ลงบันทึกเหตุการณ์ด้วย API เหตุการณ์สำหรับการส่งข้อความของธุรกิจ

การเลิกใช้งาน API เหตุการณ์การส่งข้อความ

  • เราจะเลิกใช้งาน API เหตุการณ์การส่งข้อความในเดือนกันยายน 2025 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเลิกใช้งานดังกล่าว API กราฟเวอร์ชั่น 21.0 และเวอร์ชั่นอื่นๆ ในอนาคตจะไม่รองรับ API เหตุการณ์การส่งข้อความอีกต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2024 เป็นต้นไป
  • พาร์ทเนอร์ที่เลือกที่จะไม่อัพเดตเป็น API กราฟเวอร์ชั่นล่าสุดจะยังคงสามารถเข้าถึง API เหตุการณ์การส่งข้อความได้ผ่านการเรียกใช้ API กราฟเวอร์ชั่น 20.0 หรือเวอร์ชั่นก่อนหน้าจนกว่าเราจะเลิกใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน 2025
  • สำหรับพาร์ทเนอร์ที่ไม่อัพเดต API กราฟเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เราขอแนะนำให้ใช้ API คอนเวอร์ชั่นสำหรับการผสานการทำงานใหม่ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ API คอนเวอร์ชั่น

คู่มือนี้อธิบายวิธีที่คุณจะสามารถลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพและเหตุการณ์ในเพจ Facebook เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าผู้ใช้โต้ตอบกับประสบการณ์การใช้งาน Messenger อย่างไรบ้าง

ก่อนเริ่มต้น

คุณจำเป็นต้องมีสิ่งต่อไปนี้

  • สิทธิ์การอนุญาต page_events
    • ระบบจะมอบ Advanced Access ให้กับสิทธิ์การอนุญาตนี้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณส่งแอพของคุณเข้ารับการตรวจสอบแอพ หากแอพของคุณได้รับ Advanced Access อยู่แล้วสำหรับสิทธิ์การอนุญาต pages_messaging และแอพไม่มีการละเมิดนโยบายใดๆ ภายในช่วง 90 วันที่ผ่านมา
  • โทเค็นการเข้าถึงเพจซึ่งขอโดยบุคคลที่สามารถดำเนินงาน ANALYZE ในเพจที่ทำการสืบค้น

ข้อจำกัด

ปัจจุบัน API นี้ยังไม่พร้อมใช้งานสำหรับธุรกิจและลูกค้าที่อยู่ในยุโรปหรือญี่ปุ่น

นโยบายและข้อกำหนด

การลงบันทึกเหตุการณ์

ระบบจะลงบันทึกเหตุการณ์โดยส่งคำขอ POST ไปยังจุดเชื่อมโยง page_activities ของแอพพลิเคชั่น

https://graph.facebook.com/

ตัวอย่างคำขอ:

curl -X POST -H "Content-Type: application/json" -d '{
  "custom_events": [
    {
      "_eventName": "fb_mobile_purchase",
      "_valueToSum": 57.23,
      "fb_currency": "USD"
    }
  ],
  "advertiser_tracking_enabled": 1,
  "application_tracking_enabled": 1,
  "page_id": <PAGE_ID>,
  "page_scoped_user_id": <PSID>,
  "logging_source": "messenger_bot",
  "logging_target": "page"
}' https://graph.facebook.com/v21.0/<APP_ID>/page_activities?access_token=<PAGE_ACCESS_TOKEN>

ขอแนะนำให้ใช้เหตุการณ์มาตรฐานสำหรับช่อง _eventName เฉพาะเหตุการณ์มาตรฐานเท่านั้นที่ได้รับการรายงานผลในตัวจัดการโฆษณา และพร้อมให้ใช้งานสำหรับการกำหนดเป้าหมายโฆษณาและการปรับให้เหมาะสม (ถ้ามี)

ตัวอย่างเช่น: หากต้องการลงบันทึกเหตุการณ์การซื้อสำหรับการระบุที่มาในตัวจัดการโฆษณา ให้ใช้ชื่อเหตุการณ์ fb_mobile_purchase

