การอัพเดตแค็ตตาล็อกโฆษณาเป็นแค็ตตาล็อกการค้า

เราขอแนะนำให้ใช้แค็ตตาล็อกเดียวเพื่อโฆษณาและขายบน Facebook ซึ่งการใช้แค็ตตาล็อกเดียวจะช่วยสร้างกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีการจัดอันดับสินค้าสำหรับผู้ใช้ของคุณดีขึ้นและช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณาและยอดขายของคุณ นอกจากนี้คุณจะสามารถจัดการสินค้าคงคลังได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เนื่องจากรายการสินค้าทั้งหมดของคุณอยู่รวมกันในที่เดียว และสุดท้าย การใช้แค็ตตาล็อกเดียวจะสะดวกกว่า เนื่องจากช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าทั้งหมดที่ใช้ในโฆษณาของคุณสามารถวางขายในร้านค้าได้ ทำให้ข้อมูลในแค็ตตาล็อกของคุณมีความสอดคล้องกันสำหรับกรณีการใช้งานทั้งสองกรณี

หากต้องการใช้แค็ตตาล็อกโฆษณาที่มีอยู่เพื่อการค้า เราต้องให้คุณระบุช่องเพิ่มเติมบางช่อง นอกจากนี้เราขอแนะนำให้เพิ่มข้อมูลสินค้าให้ละเอียดยิ่งขึ้น เช่น แบบสินค้า และรูปภาพเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นพบสินค้าของคุณและตัดสินใจซื้อ

เอกสารฉบับนี้จะอธิบายขั้นตอนที่จำเป็นในการดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. เริ่มต้นใช้งานแค็ตตาล็อกโฆษณาของคุณกับร้านค้า
  2. เพิ่มแบบสินค้า
  3. เพิ่มช่องเพิ่มเติมเพื่อการค้า
  4. สร้างแค็ตตาล็อกใหม่

1. ขั้นตอนในการเริ่มต้นใช้งานแค็ตตาล็อกโฆษณาของคุณกับร้านค้า

  • หาแค็ตตาล็อกโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด: หากคุณมีแค็ตตาล็อกหลายรายการอยู่แล้ว เราขอแนะนำให้คุณใช้แค็ตตาล็อกที่มีการใช้งานมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นแค็ตตาล็อกที่มีสินค้าคงคลังเต็มรูปแบบและมีข้อมูลรวมถึงการกำหนดราคาที่เป็นปัจจุบัน หากต้องการดูแค็ตตาล็อกทั้งหมดของคุณ ให้ไปที่ ตัวจัดการธุรกิจ > การตั้งค่าธุรกิจ > แค็ตตาล็อก

  • ระบุว่าแค็ตตาล็อกโฆษณาของคุณมีแบบสินค้าอยู่แล้วหรือไม่: แบบสินค้าแสดงถึงหน่วยในการจัดเก็บสต็อก (SKU) หากคุณขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ คุณอาจจัดเก็บสต็อกตามขนาดและสี (เช่น เสื้อโค้ทกันหนาว ขนาดเล็ก สีดำ) คุณสามารถตรวจสอบได้โดยดูที่ฟีดของคุณและดูว่ารายการข้อมูลแต่ละรายการแสดงถึง SKU หรือไม่

    • หากคุณมีรายการข้อมูลสำหรับเสื้อโค้ทกันหนาวหลายรายการ แสดงว่าคุณมีแบบสินค้า
    • หากคุณมีรายการข้อมูลสำหรับเสื้อโค้ทกันหนาวรายการเดียว แสดงว่าคุณไม่มีแบบสินค้า หากเป็นกรณีหลัง คุณจำเป็นต้องอัพเดตฟีดของคุณให้มีแบบสินค้าก่อนที่จะใช้แค็ตตาล็อกนี้กับร้านค้า (โปรดดูส่วน “เพิ่มแบบสินค้า” ด้านล่าง)

  • อัพเดตรายการในแค็ตตาล็อกของคุณให้มีช่องเพิ่มเติมเพื่อการค้า: ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องที่จำเป็นได้ที่ส่วน “เพิ่มช่องเพิ่มเติมเพื่อการค้า” ด้านล่าง

