เริ่มต้นใช้งาน

สร้างโฆษณาชิ้นแรกของคุณด้วย API การตลาดโดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้

ก่อนเริ่มต้น

คุณควรทำความคุ้นเคยกับ API กราฟและโครงสร้างแคมเปญโฆษณาของ Facebook ก่อน เมื่อคุณพร้อมที่จะทำการเรียก คุณจะต้องมี:

หลังจากนั้น คุณก็จะสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ อย่าลืมตรวจสอบหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดโดยทั่วไปสำหรับการใช้ API การตลาดด้วย

ขั้นตอนที่ 1: สร้างแคมเปญ

เริ่มกระบวนการโดยสร้างอ็อบเจ็กต์แคมเปญใหม่จากคลาส Campaign ในขั้นตอนนี้ คุณต้องกำหนดวัตถุประสงค์สำหรับโฆษณาของคุณ ซึ่งเป็นเป้าหมายโดยรวมของแคมเปญของคุณ เราขอแนะนำให้คุณสร้างแคมเปญ PAUSED เป็นอย่างแรกเพื่อไม่ให้ระบบเรียกเก็บเงินจากคุณในขณะที่ทำการทดสอบ

curl -X POST \
  -F 'name="My campaign"' \
  -F 'objective="OUTCOME_TRAFFIC"' \
  -F 'status="PAUSED"' \
  -F 'special_ad_categories=[]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/campaigns

เมื่อสำเร็จ เราจะส่ง ID สำหรับแคมเปญโฆษณาที่คุณเพิ่งสร้างขึ้นใหม่กลับไป โปรดอย่าลืมบันทึก ID นี้เอาไว้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่าแคมเปญของคุณสร้างขึ้นในตัวจัดการโฆษณาแล้ว

แหล่งข้อมูล:

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดเป้าหมาย

ก่อนที่จะไปยังขั้นตอนการสร้างชุดโฆษณาของคุณ คุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณก่อน ในขั้นตอนถัดไป คุณจะสร้างชุดโฆษณาและระบุแอตทริบิวต์ของกลุ่มเป้าหมาย

คุณมีตัวเลือกในการกำหนดเป้าหมายหลายอย่าง ในตัวอย่างนี้ เราใช้การค้นหาการกำหนดเป้าหมายเพื่อค้นหาค่าที่ระบุไว้ล่วงหน้าซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายได้

ขั้นแรก ให้มองหาประเทศที่มีอยู่ซึ่งมีคำว่า "united" (สหรัฐ, สหราช) รวมอยู่ด้วย

curl -G \
  -d 'location_types=["country"]' \
  -d 'type=adgeolocation' \
  -d 'q=united' \
  -d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/search

จากนั้น เราจะสามารถหาความสนใจที่มีคำว่า "movie" (ภาพยนตร์) รวมอยู่ด้วย

curl -G \
  -d 'type=adinterest' \
  -d 'q=movie' \
  -d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/search

ค่าที่ส่งคืนมาจากการเรียกใช้ข้างต้นช่วยให้เราเห็นว่า เราสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลที่พำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกาและมีความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์ได้ ข้อมูลจำเพาะสำหรับการกำหนดเป้าหมายจะมีลักษณะดังนี้

targeting={ 
    "geo_locations": {"countries":["US"]}, 
    "interests": [{id: 6003139266461, 'name': 'Movies'}]
}

ขั้นตอนที่ 3: สร้างชุดโฆษณาและกำหนดงบประมาณ การเรียกเก็บเงิน การปรับให้เหมาะสม และระยะเวลา

ชุดโฆษณาคือกลุ่มของโฆษณาที่ใช้งบประมาณต่อวันหรืองบประมาณตลอดอายุการใช้งาน กำหนดเวลา การเรียกเก็บเงิน การปรับให้เหมาะสม และข้อมูลการกำหนดเป้าหมายเดียวกัน ในขั้นตอนนี้ คุณจำเป็นต้องสร้างอ็อบเจ็กต์ใหม่จากคลาส AdSet และระบุข้อมูลต่อไปนี้

  • ระยะเวลา: ระยะเวลาที่จะแสดงโฆษณา ตั้งค่าโดยใช้ start_time และ end_time
  • งบประมาณ: จำนวนเงินที่คุณต้องการใช้จ่าย ใช้ daily_budget หรือ lifetime_budget
  • การปรับให้เหมาะสม: ผลลัพธ์ที่คุณต้องการดำเนินการให้สำเร็จจากโฆษณา ตั้งค่าโดยใช้ optimization_goal
  • การเรียกเก็บเงิน: วิธีที่คุณใช้ชำระเงิน ใช้ billing_event
  • ราคาประมูล: มูลค่าที่คุณตั้งไว้เมื่อเกิดเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมขึ้น ใช้ช่อง bid_amount
  • การกำหนดเป้าหมาย: ใช้ข้อมูลจำเพาะสำหรับการกำหนดเป้าหมายที่สร้างขึ้นในขั้นตอนที่ 2