โปรดดูรายชื่อและพารามิเตอร์ของเหตุการณ์มาตรฐานทั้งหมดในคู่มือ API เหตุการณ์ในแอพ (ส่วนแผนผังเหตุการณ์ในแอพ)

ตารางต่อไปนี้อธิบายถึงคุณสมบัติและค่าที่จะต้องระบุไปยังตำแหน่งข้อมูลเพื่อลงบันทึกเหตุการณ์ใน Messenger

คุณสมบัติคำอธิบายค่า

custom_events

อาร์เรย์ของเหตุการณ์ที่คุณต้องการลงบันทึก โปรดดูรายการเหตุการณ์มาตรฐานและพารามิเตอร์ที่เกี่ยวข้องในคู่มือ API เหตุการณ์ในแอพ คุณสามารถใช้งานเหตุการณ์ในแอพของคุณเองได้เช่นกัน คุณสามารถระบุงานกิจกรรมหลายงานในอาร์เรย์ได้

ใช้อาร์เรย์ที่เข้ารหัส JSON เพื่อระบุรายละเอียดเหตุการณ์ที่กำหนดเอง

page_id

ระบุ ID เพจที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์

ใช้ ID เพจ Facebook ของเพจที่เชื่อมโยงกับบอท

page_scoped_user_id

ระบุ ID ผู้ใช้ในเพจที่เชื่อมโยงกับบอท Messenger ที่ลงบันทึกเหตุการณ์นี้

ใช้ ID ผู้ใช้ในเพจที่ระบุให้กับ Webhook

advertiser_tracking_enabled

กำหนดว่าจะเปิดใช้การติดตามการโฆษณาหรือไม่

ใช้ 0 เพื่อปิดใช้งาน และใช้ 1 เพื่อเปิดใช้งาน

application_tracking_enabled

กำหนดว่าจะเปิดใช้การติดตามการโฆษณาในระดับแอพพลิเคชั่นหรือไม่

ใช้ 0 เพื่อปิดใช้งาน และใช้ 1 เพื่อเปิดใช้งาน

logging_source

ระบุแหล่งที่มาของเหตุการณ์

ใช้สตริง messenger_bot เพื่อระบุว่าเหตุการณ์นี้มาจากบอทของ Messenger

logging_target

ระบุไปยังเอนทิตี้เป้าหมายที่จะลงบันทึกเหตุการณ์

ใช้สตริง app, page หรือ app_and_page เพื่อควบคุมเอนทิตี้ที่จะได้รับเหตุการณ์นี้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเหตุการณ์ในแอพ

การรายงานข้อมูลลูกค้าโดยใช้ API เหตุการณ์การส่งข้อความ

ในตอนนี้ แอพต่างๆ สามารถเริ่มรายงานการส่งข้อมูลลูกค้าในเธรดได้แล้ว เหตุการณ์ lead_submitted ช่วยให้แอพสามารถรายงานเธรดต่างๆ ที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นโอกาสในการสร้างยอดขาย (เช่น ผู้ใช้ให้ข้อมูลติดต่อและขอรับการติดต่อเกี่ยวกับการขาย) โดยอัตโนมัติได้

เหตุการณ์นี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้แยกแยะผู้ใช้บางรายเป็นผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า ซึ่งน่าจะช่วยธุรกิจต่างๆ ให้ความสำคัญกับเธรดจากผู้ใช้เหล่านั้นได้ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจสามารถตั้งค่าขั้นตอนแบบอัตโนมัติในการคัดเลือกผู้ใช้เป็นผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้า และทริกเกอร์เหตุการณ์นี้เมื่อผู้ใช้ดำเนินขั้นตอนดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่พูดคุยสดทราบว่าเธรดนั้นมีศักยภาพสูง

