API คอนเวอร์ชั่นเป็นวิธีการผสานการทำงานที่ Meta แนะนำในการส่งเหตุการณ์แบบออฟไลน์และเหตุการณ์ที่หน้าร้านไปยัง Meta เพื่อใช้ในการวัดผล การระบุที่มา และการกำหนดเป้าหมายโฆษณา โดยหน้านี้จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีส่งเหตุการณ์แบบออฟไลน์ผ่าน API คอนเวอร์ชั่นโดยตรงหรือผ่านการผสานการทำงานกับพาร์ทเนอร์
เหตุการณ์แบบออฟไลน์ที่ส่งผ่าน API คอนเวอร์ชั่นจะต้องเชื่อมโยงกับชุดข้อมูล
Datasets allow advertisers to connect and manage event data from web, app, store and business messaging event sources to the Conversions API. Datasets may show event data from any of these integrations that you choose to set up:
Datasets enable you to view all customer activities from a single interface. They also allow you to reduce the effort to build and maintain multiple API integrations.
In Events Manager, advertisers have different options to create a dataset depending on their starting point. Or you can create a brand new dataset in Events Manager by linking during offline event set creation or through an existing mobile app or during messaging event set creation information. Note that linking a dataset to an application is required before sending mobile app events to the Conversions API and only one application can be linked to a dataset. See more details and instructions here.
คุณสามารถเรียกใช้คำสั่ง GET
ไปยัง https://graph.facebook.com/v16.0/{ads-pixel-id}/is_consolidated_container เพื่อตรวจสอบว่าชุดข้อมูลของผู้ลงโฆษณาถูกรวมเข้าด้วยกันและมีสิทธิ์ส่งเหตุการณ์แบบออฟไลน์โดยใช้ API คอนเวอร์ชั่นหรือไม่
ผู้ลงโฆษณาสามารถใช้การตั้งค่าที่อธิบายไว้ที่นี่ และดูชุดพารามิเตอร์ปัจจุบันที่สามารถส่งผ่าน API คอนเวอร์ชั่นได้ สำหรับการส่งเหตุการณ์แบบออฟไลน์และเหตุการณ์ในร้านค้า คุณสามารถแชร์ช่องต่อไปนี้ในเพย์โหลดได้
action_source
เป็น physical_store
สำหรับเหตุการณ์แบบออฟไลน์และเหตุการณ์ในร้านค้าทั้งหมด ทั้งนี้ โปรดทราบว่าเหตุการณ์บนเซิร์ฟเวอร์ทุกประเภทจะต้องระบุพารามิเตอร์นี้ เมื่อใช้ API คอนเวอร์ชั่น แสดงว่าคุณยอมรับว่าพารามิเตอร์ action_source
นั้นถูกต้องเท่าที่คุณทราบupload_tag
ในการอัพโหลดเหตุการณ์แบบออฟไลน์สำหรับผู้ลงโฆษณาที่ใช้ API แบบเดิมกับเหตุการณ์แบบออฟไลน์รายการต่อไปนี้ประกอบด้วยพารามิเตอร์ข้อมูลลูกค้าที่โดยปกติแล้วจะใช้กับเหตุการณ์แบบออฟไลน์และเหตุการณ์ในร้านค้า
ชื่อพารามิเตอร์ | พารามิเตอร์ | ต้องแฮชหรือไม่ |
---|---|---|
ที่อยู่อีเมล |
| ต้องแฮช |
หมายเลขโทรศัพท์มือถือ |
| ต้องแฮช |
เพศ |
| ต้องแฮช |
วันเกิด |
| ต้องแฮช |
นามสกุล |
| ต้องแฮช |
ชื่อจริง |
| ต้องแฮช |
เมือง |
| ต้องแฮช |
รัฐในสหรัฐฯ |
| ต้องแฮช |
รหัสไปรษณีย์ |
