เท่ากับจำนวน frequency_cap

แต่ละโฆษณาในลำดับจะมีสถานะ ACTIVE, PENDING_REVIEW หรือ CREDIT_CARD_NEEDED ระบบจะแสดงโฆษณาชิ้นพิเศษในลำดับแก่ผู้ใช้ก็ต่อเมื่อแสดงโฆษณาก่อนหน้าทั้งหมดในลำดับแล้วเท่านั้น ระบบจะไม่แสดงโฆษณาที่ไม่อยู่ใน creative_sequence

ไม่สามารถหยุดชั่วคราว จัดเก็บ หรือลบโฆษณาทั้งหมดในชุดโฆษณาที่ใช้การจัดลำดับโฆษณาได้ ไม่ว่าจะอยู่ในลำดับหรือไม่ก็ตาม

ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้กับชุดโฆษณาการจองเท่านั้น กล่าวคือ buying_type ของแคมเปญโฆษณาหลักเท่ากับ RESERVED และชุดโฆษณานี้ได้ตั้งค่า rf_prediction_id แล้ว

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูเอกสารชุดโฆษณา

การจองบน Instagram

สำหรับการเข้าถึงที่คาดการณ์ได้บน Instagram คุณสามารถสร้างแคมเปญการจองโดยตั้งค่า buying_type เป็น RESERVED

การจองช่วยให้คุณวางแผนและจองแคมเปญการรับรู้และการมีส่วนร่วม ซึ่งปรับให้เหมาะสมสำหรับการเข้าถึง การเพิ่มการจดจำโฆษณา และ ThruPlay

การประมาณการเข้าถึงในตัวจัดการโฆษณา และ API สามารถเป็นแนวทางให้กับพาร์ทเนอร์ในการคาดการณ์สิ่งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นได้ เราให้ความสำคัญกับชุมชน Instagram เป็นอันดับแรก โดยเราพยายามบรรลุวัตถุประสงค์การเข้าถึงอย่างระมัดระวัง และคาดหวังที่จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต นโยบายทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้การประมาณการจองของ Facebook นั้นมีผลกับ Instagram ด้วยเช่นกัน

รหัสข้อผิดพลาด

ตัวอย่าง

การสร้าง reachfrequencyprediction สำหรับแอพ destination_id:

curl \
-F 'target_spec={"geo_locations": {"countries":["US"]}, "age_max":35, "age_min":26, "genders":[2], "publisher_platforms":["facebook"], "facebook_positions":["feed"]}' \
-F 'start_time=1388534400' \
-F 'end_time=1389312000' \
-F 'frequency_cap=4' \
-F 'reach=1000000' \
-F 'budget=3000000' \
-F 'destination_id=<APP_ID>' \
-F 'prediction_mode=1' \
-F "objective=MOBILE_APP_INSTALLS" \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/reachfrequencypredictions'

{"id":"67890123456"}

การสร้าง reachfrequencyprediction สำหรับเพจ destination_id:

curl \
-F 'target_spec={"geo_locations": {"countries":["US"]}, "age_max":35, "age_min":26, "genders":[2], "publisher_platforms":["facebook"], "facebook_positions":["feed"]}' \
-F 'start_time=1388534400' \
-F 'end_time=1389312000' \
-F 'frequency_cap=4' \
-F 'reach=1000000' \
-F 'budget=3000000' \
-F 'destination_id=<PAGE_ID>' \
-F 'prediction_mode=1' \
-F "objective=POST_ENGAGEMENT" \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/reachfrequencypredictions'

{"id":"67890123456"}

การสร้าง reachfrequencyprediction สำหรับแอพ destination_id ด้วยตำแหน่งการจัดวางบน Instagram:

curl \
-F 'target_spec={"geo_locations": {"countries":["US"]}, "age_max":35, "age_min":26, "genders":[2], "publisher_platforms":["facebook","instagram"], "device_platforms":["mobile"]}' \
-F 'start_time=1388534400' \
-F 'end_time=1389312000' \
-F 'frequency_cap=4' \
-F 'reach=1000000' \
-F 'budget=3000000' \
-F 'destination_ids=[<APP_ID>,<INSTAGRAM_ACCOUNT_ID>]' \
-F 'prediction_mode=1' \
-F "objective=MOBILE_APP_INSTALLS" \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/reachfrequencypredictions'

{"id":"67890123456"}

สุ่มตำแหน่งข้อมูลต่อไปนี้ผ่านคำขอ HTTP GET เพื่อเรียกดูสถานะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้สถานะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ 2

https://graph.facebook.com/67890123456?fields=status

สถานะต้องเป็น 1 (สำเร็จ) จึงจะสามารถแนบเข้ากับชุดโฆษณาหรือดำเนินการจองได้

การจองการคาดการณ์:

curl \
-F 'action=reserve' \
-F 'rf_prediction_id=<RF_PREDICTION_ID>' \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/reachfrequencypredictions'
 
{"id":"9876543210"}

สุ่มตำแหน่งข้อมูลต่อไปนี้ผ่านคำขอ HTTP GET เพื่อเรียกดูสถานะไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้สถานะเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ 2

https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<PREDICTION_ID>?fields=status

สถานะต้องเป็น 1 (สำเร็จ) จึงจะสามารถแนบเข้ากับชุดโฆษณาได้ ลองตั้งค่าโครงสร้างแคมเปญของคุณด้วยการสร้างแคมเปญ ชุดโฆษณา ชิ้นงานโฆษณา โฆษณา และกำหนดการจองให้กับชุดโฆษณา

สร้างแคมเปญโฆษณา:

curl \
-F "name=Test" \
-F "buying_type=RESERVED" \
-F "status=ACTIVE" \
-F "objective=POST_ENGAGEMENT" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/campaigns

{"id":"1122334455"}

สร้างชุดโฆษณา:

curl  \
-F "name=TestReachSet" \
-F "status=1" \
-F "campaign_id=<CAMPAIGN_ID>" \
-F "rf_prediction_id=<RF_PREDICTION_ID>" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adsets"

{"id":"09876543"}

สร้างชิ้นงานโฆษณา:

curl \
-F "name=sample creative" \
-F "type=1" \
-F "title=hello world" \
-F "body=hi i'm an ad" \
-F "link_url="https://www.facebook.com/" \
-F "image_hash=4aca812b4eadb72818a2c4124abd121a" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adcreatives"

{"id":"1323123123123"}

สร้างโฆษณา:

// Create an ad
curl \
-F "name=my ad" \
-F "adset_id=<AD_SET_ID>" \
-F "creative={'creative_id':<CREATIVE_ID>}" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/ads"

{"id":"3213213123"}

การกำหนดการคาดการณ์ใหม่ให้กับชุดโฆษณา:

curl \
-F "rf_prediction_id=<RF_PREDICTION_ID>" \
-F "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<AD_SET_ID>"