ในเวลานี้ ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานในเวอร์ชั่นเบต้าแบบเปิด และมีการผสานรวมการรายงานไว้ในตัวจัดการโฆษณา ดังนั้นจึงจะรายงานข้อมูลลูกค้าใน UI ของตัวจัดการโฆษณา

ตัวอย่างการเรียกใช้ API เพื่อรายงานเหตุการณ์ข้อมูลลูกค้าที่เกิดขึ้นในเธรด

curl -X POST -H "Content-Type: application/json" -d '{
  "custom_events": [
    {
      "_eventName": "lead_submitted"
    }
  ],
  "advertiser_tracking_enabled": 1,
  "application_tracking_enabled": 1,
  "page_id": <PAGE_ID>,
  "page_scoped_user_id": <PSID>,
  "logging_source": "messenger_bot",
  "logging_target": "page"
}' https://graph.facebook.com/v21.0/<APP_ID>/page_activities?access_token=<PAGE_ACCESS_TOKEN>

การรายงานข้อมูลลูกค้าโดยใช้ API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา

โดยสามารถแสดงเหตุการณ์ข้อมูลลูกค้าที่รายงานเป็นภาพได้โดยใช้ API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา เมื่อใช้ API นี้ คุณจะสามารถสร้างแดชบอร์ดการวิเคราะห์ขั้นสูงเพื่อช่วยแสดงข้อมูลลูกค้าที่เกิดจากแคมเปญ CTX เป็นภาพได้

ข้อกำหนดเบื้องต้น

ก่อนใช้ API นี้ โปรดตรวจสอบว่าแอพพลิเคชั่นได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบแอพสำหรับสิทธิ์การอนุญาต ads_read และได้รับสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงแล้ว

การดำเนินการ

ตัวอย่างการเรียกใช้ข้อมูลเชิงลึกในระดับแคมเปญโฆษณาจะมีลักษณะดังนี้

curl -G \
-d "date_preset=last_7d" \
-d "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<AD_CAMPAIGN_ID>/insights"
    

สามารถเรียกใช้ API ข้อมูลเชิงลึกได้ที่ระดับบัญชีโฆษณา แคมเปญ และชุดโฆษณา โดยขึ้นอยู่กับระดับความละเอียดที่ต้องการ

ต่อไปนี้คือการเรียกใช้เพื่อให้ได้ข้อมูลลูกค้า:

  • ข้อมูลลูกค้า (ระบุที่มา)
    • /<OBJECT_ID>/insights?fields=actions
    • ในผลลัพธ์ action_type=onsite_converstion.lead_grouped

หากต้องการคำจำกัดความโดยละเอียดของประเภทการดำเนินการข้างต้น โปรดดูที่ข้อมูลอ้างอิงสถิติการดำเนินการของโฆษณา

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจำแนกลูกค้า

  1. ผู้ลงโฆษณาอยู่ในหมวดหมู่สร้างข้อมูลลูกค้าทั่วไป (รถยนต์, บริการระดับมืออาชีพ, บริการทางการเงิน, B2B, การศึกษา, สุขภาพ)
  2. ผู้ลงโฆษณาขอข้อมูลติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมล และผู้ใช้ให้ข้อมูลดังกล่าว
  3. คำถามเกี่ยวกับหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติบางอย่างมาก่อน (เช่น คำถามเพิ่มเติม 1-2 ข้อ)
  4. หากคุณนำเสนอเทมเพลตการสร้างข้อมูลลูกค้าในแอพของคุณ ให้เพิ่มสัญญาณนี้ที่ส่วนท้ายของขั้นตอนการสร้างข้อมูลลูกค้าตามค่าเริ่มต้น

หมายเหตุ: เราขอแนะนำว่าไม่ควรทำเครื่องหมายทุกการสนทนาที่มีหมายเลขโทรศัพท์หรืออีเมลเป็นข้อมูลลูกค้าโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแชร์หมายเลขโทรศัพท์เพื่อวัตถุประสงค์ในการชำระเงิน/อีคอมเมิร์ซ

