หลังจากใช้ Facebook SDK เหตุการณ์บางอย่างในแอพของคุณจะได้รับการลงบันทึกและเก็บรวบรวมไว้สำหรับตัวจัดการเหตุการณ์โดยอัตโนมัติ เว้นแต่คุณจะปิดใช้งานการลงบันทึกเหตุการณ์อัตโนมัติ คุณสามารถเปลี่ยนสิ่งนี้ได้ในโค้ดของแอพหรือผ่านการเปิดใช้ในส่วนเหตุการณ์ในแอพในแดชบอร์ดแอพหรือตัวจัดการเหตุการณ์ โปรดทราบว่า ในกรณีที่เกิดค่าที่ขัดแย้งกันระหว่างรายงานปัญหาและการเปิดใช้งาน AutoLogAppEventsEnabled
เราจะยึดตามค่าในการเปิดใช้งาน "การลงบันทึกเหตุการณ์อัตโนมัติสำหรับ Facebook SDK" เป็นหลัก สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกรวบรวมและวิธีปิดใช้การลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพอัตโนมัติ โปรดดูการลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพอัตโนมัติ
แอพหนึ่งสามารถสร้างชื่อเหตุการณ์ที่ไม่ซ้ำกันได้สูงสุด 1,000 ชื่อ หากเหตุการณ์มีจำนวนเกินขีดจำกัด คุณอาจพบข้อผิดพลาด 100 Invalid parameter
เมื่อลงบันทึก
หากคุณต้องการลบเหตุการณ์ที่ไม่ใช้แล้ว คุณสามารถปิดใช้งานเหตุการณ์โดยทำตามคำแนะนำในศูนย์ช่วยเหลือของเรา
สาเหตุที่เรามักจะพบเจอสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้พัฒนาสร้างเหตุการณ์เกินขีดจำกัดก็คือ ผู้พัฒนาไม่ใช้พารามิเตอร์ให้เป็นประโยชน์ แต่กลับลงบันทึกทีละเหตุการณ์ทั้งๆ ที่ควรใช้พารามิเตอร์แทน ตัวอย่างเช่น แทนที่จะลงบันทึกเหตุการณ์ในแต่ละครั้งที่มีผู้เล่นผ่านเลเวลแบบแยกเหตุการณ์ (เช่น ผ่านเลเวล 1, ผ่านเลเวล 2 เป็นต้น) ผู้พัฒนาควรลงบันทึกเหตุการณ์ผ่านเลเวลเป็นเหตุการณ์เดียวโดยมีพารามิเตอร์ level
แทนหมายเลขเลเวลนั้นๆ
An event can have up to 25 parameters. This doesn't just mean for each call, but for all invocations using that event name.
If you need to remove obsolete parameters - you can deactivate parameters by following the instructions in our help center.
ชื่อเหตุการณ์และพารามิเตอร์ต้องประกอบด้วยอักขระที่เป็นตัวอักษรและตัวเลข 2 ถึง 40 ตัว
ส่วนค่าพารามิเตอร์แต่ละค่าต้องมีความยาวไม่เกิน 100 อักขระ
เหตุการณ์ในแอพไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมีการใช้งาน การเข้าสู่ระบบด้วย Facebookหรือฟีเจอร์ของช่องทางอื่นๆ
คุณสามารถกำหนดเหตุการณ์ที่กำหนดเองที่คุณต้องการบันทึกได้ และคุณจะสามารถดูเหตุการณ์นั้นได้ในแดชบอร์ด Facebook Analytics เรารองรับการลงบันทึกชื่อเหตุการณ์ที่กำหนดเองได้สูงสุด 1,000 ชื่อและไม่จำกัดปริมาณเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม เราจะแสดงเฉพาะเหตุการณ์ในแอพแบบมาตรฐานในการรายงานผลโฆษณาเท่านั้น ส่วนเหตุการณ์ในแอพที่กำหนดเองที่คุณสร้างขึ้นจะได้รับการลงบันทึกเป็น "การดำเนินการอื่นๆ ในแอพบนมือถือ"
สำหรับเกม Unity คุณสามารถใช้ Unity SDK เพื่อบันทึกเหตุการณ์ในแอพได้ สำหรับช่องทางอื่นๆ ที่ใช้ตัวแสดงหน้าเว็บภายในแอพแบบเนทีฟ มีทางเลือกหนึ่งคือให้ใช้ API เหตุการณ์ในแอพ เพื่อส่งเหตุการณ์จากเซิร์ฟเวอร์ของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Facebook
