โฆษณารุ่นยานยนต์

หากต้องการตั้งค่าโฆษณารุ่นยานยนต์ คุณต้องมีแค็ตตาล็อก Facebook แค็ตตาล็อก คือ คอนเทนเนอร์รูปแบบหนึ่งที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของคุณและเป็นแหล่งที่คุณสามารถอัพโหลดสินค้าคงคลังของคุณได้ คุณสามารถใช้แค็ตตาล็อกได้หลากหลายวิธีภายในแอพในเครือ Meta โดยในสินค้าคงคลังของคุณนั้น สินค้าแต่ละชิ้นถือเป็นข้อเสนอยานพาหนะที่ไม่ซ้ำกันที่คุณต้องการโปรโมทในแคมเปญของคุณ

โฆษณารุ่นยานยนต์ของ Meta ใช้ประโยชน์จากสัญญาณแสดงความประสงค์ข้ามอุปกรณ์เพื่อโปรโมทรุ่นยานพาหนะและข้อเสนอที่เกี่ยวข้องบน Facebook และ Instagram โดยอัตโนมัติ แค็ตตาล็อกรุ่นยานพาหนะและข้อเสนอประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับข้อเสนอ ยานพาหนะที่เกี่ยวข้อง และตลาด/ภูมิภาคที่ข้อเสนอนี้ใช้ได้

ใช้ตัวจัดการการค้าเพื่อสร้างและจัดการแค็ตตาล็อกของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างแค็ตตาล็อกคุณภาพสูง

ก่อนเริ่มต้น

ก่อนที่คุณจะตั้งค่าแค็ตตาล็อก เราขอแนะนำแนวทางดังนี้

• หากคุณจัดการหลายแค็ตตาล็อกสำหรับธุรกิจที่ต่างๆ หรือต้องการให้สิทธิ์เอเจนซี่ในการเข้าถึงแค็ตตาล็อก คุณอาจจำเป็นต้องตั้งค่าตัวจัดการธุรกิจ

• หากต้องการใช้ API ชุดแค็ตตาล็อก คุณจำเป็นต้องมีระดับสิทธิ์การเข้าถึงของ API การตลาดที่เหมาะสมและต้องยอมรับข้อกำหนดในการใช้บริการโดยการสร้างแค็ตตาล็อกแรกของคุณผ่านตัวจัดการธุรกิจ โปรดดูข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับแค็ตตาล็อก

เราแนะนำให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ในการตั้งค่าโฆษณารุ่นยานยนต์

ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่าแค็ตตาล็อกรุ่นยานพาหนะและข้อเสนอของคุณ

สร้างไฟล์ฟีด

หากต้องการสร้างแค็ตตาล็อก คุณควรเชื่อมต่อฟีดข้อมูลหรืออัพโหลดข้อมูลไปยัง Meta โดยข้อมูลควรมีช่องที่จำเป็นครบทั้งหมดสำหรับยานพาหนะที่คุณต้องการโฆษณา โฆษณารุ่นยานยนต์ต้องใช้ฟีดสินค้าเพียง 1 รายการเท่านั้น โปรดดูข้อมูลอ้างอิง - โฆษณารุ่นยานยนต์ - ช่องที่รองรับ

เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบให้แน่ใจว่ารูปแบบฟีดของคุณเป็นไปตามแนวทางที่แนะนำของเรา โปรดดูข้อมูลอ้างอิง - โฆษณารุ่นยานยนต์ — รูปแบบที่รองรับ

ไฟล์ตัวอย่างที่ดาวน์โหลดได้

Deep Link

ระบุ Deep Link ในฟีดข้อมูลตามข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับลิงก์ที่ไปยังแอพ ข้อมูล Deep Link ในฟีดมีความสำคัญมากกว่าข้อมูลใดๆ ที่ Meta เก็บรวบรวมด้วยเมตาดาต้าของลิงก์ที่ไปยังแอพโดยเว็บครอว์เลอร์ของเรา

หากคุณมีข้อมูล Deep Link จากลิงก์ที่ไปยังแอพอยู่แล้ว คุณก็ไม่จำเป็นต้องระบุข้อมูลนี้ Meta จะใช้ข้อมูลจากลิงก์ที่ไปยังแอพเพื่อแสดง Deep Link ที่ถูกต้อง หากต้องการแสดง Deep Link ในโฆษณาของคุณ โปรดดูโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+, เทมเพลตโฆษณา เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Deep Link ของสินค้า