| ต้องแฮช |
ประเทศ |
| ต้องแฮช |
ตัวระบุโฆษณาของ Apple |
| ต้องแฮช |
ID การโฆษณาของ Android |
| ต้องแฮช |
ID ผู้ใช้ภายนอก |
| แนะนำเป็นอย่างยิ่ง |
ID ข้อมูลลูกค้าจากโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม |
| ไม่ต้องแฮช |
เนื้อหาในส่วนต่อไปนี้ประกอบด้วยพารามิเตอร์ที่กำหนดเองที่เหตุการณ์แบบออฟไลน์และเหตุการณ์ในร้านค้านิยมใช้ โปรดดูช่องข้อมูลที่กำหนดเองเพิ่มเติมที่รายการช่องทั้งหมดที่เรายอมรับให้ใช้กับ API คอนเวอร์ชั่นในลิงก์ต่อไปนี้
พารามิเตอร์ | คำอธิบาย |
---|---|
ประเภท: จำนวนเต็ม | จำเป็นต้องระบุ ประทับเวลา UNIX ของเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่น ตัวอย่าง: |
| จำเป็นต้องระบุ ประเภทเหตุการณ์ ตัวอย่าง: |
| ระบุหรือไม่ก็ได้ จัดเก็บข้อมูลตำแหน่งเกี่ยวกับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่น ตัวอย่าง: "store_data": { "store_page_id": 8576093908, // FBID "brand_page_id": 10236898932// FBID } |
| จำเป็นต้องระบุ รหัสสกุลเงิน ISO จำนวน 3 ตัวอักษรสำหรับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นนี้ จำเป็นต้องระบุสำหรับเหตุการณ์ ตัวอย่าง: |
| จำเป็นต้องระบุ ค่าของเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่น จำเป็นต้องระบุสำหรับเหตุการณ์ ตัวอย่าง: |
| ระบุหรือไม่ก็ได้
ตัวอย่าง: |
ประเภท: อาร์เรย์ JSON | ระบุหรือไม่ก็ได้ จำเป็นต้องระบุ หากคุณผสานโฆษณาของคุณเข้ากับแค็ตตาล็อก จำเป็นต้องระบุ: แนะนำ: จำเป็นต้องระบุ: แนะนำ: |
ประเภท: พจนานุกรม JSON | ระบุหรือไม่ก็ได้ ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นนี้ ตัวอย่าง: |
ประเภท: สตริง | ระบุหรือไม่ก็ได้ ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันสำหรับธุรกรรมหรือคำสั่งซื้อแต่ละรายการในชุดเหตุการณ์แบบออฟไลน์ ตัวอย่างเช่น สำหรับการขายปลีกอาจเป็น ID ใบเสร็จ ตัวอย่าง: |
ประเภท: สตริง | ระบุหรือไม่ก็ได้ ตัวระบุที่ไม่ซ้ำกันเพื่อแยกแยะเหตุการณ์ในคำสั่งซื้อหรือธุรกรรมเดียวกัน ตัวอย่าง: |
หากต้องการส่งเหตุการณ์ใหม่ ให้ส่งคำขอ POST
ไปยัง API คอนเวอร์ชั่นจากเส้นทางนี้: https://graph.facebook.com/{API_VERSION}/{DATASET_ID}/events?access_token={TOKEN}
เมื่อคุณโพสต์ไปยังจุดเชื่อมโยงนี้ Meta จะสร้างเหตุการณ์แบบออฟไลน์และเหตุการณ์ในร้านค้าขึ้นมาใหม่ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เอกสารสำหรับผู้พัฒนาต่อไปนี้
ด้านล่างนี้คือภาพรวมที่แสดงให้เห็นว่าพารามิเตอร์มีการปรับให้เข้ากับสกีมาโดยรวมในเพย์โหลดอย่างไร:
curl -X POST \ -F 'data=[ { "event_name": "Purchase", "event_time": 1674000041, "user_data": { "em": [ "309a0a5c3e211326ae75ca18196d301a9bdbd1a882a4d2569511033da23f0abd" ], "ph": [ "254aa248acb47dd654ca3ea53f48c2c26d641d23d7e2e93a1ec56258df7674c4", "6f4fcb9deaeadc8f9746ae76d97ce1239e98b404efe5da3ee0b7149740f89ad6" ] }, "custom_data": { "currency": "usd", "value": 123.45, "contents": [{ "id": "product123", "quantity": 1 }] }, "action_source": "physical_store" } ]' \ -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/v15.0/<DATASET_ID>/events
