แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ เป็นโซลูชั่นที่ช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการขายปลีกที่มีการค้าขายกับผู้บริโภคโดยตรง รวมถึงผู้ลงโฆษณาแบรนด์มีโอกาสเพิ่มประสิทธิภาพ มีการปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้น และมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น แคมเปญเหล่านี้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อให้ควบคุมกลยุทธ์ต่างๆ ได้ เช่น ชิ้นงานโฆษณา การกำหนดเป้าหมาย ตำแหน่งการจัดวาง และงบประมาณ รวมถึงทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับให้แคมเปญที่สร้างคอนเวอร์ชั่นมีความเหมาะสม

แทนที่จะใช้หลายๆ แคมเปญกับกลุ่มเป้าหมายที่มีการแบ่งส่วน แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ จะผสมกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดสำหรับตลาดที่ระบุเข้าไว้ในโครงสร้างแคมเปญเดียวกัน วิธีนี้ออกแบบมาให้ลดความซับซ้อนของการสร้างและการจัดการ ในขณะที่ช่วยลดการทับซ้อนกันของกลุ่มเป้าหมาย

การตั้งค่าแคมเปญด้วยตนเองเทียบกับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

การตั้งค่าแคมเปญ BAU ด้วยตนเองแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

แคมเปญ BAU แบบหลายรายการ

การเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอ BAU


การกำหนดเป้าหมายด้วยตนเองด้วย 7 กลยุทธ์การกำหนดเป้าหมาย


การกำหนดเป้าหมายแบบอัตโนมัติ ระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตั้งค่าด้วยการป้อนเพียง 1 ประเทศ


ควบคุมการจัดสรรงบประมาณอย่างเข้มงวดในหลายแคมเปญ


สภาพคล่องของงบประมาณภายใน 1 แคมเปญ


ทดสอบการผสมผสานชิ้นงานโฆษณาได้สูงสุด 50 รายการ


ใช้โฆษณาทั้งแบบไดนามิกและแบบภาพนิ่งผสมกันได้สูงสุด 150 รายการ


เอกสารนี้สรุปขั้นตอนที่คุณต้องปฏิบัติตามเพื่อตั้งค่าการผสานการทำงานสำหรับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ คุณจะต้องดำเนินการต่อไปนี้

  1. กำหนดลูกค้าเดิมที่มีอยู่
  2. สร้างแคมเปญ
  3. ตรวจสอบความถูกต้องของการสร้างแคมเปญ
  4. สร้างชุดโฆษณา
  5. ส่งชิ้นงานโฆษณาและสร้างโฆษณา
  6. กำหนดข้อจำกัดอายุขั้นต่ำและการยกเว้นตามภูมิศาสตร์ (โปรดดูเอกสารอ้างอิงการควบคุมบัญชีโฆษณา)

ขั้นตอนที่ 1: กำหนดลูกค้าที่คุณมีอยู่แล้ว

แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ ช่วยให้คุณสามารถกำหนดลูกค้าที่มีอยู่แล้วเป็นคอลเลกชั่น ID กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง กลุ่มลูกค้าที่คุณมีอยู่แล้วคือผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับธุรกิจ/ผลิภัณฑ์ของคุณอยู่แล้ว เมื่อตั้งค่าคำจำกัดความได้แล้ว คุณก็จะสามารถใช้ส่วนนี้เพื่อแบ่งส่วนงบประมาณของคุณสำหรับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ เพื่อจำกัดรายจ่ายสำหรับลูกค้าที่มีอยู่แล้ว นอกจากนี้เรายังมีการรายงานเกณฑ์ชี้วัดให้คุณด้วย ซึ่งจะแสดงประสิทธิภาพการทำงานของแคมเปญที่อยู่ในเซกเมนต์ผู้ใช้ต่างๆ เหล่านั้น

คุณสามารถกำหนดโฆษณาของคุณได้โดยการโพสต์ไปยังตำแหน่งข้อมูล /act_{ad_account_id} คุณจะต้องระบุพารามิเตอร์ต่อไปนี้เพื่อตั้งค่าคำนิยามนี้