ในการสร้างชุดโฆษณา คุณจะต้องมี ID แคมเปญโฆษณาที่คุณบันทึกไว้จากขั้นตอนที่ 1 ด้วย

curl \
  -F 'name=My Ad Set' \
  -F 'optimization_goal=REACH' \
  -F 'billing_event=IMPRESSIONS' \
  -F 'bid_amount=2' \
  -F 'daily_budget=1000' \
  -F 'campaign_id=<CAMPAIGN_ID>' \
  -F 'targeting={"geo_locations": {"countries":["US"]}, "interests": [{id: 6003139266461, "name": "Movies"}]}' \
  -F 'start_time=2024-10-06T04:45:17+0000' \
  -F 'status=PAUSED' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adsets

เราขอแนะนำให้สร้างชุดโฆษณาที่มีสถานะ PAUSED เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บค่าบริการในระหว่างทำการทดสอบ

ขั้นตอนที่ 4: จัดเตรียมชิ้นงานโฆษณา

เอกสารอ้างอิง

ในขั้นตอนนี้ คุณจะใช้อ็อบเจ็กต์ AdCreative เพื่อระบุองค์ประกอบภาพของโฆษณา ข้อมูลที่จำเป็นต้องระบุจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณ แต่แอตทริบิวต์ทั่วไปจะมีดังต่อไปนี้:

  • รูปภาพและวิดีโอ
  • ชื่อและคำอธิบาย
  • ลิงก์
  • ปุ่มกระตุ้นให้ดำเนินการ

คุณอาจต้องกรอกข้อมูลในช่องกรอกข้อมูลขั้นสูง ทั้งนี้ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของคุณ เช่น โฆษณาสำหรับแอพ iOS ต้องมี URL ของ App Store

คุณสามารถกำหนดชิ้นงานโฆษณาให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดโฆษณาหรือเป็นแบบสแตนด์อโลนก็ได้ แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบใด เราก็จะจัดเก็บชิ้นงานโฆษณาดังกล่าวไว้ในคลังชิ้นงานโฆษณาของบัญชีโฆษณาของคุณเพื่อนำมาใช้ในโฆษณา

ตัวอย่าง

ตัวอย่างนี้แสดงให้เห็นวิธีการจัดเตรียมรูปภาพและการสร้างอ็อบเจ็กต์ AdCreative

ขั้นแรก ให้สร้างอ็อบเจ็กต์ AdImage จากไฟล์รูปภาพ

curl \
  -F 'filename=@<IMAGE_PATH>' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adimages

จากนั้น ใช้แฮชของรูปภาพเพื่อสร้าง AdCreative

curl -X POST \
  -F 'name="Sample Creative"' \
  -F 'object_story_spec={
       "page_id": "<PAGE_ID>",
       "link_data": {
         "image_hash": "<IMAGE_HASH>",
         "link": "https://facebook.com/<PAGE_ID>",
         "message": "try it out"
       }
     }' \
  -F 'degrees_of_freedom_spec={
      "creative_features_spec": {
        "standard_enhancements": {
          "enroll_status": "OPT_IN"
        }
      }
    }' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adcreatives

ตรวจสอบยืนยันการอัพโหลดรูปภาพโดยไปที่คลังสื่อของคุณในตัวจัดการโฆษณา

ในจุดนี้ AdCreative ที่มีลิงก์ของคุณจะยังไม่ปรากฏในตัวจัดการโฆษณา คุณจะเห็นข้อมูลนี้เมื่อคุณจองโฆษณา คุณสามารถแก้ไขจุดบกพร่องชิ้นงานโฆษณาของคุณด้วย Graph API Explorer และระบุช่องใดก็ตามที่คุณต้องการอ่าน ดังนี้

GET /{my-creative-id} HTTP/1.1
Host: graph.facebook.com/?fields=object_story_spec

ขั้นตอนที่ 5: กำหนดเวลาแสดงโฆษณา

สุดท้าย ให้สร้างอ็อบเจ็กต์โฆษณาเพื่อเชื่อมโยง AdCreative และ AdSet เข้าด้วยกัน ตั้งค่า status ของ Ad เป็น paused เพื่อหลีกเลี่ยงการสั่งซื้อในทันที

curl -X POST \
  -F 'name="My Ad"' \
  -F 'adset_id="&lt;AD_SET_ID&gt;"' \
  -F 'creative={
       "creative_id": "<CREATIVE_ID>"
     }' \
  -F 'status="PAUSED"' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/ads

ตรวจสอบยืนยันว่าโฆษณาของคุณปรากฏอยู่ในตัวจัดการโฆษณา คลิกที่แคมเปญที่คุณเพิ่งสร้างขึ้น จากนั้นคลิกที่ชุดโฆษณาและโฆษณา

เมื่อคุณพอใจกับการจองโฆษณาด้วย API แล้ว ให้ตั้งค่าสถานะเป็น active ขั้นแรก โฆษณาต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบโฆษณาก่อนและมีสถานะเป็น PENDING_REVIEW เมื่อการตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย โฆษณาจะกลับไปมีสถานะเป็น ACTIVE

การคัดลอกโฆษณา

อีกทางเลือกหนึ่งคือ คุณสามารถคัดลอกโฆษณา องค์ประกอบ หรือแคมเปญที่มีอยู่ได้ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถคัดลอกแคมเปญได้อย่างรวดเร็วเพื่อเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าหรือสร้างกลุ่มทดสอบเพื่อกลั่นกรองข้อมูลความรู้เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานออกมา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่: