การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเป็นโซลูชั่นในการยืนยันตัวตนและการอนุญาตที่แนะนำสำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่สร้างการผสานการทำงานกับเครื่องมือ Meta Business เพื่อสร้างโซลูชั่นการตลาด การส่งข้อความ และการขาย

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจช่วยให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์การเข้าสู่ระบบในแดชบอร์ดแอพ Meta ได้ตามความต้องการของแอพ คุณสามารถระบุประเภทโทเค็นการเข้าถึง สินทรัพย์ และสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณจำเป็นต้องใช้ แล้วบันทึกเป็นการกำหนดค่า ผู้ใช้แอพจะพบการกำหนดค่านี้ขณะเข้าสู่ระบบ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้แอพสามารถให้สิทธิ์การเข้าถึงสินทรัพย์ธุรกิจของตนแก่แอพของคุณได้

ข้อกำหนด

  • แอพ Meta ของคุณจะต้องเป็นแอพประเภทธุรกิจ
  • ผู้ใช้แอพจะต้องให้สิทธิ์การอนุญาตทั้งหมดที่แอพของคุณร้องขอในระหว่างการเข้าสู่ระบบ มิฉะนั้นแอพของคุณจะไม่ได้รับสิทธิ์การอนุญาตใดๆ
  • ระบบจะให้สิทธิ์การอนุญาต email และ public_profile แก่แอพทั้งหมดโดยอัตโนมัติ แต่การติดตั้งแอพแต่ละรายการจะต้องมีสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อย 1 สิทธิ์
  • หากต้องการให้บริการแก่ธุรกิจที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของหรือจัดการ แอพของคุณจะต้องได้รับอนุมัติให้มีสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงผ่านการตรวจสอบแอพของ Meta
  • แอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงจะต้องเข้ารับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อคงสิทธิ์การเข้าถึงไว้ อย่างไรก็ตาม แอพที่ใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะมีข้อกำหนดในการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อบังคับอย่างต่อเนื่องบางประการลดน้อยลง เนื่องจากข้อกำหนดเหล่านี้มีไว้สำหรับการเข้าถึงสิทธิ์การอนุญาตและฟีเจอร์ทางธุรกิจเท่านั้น

สิทธิ์การอนุญาตที่รองรับ

ตารางด้านล่างแสดงถึงสิทธิ์การอนุญาตที่ใช้งานได้ของการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

สิทธิ์การอนุญาตที่ใช้งานได้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ (WhatsApp)
ads_management

ads_read

business_management

catalog_management

commerce_account_manage_orders

commerce_account_read_orders

commerce_account_read_reports

commerce_account_read_settings

commerce_manage_accounts

email

ไม่มี

instagram_basic

instagram_content_publish

instagram_manage_comments

instagram_manage_insights

instagram_manage_messages

instagram_shopping_tag_products

leads_retrieval

manage_app_solutions

manage_fundraisers

pages_manage_cta

page_events

pages_manage_ads

pages_manage_engagement

pages_manage_instant_articles

pages_manage_metadata

pages_manage_posts

pages_messaging

pages_read_engagement

pages_read_user_content

pages_show_list

private_computation_access

public_profile

ไม่มี

publish_video

read_insights

read_audience_network_insights

whatsapp_business_management

whatsapp_business_messaging

ฟีเจอร์ที่รองรับ

  • สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา
  • สิทธิ์การเข้าถึงโปรไฟล์ผู้ใช้ในสินทรัพย์ธุรกิจ
  • เจ้าหน้าที่
  • สิทธิ์การเข้าถึงเนื้อหาแบบสาธารณะบน Instagram
  • API วิดีโอถ่ายทอดสด
  • การกล่าวถึงเพจ
  • สิทธิ์การเข้าถึงเนื้อหาแบบสาธารณะของเพจ
  • สิทธิ์การเข้าถึงเมตาดาต้าแบบสาธารณะของเพจ

โทเค็นการเข้าถึงที่รองรับ

คุณสามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเพื่อรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ได้

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

คุณควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากแอพดำเนินการแบบเรียลไทม์ตามข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากแอพของคุณกำหนดให้ผู้ใช้ต้องป้อนข้อความแล้วคลิกปุ่มเพื่อโพสต์เนื้อหาไปยังเพจของตน นอกจากนี้ คุณยังควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากคุณจำเป็นต้องมี API ที่ต้องใช้สิทธิ์การอนุญาตระดับผู้ดูแลบนพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

คุณควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจหากแอพของคุณดำเนินการแบบตั้งโปรแกรมอัตโนมัติกับสินทรัพย์ของลูกค้าธุรกิจโดยไม่ต้องใช้อินพุตจากผู้ใช้แอพ หรือจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนใหม่ในอนาคต ตัวอย่างเช่น:

  • การเรียกใช้ API คอนเวอร์ชั่นระหว่างเซิร์ฟเวอร์แบบอัตโนมัติรายชั่วโมง
  • การส่งข้อความตอบกลับอัตโนมัติเป็นเพจ Facebook หรือพอร์ตโฟลิโอ WhatsApp Business
  • การอัพเดตอย่างต่อเนื่องโดยอัตโนมัติในสินค้าคงคลังของแค็ตตาล็อกสินค้า
  • การเรียกดูข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาแบบอัตโนมัติ

ข้อกำหนด

หากต้องการเรียกดูโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจจากลูกค้าธุรกิจ คุณต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • แอพของคุณสามารถกำหนดให้เข้าสู่ระบบจากแพลตฟอร์มบนเว็บได้เพียงอย่างเดียว
  • ธุรกิจที่เริ่มต้นใช้งานแอพของคุณต้องมีหรือเต็มใจที่จะสร้างพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ
  • แอพของคุณต้องเชื่อมโยงกับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่คุณมีสิทธิ์การควบคุมโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องแยกจากพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่ลูกค้าธุรกิจของคุณเป็นเจ้าของ

หากต้องการทดสอบขั้นตอนของโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ ผู้ทดสอบจะต้องมีบทบาทในแอพและมีสิทธิ์การควบคุมธุรกิจของลูกค้าโดยสมบูรณ์

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบละเอียด

หากคุณต้องการการตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงคนละแบบสำหรับวัตถุประสงค์หรือแผนกที่แตกต่างกันไป คุณสามารถใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบละเอียดหลายรายการต่อธุรกิจของลูกค้าได้ เพื่อช่วยให้การผสานรวมของคุณสามารถขยายการรองรับได้ดีขึ้นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

โทเค็นการเข้าถึงแบบละเอียดยังคงมีไว้สำหรับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจของลูกค้ารายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ โดยไม่สามารถแชร์และเปิดให้ธุรกิจของลูกค้าอื่นๆ เข้าใช้ได้ รายการขอบเขตและสินทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบเดิม

ในการแยกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่โทเค็นถูกบุกรุก จะมีเพียงธุรกิจของลูกค้ารายดังกล่าวเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพอร์ตโฟลิโอธุรกิจทั้งหมดในทุกธุรกิจของลูกค้า

API การจัดการโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

เมื่อธุรกิจของลูกค้าติดตั้งแอพผ่านการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ และสร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ โทเค็นจะมี ID ธุรกิจของลูกค้ารวมอยู่ด้วย ID นี้แสดงถึงธุรกิจของลูกค้าและเป็น ID ที่แอพของคุณใช้เพื่อทำการเรียกใช้ API

ตำแหน่งข้อมูล /<CLIENT_BUSINESS_ID>/system_user_access_tokens ช่วยให้คุณสามารถจัดการโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจที่มีอยู่ได้ การดำเนินการต่างๆ มีดังต่อไปนี้

  • สร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบละเอียดจากโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจที่มีอยู่
  • ดึงข้อมูลโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจที่มีอยู่
พารามิเตอร์
อ็อบเจ็กต์คำอธิบาย

access_tokenสตริง

จำเป็นต้องระบุ โทเค็นการเข้าถึงนี้จำเป็นต้องมีสิทธิ์การอนุญาต business_management

appsecret_proofสตริง

จำเป็นต้องระบุappsecret_proof เป็นแฮช sha256 ของโทเค็นการเข้าถึงของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าการเรียก API นั้นมาจากเซิร์ฟเวอร์และมีความปลอดภัยมากขึ้น

assetจำนวนเต็ม

ระบุหรือไม่ก็ได้ เมื่อต้องการสร้างโทเค็นแบบละเอียดยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดรายการ ID ของ asset โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคได้ รายการองค์ประกอบจะต้องเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบจากโทเค็นการเข้าถึงแบบเดิม

fetch_onlyบูลีน

ระบุหรือไม่ก็ได้ แฟล็กที่คุณต้องใช้เพื่อดึงข้อมูลโทเค็นที่มีอยู่และระบุว่าการดำเนินงานนี้เป็นแบบอ่านเท่านั้น

scopeบูลีน

ระบุหรือไม่ก็ได้ เมื่อต้องการสร้างโทเค็นแบบละเอียดยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดรายการ ID ของ scope โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคได้ รายการสินทรัพย์จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตจากโทเค็นการเข้าถึงแบบเดิม

set_token_expires_in_60_daysบูลีน

ระบุหรือไม่ก็ได้ เมื่อคุณสร้างโทเค็นใหม่ ให้ตั้งค่าเป็น true เพื่อให้โทเค็นหมดอายุใน 60 วัน

system_user_idจำนวนเต็ม

ระบุหรือไม่ก็ได้ ID สำหรับผู้ใช้ระบบซึ่งรวมอยู่ในโทเค็นการเข้าถึง

ตัวอย่างคำขอ

มีการจัดรูปแบบเพื่อให้อ่านได้ง่าย

curl -i -X POST "https://graph.facebook.com/v21.0/<CLIENT_BUSINESS_ID>/system_user_access_tokens
    ?appsecret_proof=<APPSECRET_PROOF_HASH>
    &access_token=<ACCESS_TOKEN>
    &system_user_id=<SYSTEM_USER_ID>
    &fetch_only=true"

เมื่อดำเนินการสำเร็จ แอพของคุณจะได้รับการตอบกลับแบบ JSON พร้อมโทเค็นการเข้าถึงใหม่ที่จะใช้ในการเรียกใช้ API ครั้งต่อๆ ไป

{
  "access_token": "<NEW_ACCESS_TOKEN>" 
}

การเปรียบเทียบ

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง

สิทธิ์การเข้าถึงจะได้รับการมอบหมายอย่างชัดเจนในขณะที่มีการอนุญาต แอพของคุณจะเข้าถึงได้เพียงสินทรัพย์ที่กำหนดโดยลูกค้าธุรกิจ เมื่อลูกค้าดังกล่าวทำขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเรียบร้อยแล้ว ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเท่านั้น

สิทธิ์การเข้าถึงจะสืบทอดมาจากสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีปัจจุบันของผู้ใช้แอพของคุณ กล่าวคือ แอพของคุณจะเข้าถึงสินทรัพย์ธุรกิจได้เหมือนกับที่ผู้ใช้แอพเข้าถึงได้ในปัจจุบัน

การเชื่อมโยงบัญชี

เชื่อมโยงกับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจของลูกค้าธุรกิจแทนการเชื่อมโยงกับผู้ใช้แบบเจาะจง ผู้ดูแลทุกคนในกลุ่มผู้ดูแลสำหรับลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถให้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบแก่แอพของคุณได้

เชื่อมโยงกับบัญชี Facebook ส่วนตัวของผู้ใช้แอพของคุณ

การหมดอายุและการรีเฟรช

ค่าเริ่มต้นสำหรับการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์แบบออฟไลน์ทั่วไปคือ ไม่มีวันหมดอายุ

โทเค็นแบบใช้งานระยะสั้นสำหรับกิจกรรมออนไลน์ เช่น เว็บเบราว์เซอร์

การให้สิทธิ์ประเภท OAuth

การให้สิทธิ์แบบรหัสการให้อนุญาตเท่านั้น

การให้สิทธิ์จะเป็นแบบโดยนัยโดยค่าเริ่มต้น และสามารถรองรับการให้สิทธิ์แบบรหัสการให้อนุญาตได้เพื่อการรักษาความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น ใช้สำหรับลูกค้าที่ใช้ User-Agent เป็นหลัก เช่น เว็บเบราว์เซอร์และแอพมือถือ

การเป็นตัวแทน

ส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานของการผสานการทำงานผู้ให้บริการเทคโนโลยี โดยธุรกิจของลูกค้าเป็นผู้เริ่มกระบวนการผ่านการติดตั้งแอพของผู้ให้บริการเทคโนโลยี

แสดงถึงเซิร์ฟเวอร์หรือซอฟต์แวร์ที่เรียกใช้ API ไปยังสินทรัพย์ต่างๆ ที่เป็นของตัวจัดการธุรกิจหรือจัดการโดยตัวจัดการธุรกิจ

การยกเลิกโทเค็น

ลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถยกเลิกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจได้โดยไปที่ตัวจัดการธุรกิจ > การตั้งค่า > การตั้งค่าธุรกิจ > การผสานการทำงาน > แอพที่เชื่อมต่อ และลบแอพของคุณ

ลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถยกเลิกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ได้โดยไปที่ Facebook แล้วไปที่การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า > การรักษาความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบ > การผสานรวมธุรกิจ และลบแอพของคุณ

ประสบการณ์ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ

ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบผ่านโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบผ่านโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ
เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
เรากำลังประสบปัญหาในการเล่นวิดีโอนี้
เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
เรากำลังประสบปัญหาในการเล่นวิดีโอนี้

เริ่มต้นใช้งาน

ด้านล่างนี้คือขั้นตอนที่จำเป็นในการตั้งค่าการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ หากคุณยังไม่มีแอพ

สร้างแอพ

  1. ในแดชบอร์ดของแอพของ Meta ให้สร้างแอพประเภทธุรกิจ
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
  3. ในเมนูทางซ้ายมือ ให้เลือกการกำหนดค่า
  4. คุณสามารถเลือก + สร้างการกำหนดค่าเพื่อสร้างการกำหนดค่า หรือจะเลือกสร้างจากเทมเพลตเพื่อเลือกการกำหนดค่าที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของ Meta มา 1 รายการก็ได้ คุณสามารถสร้างการกำหนดค่าหลายรายการและแสดงต่อผู้ใช้กลุ่มต่างๆ ได้
  5. ตั้งชื่อการกำหนดค่าของคุณ
  6. เลือกประเภทของโทเค็นการเข้าถึงที่คุณต้องการขอจากลูกค้าธุรกิจของคุณ ได้แก่ โทรเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ และเวลาหมดอายุของโทเค็น หากคุณเลือกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ ผู้ใช้แอพของคุณจะเข้าสู่ระบบโดยใช้บัญชี Facebook ส่วนตัว หากคุณเลือกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ ระบบจะกำหนดให้ผู้ใช้แอพของคุณต้องเข้าสู่ระบบโดยใช้พอร์ตโฟลิโอธุรกิจ คุณจำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้เฉพาะในกรณีที่การกำหนดค่านี้จำเป็นต้องมีสิทธิ์การเข้าถึงสินทรัพย์ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น เพจ Facebook, บัญชีโฆษณา หรือบัญชี Instagram
  7. เลือกสินทรัพย์ทั้งหมดที่แอพของคุณต้องการเข้าถึง
  8. เลือกสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณต้องการ แล้วคลิกสร้าง

คุณจะได้รับ ID การกำหนดค่าที่คุณจะนำไปใช้ในโค้ดเพื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบ

สร้างการกำหนดค่าการสมัครใช้งานแบบฝังสำหรับแพลตฟอร์ม WhatsApp Business

หากต้องการสร้างการกำหนดค่าการสมัครใช้งานแบบฝังสำหรับ WhatApp ให้ไปที่คู่มือการสมัครใช้งานแบบฝังสำหรับ WhatsApp ของเรา

สร้างการกำหนดค่า API คอนเวอร์ชั่นสำหรับการส่งข้อความของธุรกิจ

หากต้องการสร้างการกำหนดค่า API คอนเวอร์ชั่นสำหรับการส่งข้อความของธุรกิจ ให้ไปที่ API การตลาด – คู่มือ API คอนเวอร์ชั่นสำหรับการส่งข้อความของธุรกิจของเรา

สร้างการกำหนดค่า API กราฟของ Instagram

หากต้องการสร้างการกำหนดค่า API กราฟของ Instagram ให้ไปที่เอกสารประกอบเกี่ยวกับ API กราฟของ Instagram ของเรา

เรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบ

เรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบโดยใช้ SDK รายการใดรายการหนึ่งของเรา (แนะนำ) หรือสร้างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบของคุณด้วยตนเอง