เราขอแนะนำให้อัพโหลดแบบเรียลไทม์หรืออัพโหลดเป็นประจำทุกวันเพื่อให้ได้ผลการปรับให้เหมาะสมที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ระบบสามารถเปรียบเทียบข้อมูลแบบออฟไลน์กับประสิทธิภาพของโฆษณาที่คุณกำลังเผยแพร่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
event_time
สามารถเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะส่งเหตุการณ์ไปยัง Meta ได้สูงสุด 7 วัน หาก event_time
ใน data
ผ่านมาแล้วมากกว่า 7 วัน เราจะส่งคืนข้อผิดพลาดสำหรับคำขอทั้งหมด และจะไม่ประมวลผลเหตุการณ์ สำหรับเหตุการณ์ออฟไลน์และเหตุการณ์ที่หน้าร้านซึ่งมี physical_store
เป็น action_source
คุณควรอัพโหลดการดำเนินการภายใน 62 วันนับจากการสนทนา
ข้อมูลที่คุณอัพโหลดจะถูกประมวลผลแบบเรียลไทม์เพื่อให้คุณสามารถดูผลลัพธ์ได้ทันทีที่คุณเพิ่มข้อมูล คุณสามารถดูเอกสารจากศูนย์ช่วยเหลือเกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับข้อมูลเหตุการณ์แบบออฟไลน์ได้
คุณสามารถลบได้เฉพาะข้อมูลเหตุการณ์แบบออฟไลน์ที่ซ้ำกับเหตุการณ์แบบออฟไลน์อื่นๆ เท่านั้น ซึ่งต่างจากการตั้งค่าการลบข้อมูลซ้ำระหว่างเหตุการณ์ API คอนเวอร์ชั่นและเหตุการณ์พิกเซลของ Meta โดยเรารองรับวิธีการลบข้อมูลซ้ำ 2 วิธี ได้แก่ การลบข้อมูลซ้ำตาม order_id หรือตาม user ซึ่งการลบข้อมูลซ้ำจะใช้ช่องต่างๆ รวมกัน ได้แก่ dataset_id
, event_time
, event_name
, item_number
และช่องคีย์ตามวิธีการในเพย์โหลดของเหตุการณ์นั้นๆ
การลบข้อมูลซ้ำโดยค่าเริ่มต้นจะใช้ order_id พร้อมด้วยช่องต่างๆ ที่อธิบายไว้ข้างต้นรวมกัน แต่หากไม่มี order_id ในเพย์โหลด ระบบจะใช้ตรรกะการลบข้อมูลซ้ำตาม user
ตัวอย่างเช่น หากมีคำสั่งซื้อ 2 รายการที่มี event_time
, event_name
เหมือนกัน และมี order_id เดียวกันหรือมีชุดพารามิเตอร์ข้อมูลลูกค้าที่ไม่มี order_id เหมือนกัน เราจะถือว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ซ้ำและจะใช้ข้อมูลจากเหตุการณ์แรก ซึ่งการลบข้อมูลซ้ำตาม user จะใช้ได้กับช่องพารามิเตอร์ข้อมูลลูกค้าใน 2 เพย์โหลดนี้เท่านั้น
การลบข้อมูลซ้ำจะมีกรอบเวลาสูงสุดอยู่ที่ 7 วัน
คุณสามารถใช้เครื่องมือช่วยเหลือเพย์โหลดเพื่อสร้างข้อมูลเพย์โหลด โดยมีวิธีดังนี้
app
หากมี เมื่อใช้ API คอนเวอร์ชั่น แสดงว่าคุณยอมรับว่าพารามิเตอร์ action_source
นั้นถูกต้องเท่าที่คุณทราบใช้เครื่องมือทดสอบเหตุการณ์ในตัวจัดการเหตุการณ์สำหรับการทดสอบ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าเครื่องมือทดสอบเหตุการณ์รองรับเฉพาะเหตุการณ์บนเว็บและเหตุการณ์ในแอพเท่านั้น