สร้างแค็ตตาล็อก

เมื่อไฟล์ฟีดของคุณพร้อมแล้ว ให้สร้างแค็ตตาล็อก

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดเวลาการอัพโหลด

เราขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณใช้การอัพโหลดฟีดตามกำหนดเวลาเพื่อเผยแพร่ฟีดข้อเสนอล่าสุดไปยัง Meta โดยอัตโนมัติแทนการต้องอัพโหลดไฟล์ใหม่ด้วยตนเอง

คุณสามารถส่งคำขอ POST ไปยังจุดเชื่อมโยง product_feeds จากเส้นทางต่อไปนี้: /{product_catalog_id}/product_feeds

คุณสามารถระบุพารามิเตอร์ schedule ในตำแหน่งข้อมูล POST เพื่อเพิ่มกำหนดเวลาให้กับฟีดได้

ตัวอย่าง - ตั้งค่าการอัพโหลดตามกำหนดเวลา

curl -X POST \
  -F 'name=Offer Feed' \
  -F 'schedule={"interval":"DAILY","url":"http://www.example.com/offer_feed.tsv","hour":"22"}' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<CATALOG_ID>/product_feeds

ตัวอย่าง — สร้างฟีดข้อเสนอ

curl \
  -F 'name= offer feed' \
  -F 'access_token=<access_token>' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<catalog_id>/product_feeds

ตัวอย่าง — อัพโหลดไฟล์ฟีดข้อเสนอในเครื่อง

curl \
  -F "file=@offer_feed.csv;type=text/csv" \
  -F "access_token=<access_token>" \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<offer_feed_id>/uploads

ขั้นตอนที่ 3: สร้างชุดสินค้า

หลังจากอัพโหลดฟีดเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเลือกสร้างชุดสินค้าเพื่อกรองข้อเสนอของคุณเพิ่มเติม ชุดสินค้าคือชุดรายการสินค้าที่มีความละเอียดยิ่งขึ้นที่คุณต้องการโปรโมทโดยอิงตามกลยุทธ์แคมเปญของคุณในตอนที่ตั้งค่าแคมเปญ

ตัวอย่าง—สร้างชุดสินค้าที่ประกอบด้วยข้อเสนอให้เช่าเท่านั้น

curl \
 -F 'name=lease offer set' \
 -F 'filter={"offer_type":{"eq":"lease"}}' \
 -F 'access_token=<ACCESS TOKEN>' \
 https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<CATALOG_ID>/product_sets

คุณสามารถสร้างชุดสินค้าได้จาก UI ของตัวจัดการการค้า หรือใช้ API เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดสินค้าในแค็ตตาล็อกสินค้า

ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งพิกเซลของ Meta

พิกเซลของ Meta เป็นส่วนย่อยของโค้ด JavaScript ที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามกิจกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ เมื่อผู้เข้าชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ เหตุการณ์พิกเซลจะทำงานเพื่อตอบสนองต่อการดำเนินการของผู้เข้าชม เหตุการณ์พิกเซลคือคำขอ http(s) ที่ใช้ทรัพยากรน้อยที่ส่งจากเบราว์เซอร์ของผู้เข้าชมไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Meta พร้อมกับข้อมูลเพิ่มเติมบางส่วนเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น เช่น URL ของหน้าที่ผู้เข้าชมดูอยู่, ID สินค้า ราคาสินค้า และอื่นๆ ดังนั้น คุณจึงต้องปรับเปลี่ยนเทมเพลตเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มโค้ด JavaScript ส่วนหนึ่งในบางหน้าเพื่อให้สามารถดำเนินการติดตามได้

การตั้งค่าโค้ดพิกเซลอย่างเหมาะสมนั้นสำคัญต่อโฆษณารุ่นยานยนต์ เนื่องจากอัลกอริทึมแมชชีนเลิร์นนิ่งของเราต้องอาศัยข้อมูลการโต้ตอบของผู้เข้าชมกับสินค้าในเว็บไซต์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เก็บจากโค้ดพิกเซล หากไม่มีข้อมูลเหล่านี้ โฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ จะไม่สามารถให้คำแนะนำที่ดีแก่ลูกค้าเป้าหมายที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะผันตัวเป็นลูกค้า

เหตุการณ์มาตรฐานสำหรับใช้กับพิกเซล

คุณสามารถตั้งค่าพิกเซลของ Meta โดยใช้เหตุการณ์มาตรฐานและพารามิเตอร์ที่มีการกำหนดไว้ซึ่งจะส่งสัญญาณที่เฉพาะเจาะจงไปยังข้อเสนอ

เหตุการณ์พิกเซลมาตรฐานสำหรับโฆษณารุ่นยานยนต์

พารามิเตอร์ที่จำเป็นต้องระบุและแนะนำให้ส่งกลับพร้อมเหตุการณ์พิกเซลมาตรฐานของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพิกเซลของ Meta

ประเภทเนื้อหา

• content_type = vehicle_offer — จำเป็นต้องระบุ ใช้เพื่อให้ตรงกับการดำเนินการบนเว็บไซต์ต่อข้อเสนอในโฆษณา ซึ่งช่วยให้ Meta สามารถวัดผลประสิทธิภาพและปรับแคมเปญของคุณให้เหมาะสมยิ่งขึ้นไป

• content_ids = อาร์เรย์ของ ID ของข้อเสนอยานพาหนะจากฟีดข้อเสนอ — ระบุหรือไม่ก็ได้ แต่แนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ระบุสำหรับทุกเหตุการณ์ ทั้งนี้เป็นตัวเลือกที่จะระบุหรือไม่ก็ได้สำหรับเหตุการณ์ Search เท่านั้น ช่องนี้จะช่วยให้ Meta วัดผลและปรับโฆษณาของคุณให้เหมาะสมยิ่งขึ้นไป

หากคุณมีพิกเซลอยู่แล้ว คุณสามารถเพิ่ม content_typevehicle_offer ต่อท้ายโค้ดพิกเซลของคุณ และเพิ่มพารามิเตอร์ต่อไปนี้

<!-- vehicle offer id information not available-->
 
<!-- Meta Pixel Code -->
<script>
!function(f,b,e,v,n,t,s){if(f.fbq)return;n=f.fbq=function(){n.callMethod?
n.callMethod.apply(n,arguments):n.queue.push(arguments)};if(!f._fbq)f._fbq=n;
n.push=n;n.loaded=!0;n.version='2.0';n.queue=[];t=b.createElement(e);t.async=!0;
t.src=v;s=b.getElementsByTagName(e)[0];s.parentNode.insertBefore(t,s)}(window,
document,'script','https://connect.facebook.net/en_US/fbevents.js');
 
fbq('init', '<FB_PIXEL_ID>'); // pixel id
fbq('track', "PageView");
fbq('track', 'ViewContent', {
                content_type: 'vehicle_offer',
                offer_types: ['lease', 'finance', 'cash'],
                make: 'Endomoto',
                model: 'EndoHatch'
                year: '2017',
                trim: 'GE'
});
 
</script>
<!-- End Meta Pixel Code -->

ขั้นตอนที่ 5: สร้างกลุ่มเป้าหมายของคุณ

หากต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่สนใจข้อเสนอ คุณจะต้องตั้งค่าพิกเซลของ Meta นอกจากนี้ โปรดดู "ติดตั้งพิกเซลของ Meta" พิกเซลควรเผยแพร่อยู่ในทุกหน้าเว็บที่ติดตามการดำเนินการซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีการใช้งานทางธุรกิจของคุณ วิธีนี้จะช่วย Meta ในการปรับแคมเปญของคุณเพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม

ตัวอย่าง

• หากต้องการปรับให้เหมาะสมเพื่อจำนวนการดูหน้ารายละเอียดข้อเสนอ ให้ติดตั้งพิกเซลลงในหน้านั้นและตั้งค่าเหตุการณ์พิกเซล ViewContent
• หากต้องการปรับให้เหมาะสมเพื่อการส่งข้อมูลลูกค้า ให้ติดตั้งพิกเซลในหน้าที่ปรากฏหลังจากส่งข้อมูล และตั้งค่าเหตุการณ์พิกเซล Lead เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์มาตรฐาน

เชื่อมโยงพิกเซลหรือแอพกับแค็ตตาล็อกของคุณ

ตัวอย่าง — การใช้ API

curl \
  -F 'external_event_sources=["<PIXEL_ID>","<APP_ID>"]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/external_event_sources