การเรียกใช้ด้วย SDK ของเรา

คุณสามารถใช้ SDK ใดก็ได้ของเราเพื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบโดยแทนที่รายการขอบเขต (สิทธิ์การอนุญาต) ที่แอพของคุณต้องการด้วย ID การกำหนดค่าและการให้สิทธิ์ประเภท OAuth ที่จำเป็นของโทเค็นการเข้าถึง

หากคุณไม่คุ้นเคยกับ SDK ของเรา เราขอแนะนำให้คุณติดตั้ง JavaScript SDK ก่อน และตั้งค่าให้ทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ของผู้บริโภคก่อนดำเนินการต่อ เนื่องจากตัวอย่างต่อไปนี้จะอ้างอิงถึง SDK ดังกล่าว

การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

ต่อไปนี้คือตัวอย่างเมธอด FB.login() ของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ โปรดทราบว่า config_id ได้แทนที่ scope (ซึ่งไม่ควรใช้) และ รหัสresponse_typeได้รับการตั้งค่าเป็น code เนื่องจาก SUAT จำเป็นต้องมีการให้สิทธิ์ประเภทโค้ด และต้องตั้งค่า override_default_response_type เป็น true เมื่อตั้งค่าเป็น true การตอบกลับทุกประเภทที่ส่งผ่านใน response_type จะมีความสำคัญมากกว่าประเภทเริ่มต้น

FB.login(
  function(response) [
    console.log(response);
  ],
  [
    config_id: '<CONFIG_ID>',
    response_type: 'code',
    override_default_response_type: true
  ]
);

เมื่อผู้ใช้ทำตามขั้นตอนของกล่องการเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว เราจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยัง URL การเปลี่ยนเส้นทางของคุณและระบุรหัสไว้ จากนั้นคุณต้องแลกเปลี่ยนรหัสนี้เป็นโทเค็นการเข้าถึงโดยทำการเรียกระหว่างเซิร์ฟเวอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเรา

GET https://graph.facebook.com/v21.0/oauth/access_token?
  client_id=<APP_ID>
  &client_secret=<APP_SECRET>
  &code=<CODE>

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนนี้ที่การแลกเปลี่ยนโค้ดเป็นโทเค็นการเข้าถึง

การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีการ FB.login() ของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ โปรดทราบว่า config_id ได้แทนที่ scope (แม้ว่าจะยังใส่ scope ได้อยู่ แต่ขอแนะนำไม่ให้ใช้)

FB.login(
  function(response) {
    console.log(response);
  },
  {
    config_id: '<CONFIG_ID>' // configuration ID goes here
  }
);

ต่อไปนี้คือตัวอย่างปุ่มการเข้าสู่ระบบของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

<fb:login-button config_id="<CONFIG_ID>" onlogin="checkLoginState();"></fb:login-button>

สร้างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยตนเอง

โปรดดูการสร้างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยตนเองเพื่อเรียนรู้วิธีเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบด้วยตนเอง เมื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบและตั้งค่า URL การเปลี่ยนเส้นทาง ให้ใส่ ID การกำหนดค่าของคุณเป็นพารามิเตอร์แบบระบุหรือไม่ก็ได้ (แม้ว่าจะยังใส่ขอบเขตได้อยู่ แต่ขอแนะนำไม่ให้ใช้)

config_id=<CONFIG_ID>

เปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

เราขอแนะนำให้คุณดำเนินการทดสอบและเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเปิดให้แอพประเภทธุรกิจสามารถใช้งานได้

หากแอพของคุณมีสิทธิ์เปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณจะมองเห็นแบนเนอร์การเลือกใช้เมื่อทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เลือกแอพของคุณในแดชบอร์ดแอพ
  2. ไปที่ผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook หรือเพิ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
  3. คลิกที่การตั้งค่าหรือเริ่มต้นใช้งานด่วนในเมนูด้านข้างทางซ้าย
  4. คลิกปุ่ม “เริ่มต้นใช้งานการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ” ที่ด้านบนของหน้า

ทั้งนี้ โปรดทราบว่าโทเค็นการเข้าถึงในปัจจุบันของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบเมื่อเปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ นอกจากนี้ แอพทดสอบต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับแอพนี้จะเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจด้วยเช่นกัน

หลังจากเปลี่ยนแล้ว ประเภทแอพของคุณจะอยู่ในส่วนประเภทธุรกิจ หากแอพของคุณไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ละแอพสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ภายใน 30 วันนับจากที่เปลี่ยน

การแก้ไขข้อผิดพลาด

ลูกค้าธุรกิจอาจพบข้อความแสดงข้อผิดพลาดเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

  • ID การกำหนดค่าไม่ถูกต้อง
  • ระบบยังไม่รองรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบธุรกิจบนอุปกรณ์มือถือในขณะนี้
  • โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบธุรกิจได้รับการตั้งค่าโดยมี response_type ที่ไม่ถูกต้อง

การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการทำงานซึ่งอาจเกิดขึ้นได้

  • หากตอนนี้ประเภทแอพของคุณคือไม่มี การเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะเปลี่ยนประเภทแอพของคุณเป็นธุรกิจ และจะคงไว้เฉพาะสิทธิ์การเข้าถึงสิทธิ์การอนุญาตฟีเจอร์ และผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ข้างต้นเท่านั้น
  • หากคุณส่งคำขอสิทธิ์การอนุญาตหรือฟีเจอร์จากลูกค้าธุรกิจที่การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจไม่รองรับ สิทธิ์การอนุญาตหรือฟีเจอร์เหล่านั้นจะถูกเพิกถอนในทันทีเมื่อคุณเปลี่ยนให้แอพมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
  • หากคุณส่งคำขอเฉพาะ email และ/หรือ public_profile จากลูกค้าธุรกิจของคุณ การเปลี่ยนให้แอพมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะส่งผลให้เกิดการยกเลิกโทเค็นที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมดของลูกค้าเหล่านี้
  • หากแอพของคุณมีทั้งการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจและส่วนขยาย Meta Business ประสบการณ์การใช้งานส่วนขยาย Meta Business ก็จะจำกัดอยู่เพียงสิทธิ์การอนุญาตที่การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจรองรับ
  • สิทธิ์การเข้าถึงโปรไฟล์ผู้ใช้ในสินทรัพย์ธุรกิจอาจส่งผลกระทบต่อวิธีการเข้าถึงและจัดการข้อมูลโปรไฟล์ผู้ใช้ผ่าน API ต่างๆ ของเรา
  • โปรดทราบว่าหากระบบเปิดใช้งานกล่องการเข้าสู่ระบบของการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจผ่าน ID การกำหนดค่า และหากคุณตัดสินใจเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook กล่องการเข้าสู่ระบบก็อาจโหลดไม่สำเร็จ เนื่องจากการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ไม่รองรับพารามิเตอร์ config_id และคุณต้องแทนที่พารามิเตอร์ config_id ด้วยพารามิเตอร์ scope แทน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนขยาย Meta Business

เปลี่ยนกลับเป็นการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook

สามารถใช้งานได้เมื่อแอพที่มีอยู่นั้นเปลี่ยนเป็นการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจแล้วเท่านั้น แอพประเภทธุรกิจที่เพิ่งสร้างขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้

หลังจากเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ หากแอพของคุณไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้หลังเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้โดยไปที่แดชบอร์ดแอพ > การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ > การตั้งค่า และคลิกที่ลิงก์เปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ระบบจะให้คุณทำแบบสำรวจซึ่งจะช่วยเราปรับปรุงประสบการณ์ในการกำหนดค่าการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ แต่ละแอพสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ภายใน 30 วันนับจากที่เปลี่ยน

คำถามที่พบบ่อย

The easiest way to add Facebook Login for Business is to create a new Business Type app, where Facebook Login for Business is automatically available, and request supported business permissions through Meta App Review. If you want to use it for an existing None type app, your app must have advanced access to at least one supported business permission.

If you are not a Tech Provider building solutions using Meta’s business APIs, Facebook Login is recommended for consumer authentication.

Only request the minimum permissions necessary for your app's functionality. Be transparent with users about why you need each permissions and features. Note that the email and public_profile permissions must be requested with at least one other supported business permission.

Yes, advanced access to the public_profile permission is required for Facebook Login for Business apps before they go live. This requirement is crucial to ensure that the app can support authorization from users who do not have an app role, commonly referred to as external users.