พารามิเตอร์คำอธิบาย

existing_customers

Array<string>

อาร์เรย์ของ ID กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่บัญชีโฆษณาต้องมีสิทธิ์เข้าถึง ปัจจุบัน แหล่งที่มาที่รองรับสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองนั้นได้แก่ เว็บไซต์ กิจกรรมแอพ รายชื่อลูกค้า แค็ตตาล็อก และกิจกรรมออฟไลน์


สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง โปรดดูหน้านี้

ตัวอย่าง

curl -X POST \
  -F 'existing_customers=[<CUSTOM_AUDIENCE_ID>, <CUSTOM_AUDIENCE_ID>]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามกลุ่มเป้าหมายใหม่และกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ในเครื่องมือการติดตามของบุคคลที่สาม โปรดดูพารามิเตอร์ URL ประเภทกลุ่มเป้าหมาย

ขั้นตอนที่ 2: สร้างแคมเปญ

เริ่มโดยการสร้างแคมเปญโฆษณาของคุณ โดยส่งคำขอ POST ไปยัง /act_{ad_account_id}/campaigns

พารามิเตอร์


พารามิเตอร์คำอธิบาย

name
string

ต้องระบุ
ชื่อแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

objective
enum

ต้องระบุ
วัตถุประสงค์แคมเปญ ระบุ OUTCOME_SALES สำหรับโฆษณาประเภทนี้

special_ad_categories

list<Object>

ต้องระบุ
หมวดหมู่โฆษณาพิเศษที่เชื่อมโยงกับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

adlabels

list<Object>

ระบุหรือไม่ก็ได้
ป้ายโฆษณาที่เชื่อมโยงกับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

buying_type
string

ระบุหรือไม่ก็ได้
แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ รองรับเฉพาะค่า AUCTION

execution_options

list<enum>

ระบุหรือไม่ก็ได้
ค่าเริ่มต้น: set ตัวเลือกอื่นๆ มีดังนี้

  • validate_only: เมื่อระบุตัวเลือกนี้ การเรียกใช้ API จะไม่ทำการผกผัน แต่จะทำงานผ่านกฎการตรวจสอบความถูกต้องโดยเทียบกับค่าของแต่ละฟิลด์
  • include_recommendations: ตัวเลือกนี้สามารถใช้ได้ด้วยตนเอง เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ รายการแนะนำสำหรับการกำหนดค่าของอ็อบเจ็กต์โฆษณาจะถูกระบุลงไปด้วย ส่วนที่แยกต่างหากอย่างคำแนะนำจะถูกเพิ่มลงไปในการตอบกลับ แต่ในกรณีที่มีคำแนะนำสำหรับข้อมูลจำเพาะนี้เท่านั้น

หากการเรียกใช้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องหรือการตรวจสอบ การตอบกลับจะเป็น {"success": true} หากการเรียกใช้ไม่ผ่าน ข้อผิดพลาดจะปรากฏขึ้นพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม

smart_promotion_type
enum

ต้องระบุ
หากจะระบุให้เป็นแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ ประเภทโปรโมชั่นอัจฉริยะควรตั้งไว้เป็น AUTOMATED_SHOPPING_ADS

status
enum

ระบุหรือไม่ก็ได้
ตัวเลือกที่ถูกต้องคือ PAUSED และ ACTIVE


หากสถานะนี้เป็น PAUSED ชุดโฆษณาและโฆษณาทั้งหมดจะถูกหยุดไว้ชั่วคราวและมีสถานะการใช้งานเป็น CAMPAIGN_PAUSED

ตัวอย่างการสร้างแคมเปญ

curl -X POST \
  -F 'name=Advantage+ Shopping Campaign' \
  -F 'objective=OUTCOME_SALES' \
  -F 'status=ACTIVE' \
  -F 'special_ad_categories=[]' \
  -F 'smart_promotion_type=AUTOMATED_SHOPPING_ADS' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/campaigns

การอัพเดต

คุณสามารถอัพเดตแคมเปญได้โดยส่งคำขอ POST ไปยัง แคมเปญ/{campaign_id}

พารามิเตอร์


พารามิเตอร์คำอธิบาย

name
string

ชื่อสำหรับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

special_ad_categories

list<Object>

หมวดหมู่โฆษณาพิเศษที่เชื่อมโยงกับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

adlabels

list<Object>

ป้ายโฆษณาที่เชื่อมโยงกับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

execution_options

list<enum>

ค่าเริ่มต้น: set ตัวเลือกอื่นๆ มีดังนี้

  • validate_only: เมื่อระบุตัวเลือกนี้ การเรียกใช้ API จะไม่ทำการผกผัน แต่จะทำงานผ่านกฎการตรวจสอบความถูกต้องโดยเทียบกับค่าของแต่ละฟิลด์
  • include_recommendations: ตัวเลือกนี้สามารถใช้ได้ด้วยตนเอง เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ รายการแนะนำสำหรับการกำหนดค่าของอ็อบเจ็กต์โฆษณาจะถูกระบุลงไปด้วย ส่วนที่แยกต่างหากอย่างคำแนะนำจะถูกเพิ่มลงไปในการตอบกลับ แต่ในกรณีที่มีคำแนะนำสำหรับข้อมูลจำเพาะนี้เท่านั้น

หากการเรียกใช้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องหรือการตรวจสอบ การตอบกลับจะเป็น {"success": true} หากการเรียกใช้ไม่ผ่าน ข้อผิดพลาดจะปรากฏขึ้นพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม

topline_id
สตริงที่เป็นตัวเลขหรือจำนวนเต็ม

ID สรุป

status
enum

คุณสามารถใช้สถานะต่อไปนี้สำหรับการเรียกใช้ API การอัปเดต:

  • ACTIVE
  • PAUSED
  • DELETED
  • ARCHIVED

หากแคมเปญโฆษณาตั้งไว้เป็น PAUSED อ็อบเจ็กต์รองที่ใช้งานอยู่ของแคมเปญนั้นจะถูกหยุดไว้ชั่วคราว และมีสถานะใช้งานเป็น CAMPAIGN_PAUSED

ตัวอย่างการอัพเดตแคมเปญ

curl -X POST \
  -F 'name=Advantage+ Shopping Update Sample Campaign' \
  -F 'status=PAUSED' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/<CAMPAIGN_ID>

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบยืนยันการสร้างแคมเปญ

เพื่อตรวจสอบยืนยันว่าคุณสร้างแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ สำเร็จแล้ว คุณสามารถส่งคำขอ GET ไปยัง /<AD_CAMPAIGN_ID> โดยใช้ฟิลด์ smart_promotion_type

แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ ที่ถูกต้องจะแสดงค่าฟิลด์ AUTOMATED_SHOPPING_ADS

ตัวอย่าง

curl -X GET -G \
  -d 'fields=smart_promotion_type' \
  -d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/<AD_CAMPAIGN_ID>

การตอบกลับ

{
  "smart_promotion_type": "AUTOMATED_SHOPPING_ADS",
  "id": <AD_CAMPAIGN_ID>
}

ขั้นตอนที่ 4: สร้างชุดโฆษณา

เมื่อคุณมีแคมเปญโฆษณาแล้ว ให้สร้างชุดโฆษณาของคุณ แต่ละแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ สามารถมีชุดโฆษณาที่เชื่อมโยงไว้ได้เพียงรายการเดียวเท่านั้น

หากจะสร้างชุดโฆษณา ให้ส่งคำขอ POST ไปยัง /act_{ad_account_id}/adsets

พารามิเตอร์


พารามิเตอร์คำอธิบาย

campaign_id
สตริงที่เป็นตัวเลขหรือจำนวนเต็ม

ต้องระบุ
แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ ที่ถูกต้องที่คุณต้องการเพิ่มชุดโฆษณานี้

name
string

ต้องระบุ
ชื่อแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+

promoted_object
อ็อบเจ็กต์

ต้องระบุ
อ็อบเจ็กต์ที่ชุดโฆษณานี้กำลังโปรโมทในโฆษณาทั้งหมด สำหรับแคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ ให้ระบุ:

  • pixel_id และ
  • custom_event_type: ชุดโฆษณาช้อปปิ้ง Advantage+ รองรับกิจกรรมต่อไปนี้ PURCHASE, ADD_TO_CART, INITIATED_CHECKOUT, ADD_PAYMENT_INFO, ADD_TO_WISHLIST, CONTENT_VIEW, COMPLETE_REGISTRATION, DONATE, START_TRIAL, SUBSCRIBE, SEARCH, OTHER ไม่รองรับเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นลูกค้า

targeting
อ็อบเจ็กต์การกำหนดเป้าหมาย

ต้องระบุ
โครงสร้างการกำหนดเป้าหมายของชุดโฆษณาช้อปปิ้ง Advantage+ เฉพาะ geo_locations เท่านั้นที่อนุญาตให้ระบุได้

geo_locations
อาร์เรย์

ต้องระบุ
ใช้เพื่อจำกัดกลุ่มเป้าหมายของชุดโฆษณา

daily_budget
int64

ระบุหรือไม่ก็ได้
งบประมาณต่อวันที่กำหนดไว้เป็นสกุลเงินตามบัญชีของคุณ อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะชุดโฆษณาที่มีระยะเวลา (ส่วนต่างระหว่าง end_time และ start_time) นานกว่า 24 ชั่วโมง


daily_budget หรือ lifetime_budget ต้องมากกว่า 0

lifetime_budget
int64

ระบุหรือไม่ก็ได้
งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน เป็นสกุลเงินตามบัญชีของคุณ หากระบุ คุณจะต้องระบุ end_time ด้วย


daily_budget หรือ lifetime_budget ต้องมากกว่า 0

end_time
datetime

ต้องระบุเมื่อระบุ lifetime_budget
เมื่อสร้างชุดโฆษณาโดยใช้ daily_budget ให้ระบุ end_time=0 เพื่อกำหนดชุดโฆษณาให้เป็นต่อเนื่องโดยไม่มีวันที่สิ้นสุด ประทับเวลา UTC UNIX


ตัวอย่าง: 2015-03-12 23:59:59-07:00 หรือ 2015-03-12 23:59:59 PDT

optimization_goal
enum

ระบุหรือไม่ก็ได้
เลือก OFFSITE_CONVERSIONS เป็นเป้าหมายการปรับให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนคอนเวอร์ชั่นให้มากที่สุด เลือก VALUE เป็นเป้าหมายการปรับให้เหมาะสมหากต้องการเพิ่มค่าคอนเวอร์ชั่นให้มากที่สุด ในตัวจัดการโฆษณา เราจะแสดงค่าสูงสุดเป็นกลยุทธ์การประมูลของคุณ

bid_strategy
enum

ระบุหรือไม่ก็ได้

  • LOWEST_COST_WITHOUT_CAP: Facebook จะประมูลในนามคุณโดยอัตโนมัติและให้คุณได้ต้นทุนต่ำสุด พร้อมทั้งเพิ่มราคาประมูลที่มีประสิทธิภาพของคุณโดยอัตโนมัติตามความจำเป็นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการตาม optimization_goal ที่คุณกำหนด วิธีนี้เป็นค่าเริ่มต้น bid_strategy เมื่อ optimization_goal เป็น OFFSITE_CONVERSION หรือ VALUE
  • LOWEST_COST_WITH_MIN_ROAS: ตัวเลือกการประมูลที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการปรับมูลค่าให้เหมาะสม คุณต้องระบุ roas_average_floor ซึ่งเป็นผลตอบแทนขั้นต่ำที่ต้องการจากค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ดูผลตอบแทนขั้นต่ำจากค่าใช้จ่ายในการประมูลของผู้ลงโฆษณา
  • COST_CAP: ได้รับผลลัพธ์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยที่เราพยายามทำให้อยู่ภายในต้นทุนต่อการดำเนินการที่คุณกำหนด คุณต้องระบุตัวเลขเพดานในช่อง bid_amountหมายเหตุ: เราไม่รับประกันว่าจะดำเนินการได้ตามขีดจำกัดของเพดานต้นทุนเสมอไป ดูเพดานต้นทุน

bid_amount

ต้องระบุหาก bid_strategy เป็น COST_CAP

bid_constraints
อ็อบเจ็กต์ JSON

ระบุหรือไม่ก็ได้

  • optimization_goal ต้องเป็น VALUE
  • bid_strategy ต้องเป็น LOWEST_COST_WITH_MIN_ROAS
  • การประมูล ROAS ขั้นต่ำจะใช้ bid_constraints เพื่อส่ง "ROAS floor" แต่คุณไม่สามารถใช้กับ bid_constraints ได้ ให้ใช้กับ roas_average_floor แทน ดูผลตอบแทนขั้นต่ำจากค่าใช้จ่ายในการประมูลของผู้ลงโฆษณา
  • ช่วงที่ถูกต้องของ roas_average_floor คือ [100, 10000000] แบบรวมกัน ซึ่งหมายความว่าช่วงที่ถูกต้องของ “ROAS ขั้นต่ำ” คือ [0.01, 1000.0] หรือ [1%, 100000.0%] แบบรวมกัน

billing_event
enum

ต้องระบุ
เหตุการณ์การเรียกเก็บเงินสำหรับชุดโฆษณา แคมเปญช้อปปิ้ง Advantage+ รองรับเฉพาะ อิมเพรสชั่นIMPRESSIONS เท่านั้น

existing_customer_budget_percentage
number

ระบุหรือไม่ก็ได้
ระบุเปอร์เซ็นต์ขั้นสูงสุดของงบประมาณที่สามารถใช้ได้กับลูกค้าที่มีอยู่ที่เชื่อมโยงกับบัญชีโฆษณานี้ การใช้ค่าที่น้อยลงมาอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายต่อคอนเวอร์ชั่นที่แพงขึ้น ค่าที่ถูกต้องคือระหว่าง 0-100

adlabels

list<Object>

ระบุหรือไม่ก็ได้

ระบุรายชื่อป้ายที่จะเชื่อมโยงกับอ็อบเจ็กต์นี้

start_time
datetime

ระบุหรือไม่ก็ได้
เวลาเริ่มต้นของชุดโฆษณา ประทับเวลา UTC UNIX


ตัวอย่าง: 2015-03-12 23:59:59-07:00 หรือ 2015-03-12 23:59:59 PDT

time_start
datetime

ระบุหรือไม่ก็ได้

เวลาเริ่มต้น

time_stop
datetime

ระบุหรือไม่ก็ได้

เวลาสิ้นสุด

attribution_spec

list<JSON Object>

ระบุหรือไม่ก็ได้
ข้อมูลจำเพาะของคอนเวอร์ชั่นที่ใช้สำหรับการระบุที่มาคอนเวอร์ชั่นสำหรับการปรับให้เหมาะสม

ตัวอย่างการสร้างชุดโฆษณา

curl -X POST \
  -F 'name=Advantage+ Shopping Sample Ad Set' \
  -F 'campaign_id=<CAMPAIGN_ID>' \
  -F 'promoted_object={ "pixel_id": "<PIXEL_ID>", "CUSTOM_EVENT_TYPE": "PURCHASE" }' \
  -F 'daily_budget=<NUM>' \
  -F 'existing_customer_budget_percentage=<NUM>' \
  -F 'billing_event=IMPRESSIONS' \
  -F 'targeting={"geo_locations": {"countries": ["US"]}}' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adsets

การอัพเดต

คุณสามารถการอัปเดตชุดโฆษณาโดยส่งคำขอ POST ไปยัง /{ad_set_id}

พารามิเตอร์


พารามิเตอร์คำอธิบาย

adlabels

list<Object>

ระบุรายชื่อป้ายที่จะเชื่อมโยงกับอ็อบเจ็กต์นี้ ช่องนี้จะระบุหรือไม่ก็ได้

daily_budget
int64

งบประมาณต่อวันที่กำหนดไว้เป็นสกุลเงินตามบัญชีของคุณ อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะชุดโฆษณาที่มีระยะเวลา (ส่วนต่างระหว่าง end_time และ start_time) นานกว่า 24 ชั่วโมง


daily_budget หรือ lifetime_budget ต้องมากกว่า 0

existing_customer_budget_percentage
number

ระบุเปอร์เซ็นต์ขั้นสูงสุดของงบประมาณที่สามารถใช้ได้กับลูกค้าที่มีอยู่ที่เชื่อมโยงกับบัญชีโฆษณานี้ การใช้ค่าที่น้อยลงมาอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายต่อคอนเวอร์ชั่นที่แพงขึ้น ค่าที่ถูกต้องคือระหว่าง 0-100

end_time
datetime

เวลาสิ้นสุด ต้องระบุเมื่อระบุ lifetime_budget เอาไว้


ตัวอย่าง: 2015-03-12 23:59:59-07:00 หรือ 2015-03-12 23:59:59 PDT


เมื่อสร้างชุดโฆษณาโดยใช้งบประมาณต่อวัน ให้ระบุ end_time=0 เพื่อกำหนดชุดโฆษณาให้เป็นต่อเนื่องโดยไม่มีวันที่สิ้นสุด


ประทับเวลา UTC UNIX

execution_options

list<enum>

ค่าเริ่มต้น: set ตัวเลือกอื่นๆ มีดังนี้

  • validate_only: เมื่อระบุตัวเลือกนี้ การเรียกใช้ API จะไม่ทำการผกผัน แต่จะทำงานผ่านกฎการตรวจสอบความถูกต้องโดยเทียบกับค่าของแต่ละฟิลด์
  • include_recommendations: ตัวเลือกนี้สามารถใช้ได้ด้วยตนเอง เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ รายการแนะนำสำหรับการกำหนดค่าของอ็อบเจ็กต์โฆษณาจะถูกระบุลงไปด้วย ส่วนที่แยกต่างหากอย่างคำแนะนำจะถูกเพิ่มลงไปในการตอบกลับ แต่ในกรณีที่มีคำแนะนำสำหรับข้อมูลจำเพาะนี้เท่านั้น

หากการเรียกใช้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องหรือการตรวจสอบ การตอบกลับจะเป็น {"success": true} หากการเรียกใช้ไม่ผ่าน ข้อผิดพลาดจะปรากฏขึ้นพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม

start_time
datetime

เวลาเริ่มต้นของชุดโฆษณา ต้องระบุเป็นประทับเวลา UTC UNIX


ตัวอย่าง: 2015-03-12 23:59:59-07:00 หรือ 2015-03-12 23:59:59 PDT

status
enum

ตัวเลือกที่มีสำหรับการอัปเดต:

  • ACTIVE
  • PAUSED
  • DELETED
  • ARCHIVED

หากตั้งเป็น PAUSED ชุดโฆษณาที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดจะถูกหยุดไว้ชั่วคราวและมีสถานะการใช้งานเป็น ADSET_PAUSED

lifetime_budget
int64

งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน เป็นสกุลเงินตามบัญชีของคุณ หากระบุ คุณจะต้องระบุ end_time ด้วย


daily_budget หรือ lifetime_budget ต้องมากกว่า 0

time_start
datetime

เวลาเริ่มต้น

time_stop
datetime

เวลาสิ้นสุด

targeting
อ็อบเจ็กต์การกำหนดเป้าหมาย

การกำหนดเป้าหมายโครงสร้างสำหรับชุดโฆษณาของคุณ ค่าที่ถูกต้องสำหรับการกำหนดเป้าหมายคือ ตำแหน่งgeo_locations

geo_locations
อาร์เรย์

ต้องระบุ
ใช้เพื่อจำกัดกลุ่มเป้าหมายของชุดโฆษณา

attribution_spec

list<JSON Object>

ระบุหรือไม่ก็ได้
ข้อมูลจำเพาะของคอนเวอร์ชั่นที่ใช้สำหรับการระบุที่มาคอนเวอร์ชั่นสำหรับการปรับให้เหมาะสม