ตัวอย่าง — การใช้ UI

1. ไปที่ตัวจัดการธุรกิจ → การตั้งค่าธุรกิจ
2. ในแผงด้านซ้าย ให้เลือกแหล่งข้อมูล → แค็ตตาล็อก
3. ค้นหาและเลือกแค็ตตาล็อกของคุณ จากนั้นคลิกเชื่อมโยงแหล่งที่มา เพื่อเชื่อมโยงพิกเซลและแอพกับแค็ตตาล็อก

สร้างกลุ่มที่มาของเหตุการณ์

กลุ่มที่มาของเหตุการณ์ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาและผู้พัฒนาสามารถแมปแหล่งที่มาของข้อมูลคอนเวอร์ชั่นหลายแหล่งไปยังอ็อบเจ็กต์รายการเดียว เพื่อใช้วัดผล วิเคราะห์ กำหนดเป้าหมาย และปรับให้เหมาะสมได้

การใช้ API

curl \
  -F 'name=name of your event group' \
  -F 'event_sources=["<PIXEL_ID>", "<APP_ID>"]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<BUSINESS_ID>/event_source_groups

การใช้ UI

1. ไปที่ตัวจัดการธุรกิจ → การตั้งค่าธุรกิจ
2. ในแผงด้านซ้าย ให้เลือกแหล่งข้อมูล → กลุ่มที่มาของเหตุการณ์
3. คลิกเพิ่มเพื่อสร้างกลุ่มที่มาของเหตุการณ์ใหม่

สร้างกลุ่มเป้าหมายของข้อเสนอยานพาหนะ

curl \
  -F 'name=Viewed in Last 30 days' \
  -F 'subtype=CLAIM' \
  -F 'claim_objective=VEHICLE_OFFER' \
  -F 'content_type=vehicle_offer' \
  -F 'event_source_group=<EVENT_SOURCE_GROUP_ID>' \
  -F 'inclusions=[
  {        
      "event": "ViewContent",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  },
  {
      "event": "Search",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  },
  {
      "event": "AddToWishlist",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  }
  ]' \
  -F 'exclusions=[{
      "event":"Lead",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  }]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/customaudiences

ตัวอย่าง — บันทึกข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้าชมหน้ายานพาหนะของคุณซึ่งอยู่ในชุดยานพาหนะหนึ่งๆ

curl \
  -F 'name=Viewed vechicles in vehicle set in Last 30 days' \
  -F 'subtype=CLAIM' \
  -F 'claim_objective=VEHICLE_OFFER' \
  -F 'content_type=vehicle_offer' \
  -F 'event_source_group=<EVENT_SOURCE_GROUP_ID>' \
  -F 'rule={"vehicle_set_id":{"eq":"<VEHICLE_SET_ID>"}}' \
  -F 'inclusions=[
  {        
      "event": "ViewContent",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  },
  {
      "event": "Search",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  },
  {
      "event": "AddToWishlist",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  }
  ]' \
  -F 'exclusions=[{
      "event":"Lead",
      "retention": {"min_seconds":0,"max_seconds":2592000}
  }]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/customaudiences

ขั้นตอนที่ 6: แก้ไขจุดบกพร่องในฟีดยานยนต์ของคุณ (ไม่บังคับ)

เมื่อใช้เครื่องมือแก้ไขจุดบกพร่องของฟีดสินค้า คุณจะสามารถวางในฟีดสินค้า และตรวจสอบความถูกต้องของฟีดเพื่อหาข้อผิดพลาดและคำเตือนได้

หากต้องการแก้ไขจุดบกพร่องในฟีดยานยนต์ของคุณ ให้ไปที่เมนูดร็อปดาวน์ของตัวเลือกแค็ตตาล็อก แล้วเลือกยานพาหนะ

การดำเนินการนี้จะเป็นประโยชน์ในช่วงต้นของการผสานการทำงานโฆษณายานยนต์ในการตรวจสอบว่า Meta รองรับฟีดที่คุณอาจมีอยู่แล้วในปัจจุบันหรือไม่

เรียนรู้เพิ่มเติม

• การตั้งค่าแค็ตตาล็อก
• พิกเซลของ Meta
• แค็ตตาล็อก หลักปฏิบัติที่ดีที่สุด ศูนย์ช่วยเหลือ
• ชุดสินค้าในแค็ตตาล็อกสินค้า
• เหตุการณ์มาตรฐาน