โดยปกติแล้ว ผู้พัฒนามองว่าการใช้ Facebook SDK เพื่อผสานการทำงานเหตุการณ์ในแอพทำได้ง่ายกว่า Facebook SDK ช่วยลดปริมาณการเขียนโค้ดที่จำเป็น และให้เมตาดาต้าที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับแอพของคุณ เช่น เวอร์ชั่นแอพและชื่อแอพ การใช้ SDK จะให้เกณฑ์ชี้วัดโดยอัตโนมัติ เช่น ระยะเวลาที่ใช้งาน จำนวนเซสชั่น และการหยุดชะงัก โดยที่ต้องใช้ความพยายามในการพัฒนาเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ SDK ยังสามารถรวบรวม ID ผู้ลงโฆษณาบน Android หรือ IDFA (หากคุณใช้เหตุการณ์ในแอพที่เกี่ยวข้องกับการระบุที่มาของโฆษณา) และจัดการการจำกัดการติดตามโฆษณาให้กับคุณได้ อย่างไรก็ตาม SDK มีข้อจำกัดคือ คุณจำเป็นต้องเผยแพร่แอพเวอร์ชั่นใหม่ หากคุณตัดสินใจเพิ่มเหตุการณ์เพิ่มเติม สำหรับผู้พัฒนาส่วนใหญ่แล้ว SDK เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
ส่วนโซลูชั่น API อาจเหมาะสำหรับผู้พัฒนาที่ไม่ต้องการเผยแพร่แอพของตนเวอร์ชั่นอัพเดตเพื่อผสานการทำงานเหตุการณ์ในแอพ หรือเพิ่มเหตุการณ์ในแอพเพิ่มเติมมากกว่า สำหรับผู้พัฒนาที่มีเว็บแอพแบบผสมผสาน การผสานการทำงานกับ API ก็อาจทำได้ง่ายกว่าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โซลูชั่น API กำหนดให้คุณต้องจัดการการจำกัดการติดตามโฆษณา อีกทั้งต้องรวบรวม IDFA และ ID ผู้ลงโฆษณาบน Android ด้วยตนเอง นอกจากนี้ โซลูชั่น API ไม่มีเกณฑ์ชี้วัดการใช้แอพที่ SDK เก็บรวบรวมให้โดยอัตโนมัติด้วย สำหรับผู้พัฒนาที่ต้องการติดตามเกณฑ์ชี้วัดเพิ่มเติม เช่น เวอร์ชั่นแอพ ชื่อแอพ ระยะเวลาที่ใช้งาน จำนวนเซสชั่น และการหยุดชะงัก ผู้พัฒนาจะต้องกำหนดเกณฑ์ชี้วัดดังกล่าวด้วยตนเอง แล้วส่งกลับเกณฑ์ชี้วัดเป็นพารามิเตอร์ที่กำหนดเองผ่าน API
คุณสามารถใช้ทั้ง MMP SDK และ Facebook SDK ในแอพของคุณได้ แต่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ส่งเหตุการณ์เดียวกันซ้ำสองครั้งสำหรับทั้งสอง SDK เนื่องจากอาจส่งผลให้มีการนับเหตุการณ์ซ้ำได้
ได้ คุณสามารถใช้วิธีนี้ได้หากต้องการ
ตัวช่วยเหลือในการลงโฆษณาแอพ ช่วยให้คุณสามารถทดสอบเหตุการณ์ในแอพภายในแอพของคุณได้ เพื่อให้แน่ใจว่าแอพของคุณจะส่งเหตุการณ์ไปยัง Facebook
a. เปิด ตัวช่วยเหลือในการลงโฆษณาแอพ
b. ใน "เลือกแอพ" ให้เลือกแอพของคุณแล้วเลือก "ส่ง"
c. ไปที่ด้านล่างแล้วเลือก "ทดสอบเหตุการณ์ในแอพ"
d. เปิดแอพของคุณแล้วส่งเหตุการณ์ เหตุการณ์จะปรากฏบนเว็บเพจ
Facebook จะจัดการข้อมูลของคุณตามนโยบายข้อมูลของเรา ข้อมูลนี้สามารถใช้เพื่อปรับปรุงความสามารถในการกำหนดเป้าหมายและการแสดงโฆษณาของเราได้ ตลอดจนปรับปรุงประสบการณ์อื่นๆ บน Facebook ซึ่งรวมถึงความสามารถในการจัดอันดับเนื้อหาฟีดและการค้นหา
หากคุณลงบันทึกเหตุการณ์ที่กำหนดเองแทนการลงบันทึกเหตุการณ์แบบมาตรฐาน ระบบจะแสดงเหตุการณ์ในการรายงานผลโฆษณาในส่วน "การดำเนินการอื่นๆ ในแอพบนมือถือ" โดยไม่มีการแจกแจงรายละเอียด
ได้ เราสามารถส่งโฆษณาไปยังผู้ที่มีแนวโน้มสูงสุดในการดำเนินการเฉพาะอย่างน้อยหนึ่งครั้งด้วยต้นทุนต่ำสุด สร้างชุดโฆษณาจำนวนการติดตั้งแอพบนมือถือที่ปรับแต่งเฉพาะเหตุการณ์ในแอพผ่าน API ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับจำนวนการติดตั้งแอพบนมือถือปกติหรือชุดโฆษณาการมีส่วนร่วมในแอพบนมือถือ ยกเว้น:
สำหรับโฆษณาการมีส่วนร่วมในแอพบนมือถือ ให้ปรับแต่งเหตุการณ์มาตรฐานในแอพ ยกเว้นการเปิดใช้แอพ ตัวเลือกเหล่านี้มีอยู่ในตัวจัดการโฆษณาและ API โปรดดู API การตลาด, ชุดโฆษณา
ขั้นแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้ง Facebook Core SDK สำหรับ Android เวอร์ชั่น 4.36 ขึ้นไปภายในแอพของคุณแล้ว จากนั้น ไปที่การตั้งค่า > พื้นฐาน ใน แดชบอร์ดของแอพใน "การตั้งค่าสำหรับ Android" ให้กดสวิตช์ "ลงบันทึกเหตุการณ์การซื้อในแอพโดยอัตโนมัติ" เป็น "ใช่"
สำหรับเวอร์ชั่น 4.27 ถึง 4.35 คุณจะต้องเรียกใช้ callbackManager.onActivityResult()
ขณะเปิดใช้งานแอพ แล้วเปิดสวิตช์ "การซื้อในแอพโดยอัตโนมัติ ในส่วน "การตั้งค่าสำหรับ Android" ใน แดชบอร์ดของแอพ
First, ensure that you have v3.22 (or higher) of the Facebook iOS SDK installed within your app. Second, ensure that you are calling the ActivateApp
method.
เมื่อเปิดใช้งานสวิตช์การลงบันทึกการซื้อในแอพ ระบบจะติดตามเหตุการณ์ในแอพ ได้แก่ การเริ่มขั้นตอนการชำระเงิน การซื้อ และการยกเลิกการซื้อ
การลงบันทึกโดยอัตโนมัติช่วยลดระยะเวลาที่ต้องใช้ไปกับการลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพให้ถูกต้องแม่นยำ คุณไม่จำเป็นต้องรวบรวมเหตุการณ์และกำหนดพารามิเตอร์ที่จะส่งด้วยตนเอง แต่ระบบจะจัดการงานทั้งหมดนี้ให้กับคุณ ตัวอย่างพารามิเตอร์ที่จะได้รับการลงบันทึกโดยอัตโนมัติ ได้แก่ ID ผลิตภัณฑ์, จำนวน, จำนวนเงินทั้งหมด, สกุลเงิน, ชื่อผลิตภัณฑ์ และคำอธิบายผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ หากคุณใช้เวอร์ชั่น 3.22 ขึ้นไป คุณสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้โดยอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องส่งไคลเอ็นต์ที่อัพเดตใหม่ไปยัง App Store
หากคุณกำลังลงบันทึกการซื้อในแอพอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ แต่ถ้าหากต้องการใช้ฟังก์ชั่นการทำงานนี้ คุณจะต้องหยุดการลงบันทึกเหตุการณ์การซื้อในแอพอย่างชัดเจน มิฉะนั้นคุณอาจพบจำนวนเหตุการณ์ซ้ำในการรายงาน
ไม่ วิธีนี้ใช้ได้กับการซื้อในแอพเท่านั้น
We recommend logging all events that are relevant to your app. You can use this best practices guide as a starting point to determine what events would be relevant for your business.
หากต้องการปิดใช้งานการลงบันทึกการซื้อในแอพโดยอัตโนมัติ โปรดดู คู่มือการเริ่มต้นใช้งานเหตุการณ์ในแอพบน iOS หรือ คู่มือการเริ่มต้นใช้งานเหตุการณ์ในแอพบน Android