หากคุณประสบปัญหาที่ขัดขวางไม่ให้คุณใช้แค็ตตาล็อกโฆษณากับร้านค้า โปรดติดต่อตัวแทน Facebook ของคุณเพื่อหารือเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ หากไม่มีตัวเลือกอื่นที่เหมาะกับความต้องการของคุณ คุณสามารถสร้างแค็ตตาล็อกใหม่ตอนนี้และวางแผนย้ายไปยังแค็ตตาล็อกหนึ่งได้ในภายหลัง โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ส่วน “สร้างแค็ตตาล็อกใหม่

2. เพิ่มแบบสินค้า

แบบสินค้าแสดงถึง SKU ของสินค้า ซึ่งเป็นหน่วยที่คุณเก็บสต็อก หากคุณขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ คุณอาจเก็บสต็อกตามขนาดและสี นอกจากนี้หมวดหมู่อื่นๆ บางหมวดหมู่อาจเก็บสต็อกตามแบบสินค้ารูปแบบอื่นด้วย เช่น ความจุ สไตล์ และอื่นๆ ซึ่งคุณสามารถดูได้ว่าแค็ตตาล็อกของคุณมีแบบสินค้าหรือไม่ โดยดูที่รายการข้อมูลของฟีดที่มีอยู่ของคุณดังนี้

ตัวอย่าง A: ฟีดที่ไม่มีแบบสินค้า

ID ชื่อสินค้า Item_Group_ID ราคา Quantity_to_Sell _on_Facebook

10024

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

299 ดอลลาร์

40

10025

เสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว

DEF

159 ดอลลาร์

10

ตัวอย่าง B: ฟีดที่มีแบบสินค้า

ID ชื่อสินค้า Item_Group_ID ขนาด สี ราคา Quantity_to_Sell _on_Facebook

10024_1_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

S

ดำ

299 ดอลลาร์

4

10024_2_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

M

ดำ

299 ดอลลาร์

4

10024_3_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

L

ดำ

299 ดอลลาร์

0

10024_1_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

S

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

5

10024_2_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

M

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

1

10024_3_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

L

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

0

สำคัญ: ขออภัย คุณไม่สามารถแทนที่ฟีด A ด้วยฟีด B ได้เลยทันที เนื่องจากจะทำให้สินค้าที่มี ID เป็น 10024 ถูกลบออกจากแค็ตตาล็อกของคุณ ซึ่งการแทนที่ดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ ที่มีอยู่ เนื่องจากเราจะต้องสร้างการจัดอันดับสินค้าสำหรับ ID ใหม่ของคุณขึ้นมาใหม่ การดำเนินการนี้อาจใช้เวลาสองถึงสามวันหรือสองถึงสามสัปดาห์ (ระยะเวลาส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับพิกเซลของ Facebook ของคุณ)

หมายเหตุ: โฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ จำเป็นต้องมีพิกเซลของ Facebook โดยพิกเซลของคุณจะส่งเหตุการณ์ไปยัง Facebook เมื่อมีผู้ใช้ดูสินค้า เพิ่มสินค้าลงในรถเข็น หรือซื้อสินค้า พิกเซลจะส่งเหตุการณ์นี้โดยที่ content_type=”product” (ID: 10024) หรือ content_type=”product_group” (ITEM_GROUP_ID ABC)

fbq('track', 'AddToCart', {
  value: 299,
  currency: 'USD',
  contents: [
    {
      id: '10024',
      quantity: 1
    }],
  content_type: 'product',
});

หรือ

fbq('track', 'AddToCart', {
  value: 299,
  currency: 'USD',
  contents: [
    {
      id: 'ABC',
      quantity: 1
    }],
  content_type: 'product_group',
});

การสร้างการจัดอันดับสินค้าขึ้นใหม่จะใช้เวลาเท่าใด หากข้อมูลรายการสินค้าในแค็ตตาล็อกของคุณถูกแทนที่ทั้งหมด

  • หากพิกเซลของคุณส่งเหตุการณ์โดยที่ content_type="product" เมื่อมีการอัพเกรดจาก A เป็น B ระบบจะไม่สร้างการจัดอันดับสินค้าขึ้นใหม่ คุณจะต้องอัพเดตพิกเซลของคุณให้ส่งเหตุการณ์โดยที่ content_type="product_group" ก่อนการอัพเกรด หรือเปลี่ยน ID เนื้อหาให้ตรงกับ ID ใหม่

  • หากพิกเซลของคุณส่งเหตุการณ์โดยที่ content_type="product_group" การจัดอันดับจะขึ้นอยู่กับจำนวนเหตุการณ์รายวันที่ตรงกับสินค้าของคุณ คุณสามารถดูข้อมูลนี้ได้โดยไปที่ ตัวจัดการการค้า > แค็ตตาล็อก > เหตุการณ์ > เลือกแหล่งที่มาของเหตุการณ์ (พิกเซล) > ดูคอนเวอร์ชั่นบนเว็บไซต์ทั้งหมด > คลิกที่เหตุการณ์ “ซื้อ” จากนั้นดูกราฟด้านล่าง ซึ่งจำนวนเหตุการณ์ที่ตรงกันควรมากกว่าศูนย์และอาจคงที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา


มีวิธีหลีกเลี่ยงการลดประสิทธิภาพหรือไม่

มี คุณสามารถตั้งค่าฟีด B ได้ดังนี้

ID ชื่อสินค้า Item_Group_ID ขนาด สี ราคา Quantity_to_Sell _on_Facebook

10024

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

S

ดำ

299 ดอลลาร์

4

10024_2_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

M

ดำ

299 ดอลลาร์

4

10024_3_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

L

ดำ

299 ดอลลาร์

0

10024_1_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

S

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

5

10024_2_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

M

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

1

10024_3_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

L

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

0

ให้สังเกตว่ามีการเก็บ ID ของรายการข้อมูลแรกเป็น 10024 เพื่อให้สอดคล้องกับฟีด A ซึ่งหมายความว่าการจัดอันดับสินค้าที่มีอยู่ของคุณสำหรับสินค้า “เสื้อโค้ทกันหนาว” จะยังคงอยู่ในระบบของเรา และประสิทธิภาพของโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ ของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบ

โซลูชั่นข้างต้นใช้ไม่ได้สำหรับฉัน คุณมีโซลูชั่นอื่นอีกหรือไม่

เราทราบดีว่าโซลูชั่นนี้อาจใช้ไม่ได้หากคุณใช้แพลตฟอร์ม เช่น Magento ที่สร้างฟีดโดยอัตโนมัติด้วย ID ที่จับคู่แบบ 1:1 กับ SKU หากเป็นกรณีนี้ เรากำลังพัฒนาโซลูชั่นทางเลือกที่จะมีการเพิ่มช่องใหม่ในฟีด B ดังต่อไปนี้

ID ชื่อสินค้า Item_Group_ID ขนาด สี ราคา Quantity_to_Sell _on_Facebook Previous_Retailer_ID

10024_1_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

S

ดำ

299 ดอลลาร์

4

10024

10024_2_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

M

ดำ

299 ดอลลาร์

4

10024_3_000

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

L

ดำ

299 ดอลลาร์

0

10024_1_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

S

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

5

10024_2_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

M

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

1

10024_3_00F

เสื้อโค้ทกันหนาว

ABC

L

น้ำเงิน

299 ดอลลาร์

0

โปรดติดต่อตัวแทน Facebook ของคุณเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเริ่มต้นของโซลูชั่นนี้

3. เพิ่มช่องเพิ่มเติมเพื่อการค้า

หากแค็ตตาล็อกของคุณมีแบบสินค้าอยู่แล้ว หรือหากคุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มแบบสินค้า ขั้นตอนถัดไปจะเป็นการเพิ่มช่องต่อไปนี้เพื่อการค้า

โปรดดูข้อควรพิจารณาด้านล่างเมื่อเพิ่มช่องเพิ่มเติมเหล่านี้ เนื่องจากการเพิ่มอย่างไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียชั่วคราวต่อประสิทธิภาพของโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+

  • (จำเป็นต้องระบุสำหรับการชำระเงินเท่านั้น) เพิ่ม quantity_to_sell_on_facebook
  • (จำเป็นต้องระบุสำหรับการชำระเงินเท่านั้น แต่แนะนำให้ระบุสำหรับแค็ตตาล็อกการค้าทั้งหมด) เพิ่ม fb_product_category หรือ google_product_category หรือทั้งสองอย่างเพื่อให้ผู้คนค้นพบสินค้าของคุณได้มากขึ้น และเปิดใช้งานการคำนวณภาษีที่ถูกต้องสำหรับการชำระเงิน หากมี
  • (ระบุหรือไม่ก็ได้) เพิ่ม additional_image_link เพื่อเพิ่มรูปภาพหลายรูป
  • (ระบุหรือไม่ก็ได้) เพิ่ม sale_price และ sale_price_effective_date
  • (ระบุหรือไม่ก็ได้) เพิ่มแอตทริบิวต์เฉพาะหมวดหมู่ เช่น gender, age_group, material, pattern และอื่นๆ
  • (ระบุหรือไม่ก็ได้) เพิ่ม rich_text_description หากคำอธิบายมีความยาวเกิน 200 ตัวอักษร

คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องทั้งหมดที่ใช้งานได้ที่นี่

สำคัญ: เรายังไม่รองรับการชำระเงินแบบหลายประเทศบน Facebook และ Instagram หากแค็ตตาล็อกโฆษณาของคุณเป็นแค็ตตาล็อกที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น ระบบจะใช้เฉพาะฟีดหลักสำหรับการชำระเงิน

4. สร้างแค็ตตาล็อกใหม่

หากโซลูชั่นทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นใช้ไม่ได้สำหรับคุณ โปรดแจ้งให้ตัวแทน Facebook ของคุณทราบ โดยคุณจะยังสามารถสร้างแค็ตตาล็อกการค้าใหม่และเริ่มต้นใช้งานแค็ตตาล็อกสำหรับการชำระเงินได้อยู่ หากคุณต้องการใช้ประโยชน์จากการใช้แค็ตตาล็อกเดียวในภายหลัง คุณจะต้องเริ่มต้นใช้งานโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ พร้อมกับแค็ตตาล็อกการค้าของคุณ โปรดทำตามรายการตรวจสอบต่อไปนี้ก่อนดำเนินการดังกล่าว

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหตุการณ์พิกเซลของคุณตรงกับสินค้าในแค็ตตาล็อก คุณสามารถตรวจสอบได้โดยไปที่ตัวจัดการการค้า > แค็ตตาล็อก > เหตุการณ์ > เลือกแหล่งที่มาของเหตุการณ์ (พิกเซล) > ดูคอนเวอร์ชั่นบนเว็บไซต์ทั้งหมด > เหตุการณ์ “ซื้อ” ซึ่งจำนวนเหตุการณ์ที่ตรงกันควรมากกว่าศูนย์และคงที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
  2. ทำการทดสอบเปรียบเทียบโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ ระหว่างโฆษณาของคุณกับแค็ตตาล็อกการค้า โดยให้ตัวแปรอื่นๆ ทั้งหมดเหมือนกันและตรวจสอบเกณฑ์ชี้วัดหลักของคุณ
  3. หากประสิทธิภาพเท่ากันหรือดีกว่า ให้ค่อยๆ ปรับค่าใช้จ่ายในการโฆษณาไปให้แค็ตตาล็อกการค้าของคุณแทน
  4. คุณสามารถหยุดใช้แค็ตตาล็อกอื่นๆ โดยสิ้นเชิง แล้วใช้แค็ตตาล็อกการค้าสำหรับโฆษณาได้เมื่อเวลาผ่านไป

หมายเหตุ: คุณไม่สามารถเชื่อมต่อแค็ตตาล็อกใหม่กับบัญชีการค้าที่มีอยู่ได้ หากคุณสร้างแค็ตตาล็อกใหม่สำหรับการชำระเงินและต้องการเชื่อมต่อแค็ตตาล็อกดังกล่าวกับบัญชีการค้าของคุณแทนแค็ตตาล็อกเก่า คุณจะต้องลบบัญชีการค้าของคุณและตั้งค่าใหม่อีกครั้ง โดยเชื่อมต่อกับแค็ตตาล็อกใหม่ในกระบวนการตั้งค่า ซึ่งวิธีนี้อาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อ ยอดเงินที่ได้รับ และรายงานทางการเงินที่ผ่านมาของบัญชีการค้าของคุณ