ตัวอย่างการอัพเดตชุดโฆษณา

curl -X POST \
  -F 'name=Advantage+ Shopping Sample Updated Ad Set' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/<AD_SET_ID>

ขั้นตอนที่ 5: ส่งชิ้นงานโฆษณาและสร้างโฆษณา

เมื่อมีชุดโฆษณาแล้ว คุณก็สามารถสร้างโฆษณาได้โดยการโพสต์ไปยังปลายทาง /act_{ad_account_id}/ads คุณอาจใส่พารามิเตอร์ต่อไปนี้

พารามิเตอร์


พารามิเตอร์คำอธิบาย

name
string

ต้องระบุ
ชื่อโฆษณา

adset_id
int64

ต้องระบุ
ID ชุดโฆษณา ต้องระบุเมื่อสร้าง

creative
AdCreative

ต้องระบุ
ข้อมูลจำเพาะของชิ้นงานโฆษณาหรือ ID ของชิ้นงานโฆษณาที่โฆษณานี้จะใช้ ฟิลด์ที่ถูกต้องคือ

  • object_story_spec
  • product_set_id
  • use_page_actor_override
  • creative_id

คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณาได้ที่นี่


โปรดส่งชิ้นงานโฆษณาโดยใช้รูปแบบต่อไปนี้: {"creative_id": <CREATIVE_ID>}


หรือส่งข้อมูลจำเพาะของชิ้นงานโฆษณา:

{
        "creative": {
          "name": <NAME>, 
          "object_story_spec": <SPEC>,
          "product_set_id": <PRODUCT_SET_ID>
        }
}

status
enum

ระบุหรือไม่ก็ได้
เฉพาะ ACTIVE และ PAUSED ที่สามารถใช้งานได้ระหว่างการสร้าง ระหว่างการทดสอบ ขอแนะนำให้ตั้งโฆษณาเป็นสถานะ PAUSED เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ตั้งใจ

adlabels

list<Object>

ระบุหรือไม่ก็ได้
ป้ายโฆษณาที่เชื่อมโยงกับโฆษณานี้

execution_options

list<enum>

ระบุหรือไม่ก็ได้
ค่าเริ่มต้น: set

  • validate_only: เมื่อระบุตัวเลือกนี้ การเรียกใช้ API จะไม่ทำการผกผัน แต่จะทำงานผ่านกฎการตรวจสอบความถูกต้องโดยเทียบกับค่าของแต่ละฟิลด์
  • synchronous_ad_review: ไม่ควรใช้ตัวเลือกนี้ด้วยตนเอง แต่ควรระบุโดยใช้ validate_only เสมอ เมื่อมีการระบุตัวเลือกเหล่านี้ การเรียกใช้ API จะเริ่มการตรวจสอบยืนยันความสมบูรณ์ของโฆษณา ซึ่งประกอบด้วยการตรวจสอบภาษาของข้อความ กฎว่าด้วยข้อความ 20% ในรูปภาพ และอื่นๆ รวมถึงตรรกะการตรวจสอบความถูกต้อง
  • include_recommendations: ตัวเลือกนี้สามารถใช้ได้ด้วยตนเอง เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ รายการแนะนำสำหรับการกำหนดค่าของอ็อบเจ็กต์โฆษณาจะถูกระบุลงไปด้วย ส่วนที่แยกต่างหากอย่างคำแนะนำจะถูกเพิ่มลงไปในการตอบกลับ แต่ในกรณีที่มีคำแนะนำสำหรับข้อมูลจำเพาะนี้เท่านั้น

หากการเรียกใช้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องหรือการตรวจสอบ การตอบกลับจะเป็น {"success": true} หากการเรียกใช้ไม่ผ่าน ข้อผิดพลาดจะปรากฏขึ้นพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม

ตัวอย่างการสร้างโฆษณา

curl -X POST \
  -F 'name=Advantage+ Shopping campaign Sample Ad' \
  -F 'adset_id=<ADSET_ID>' \
  -F 'creative={"name": <NAME>, "object_story_spec": <SPEC>}' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/ads

ฟิลด์ชิ้นงานโฆษณา

ฟิลด์คำอธิบาย

object_story_spec
AdCreativeObjectStorySpec

ต้องระบุ
ใช้หากคุณต้องการสร้างโพสต์บนเพจที่ไม่ได้เผยแพร่อันใหม่ และเปลี่ยนโพสต์นั้นให้กลายเป็นโฆษณา ID เพจและเนื้อหาที่จะสร้างโพสต์บนเพจที่ไม่ได้เผยแพร่อันใหม่

use_page_actor_override
AdCreative

ต้องระบุ
หากเป็น true เราจะแสดงเพจ Facebook ที่เชื่อมโยงกับโฆษณาช้อปปิ้ง Advantage

ตัวอย่างการสร้างชิ้นงานโฆษณา

curl -X POST \
  -F 'object_story_spec=<SPEC>' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/adcreatives

การอัพเดต

คุณสามารถการอัปเดตโฆษณาโดยส่งคำขอ POST ไปยัง /{ad_id}

พารามิเตอร์


พารามิเตอร์คำอธิบาย

name
string

ชื่อใหม่ของโฆษณา

adlabels

list<Object>

ป้ายโฆษณาที่เชื่อมโยงกับโฆษณานี้

execution_options

list<enum>

ค่าเริ่มต้น: set ตัวเลือกอื่นๆ มีดังนี้

  • validate_only: เมื่อระบุตัวเลือกนี้ การเรียกใช้ API จะไม่ทำการผกผัน แต่จะทำงานผ่านกฎการตรวจสอบความถูกต้องโดยเทียบกับค่าของแต่ละฟิลด์
  • synchronous_ad_review: ไม่ควรใช้ตัวเลือกนี้ด้วยตนเอง แต่ควรระบุโดยใช้ validate_only เสมอ เมื่อมีการระบุตัวเลือกเหล่านี้ การเรียกใช้ API จะเริ่มการตรวจสอบยืนยันความสมบูรณ์ของโฆษณา ซึ่งประกอบด้วยการตรวจสอบภาษาของข้อความ กฎว่าด้วยข้อความ 20% ในรูปภาพ และอื่นๆ รวมถึงตรรกะการตรวจสอบความถูกต้อง
  • include_recommendations: ตัวเลือกนี้สามารถใช้ได้ด้วยตนเอง เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ รายการแนะนำสำหรับการกำหนดค่าของอ็อบเจ็กต์โฆษณาจะถูกระบุลงไปด้วย ส่วนที่แยกต่างหากอย่างคำแนะนำจะถูกเพิ่มลงไปในการตอบกลับ แต่ในกรณีที่มีคำแนะนำสำหรับข้อมูลจำเพาะนี้เท่านั้น

หากการเรียกใช้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องหรือการตรวจสอบ การตอบกลับจะเป็น {"success": true} หากการเรียกใช้ไม่ผ่าน ข้อผิดพลาดจะปรากฏขึ้นพร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม

status
enum

ตัวเลือกต่างๆ มีดังนี้:

  • ACTIVE
  • PAUSED
  • DELETED
  • ARCHIVED

ระหว่างการทดสอบ ขอแนะนำให้ตั้งโฆษณาเป็นสถานะ PAUSED เพื่อไม่ให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้ตั้งใจ

creative
AdCreative

ข้อมูลจำเพาะของชิ้นงานโฆษณาซึ่งจะใช้งานโดยโฆษณานี้ ฟิลด์ที่ถูกต้องคือ คัดค้านobject_story_spec, asset_feed_spec และ use_page_actor_override โดยสามารถดูได้ที่นี่ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณาได้ที่นี่


โปรดส่งชิ้นงานโฆษณาโดยใช้รูปแบบต่อไปนี้

{
    "creative": {
      "name": <NAME>, 
      "object_story_spec": <SPEC>,
      "product_set_id": <PRODUCT_SET_ID>
    }
}

ตัวอย่างการอัพเดตโฆษณา

curl -X POST \
  -F 'name=Advantage+ Shopping campaign Sample Update Ad' \
  -F 'creative={"name": <NAME>, "object_story_spec": <SPEC>}' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v19.0/<AD_ID>