การตรวจสอบยืนยันการลงบันทึกเหตุการณ์

หากคุณเป็นผู้ดูแลแอพหรือเพจ คุณสามารถตรวจสอบว่าการตั้งค่าของคุณถูกต้องหรือไม่โดยค้นหาเหตุการณ์ของคุณในตัวจัดการโฆษณา

สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษสำหรับการวิเคราะห์ Messenger

  • แอพเดียวสามารถลงบันทึกการโต้ตอบในหลายๆ เพจได้ ในกรณีเหล่านี้ เหตุการณ์จากการโต้ตอบกับเพจทั้งหมดจะแสดงอยู่ในแอพเดียวกัน
  • สามารถเชื่อมโยงหลายๆ แอพเข้ากับเพจเดียวกันได้ ในกรณีนี้ เมื่อเพจถูกบล็อก แอพทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับเพจจะได้รับเหตุการณ์ fb_messenger_bot_stopped
  • จำนวนการสนทนาด้วยบอทของ Messenger ที่ถูกลบอาจสูงกว่าจำนวนกิจกรรมของผู้ใช้ใหม่ โดยจำนวนการสนทนาด้วยบอทของ Messenger ที่ถูกลบคือจำนวนครั้งที่ผู้ใช้ลบเธรด เพจสามารถเริ่มการสนทนาต่อไปได้หลังจากผู้ใช้ลบเธรด ผู้ใช้สามารถลบเธรดเพิ่มเติมได้ซึ่งจะทำให้จำนวนการสนทนาด้วยบอทของ Messenger ที่ถูกลบเพิ่มขึ้น

การใช้งานสำหรับผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม

เป้าหมายการลงบันทึก

แพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างประสบการณ์การใช้ Messenger ผ่านอินเทอร์เฟซในรูปแบบภาพมักใช้แอพกลางแอพเดียวในการขับเคลื่อนเพจที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด เพื่อช่วยให้ลูกค้าของคุณสามารถดูเหตุการณ์ของตนเองได้ คุณจะต้องลงบันทึกเหตุการณ์เหล่านั้นไปยังเพจของลูกค้าโดยการตั้งค่า logging_target เป็น page หรือ app_and_page

อินเทอร์เฟซผู้ใช้

ในส่วนของตัวแก้ไขภาพ คุณสามารถเสนอบล็อกแบบลากได้ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกเหตุการณ์และระบุพารามิเตอร์เพิ่มเติมได้ การดำเนินการนี้จะช่วยให้ผู้ดูแลเพจวางแผนลำดับขั้นตอนของ Messenger กับเหตุการณ์ที่เหมาะสมได้ ตามหลักแล้ว ผู้ใช้ควรจะสามารถเลือกชื่อเหตุการณ์มาตรฐานได้จากรายการดร็อปดาวน์ เนื่องจากมีเฉพาะเหตุการณ์มาตรฐานเท่านั้นที่ได้รับการรายงานผลในตัวจัดการโฆษณา และพร้อมให้ใช้งานสำหรับการกำหนดเป้าหมายโฆษณาและการปรับโฆษณาให้เหมาะสม (ถ้ามี) หากไม่มีชื่อเหตุการณ์มาตรฐานที่สอดคล้องกับการดำเนินการของผู้ใช้และไม่จำเป็นต้องรายงานผลโฆษณา คุณอาจต้องการเสนอช่องที่มีรูปแบบอิสระเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนชื่อและพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ที่กำหนดเองได้

สิทธิ์การอนุญาต

คุณต้องได้รับสิทธิ์การอนุญาต page_events ที่จำเป็นในระหว่างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ของแอพพลิเคชั่นของคุณ และคุณต้องเพิ่มสิทธิ์ดังกล่าวไปยังขอบเขตสิทธิ์การอนุญาตที่ร้องขอของปุ่มการเข้าสู่ระบบ การเรียกใช้ Facebook JavaScript SDK หรือขั้นตอนการเข้าสู่ระบบที่สร้างขึ้นด้วยตัวเองดังที่ระบุไว้ในคู่มือนี้

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม