โฆษณาใน Reels

สร้างโฆษณาบน Meta โดยมุ่งเน้นไปที่ตำแหน่งการจัดวางในคลิป Reels ที่ใช้งานได้และเรียนรู้หลักปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการดำเนินการด้านโฆษณาของเรา

ข้อกำหนดเบื้องต้น

• คุณสร้างแอพ Facebook ไปก่อนหน้านี้แล้ว
• คุณคุ้นเคยกับ API การตลาดและเปิดใช้งานการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook แล้ว

หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้นเหล่านี้ โปรดดูที่เอกสารประกอบสำหรับผู้พัฒนาของเรา

การทดสอบแบบแซนด์บ็อกซ์

Meta มาพร้อมสภาพแวดล้อมในการทดสอบ ซึ่งจะไม่ได้แสดงโฆษณาจริงๆ แต่ช่วยให้คุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้

• เพิ่ม API การตลาดเป็นผลิตภัณฑ์ภายในแอพ Meta ของคุณในส่วน "เครื่องมือ" เพื่อสร้างและแก้ไขโฆษณาโดยใช้ API แบบไม่มีค่าใช้จ่าย
• สร้างบัญชีโฆษณาเพื่อใช้ API การตลาด

โปรดอ่านหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดในการทดสอบของเรา

ขั้นตอนที่ 1: เข้าถึงสินทรัพย์

โทเค็นการเข้าถึงคือสตริงที่ไม่ชัดเจนซึ่งระบุผู้ใช้ แอพ หรือเพจ และแอพสามารถนำมาใช้เพื่อเรียกใช้ API กราฟได้ คุณสามารถดูเวลาหมดอายุและแอพที่สร้างโทเค็นดังกล่าวขึ้นมาได้ การเรียกใช้ API การตลาดในแอพ Meta จำเป็นต้องใช้โทเค็นการเข้าถึงด้วย

เรียกดูโทเค็นการเข้าถึงด้วยสิทธิ์การอนุญาตที่จำเป็นต่างๆ ดังนี้

• ads_management: ทำการเปลี่ยนแปลงกับบัญชีโฆษณาที่เลือกไว้

• ads_read: อ่านข้อมูลของโฆษณา

• read_insights: อ่านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน

ใช้โทเค็นการเข้าถึงระบบ เนื่องจากโทเค็นประเภทนี้จะมีอายุการใช้งานนานกว่า

การอนุญาตเพิ่มอีกชั้น

คุณต้องสร้างแอพทางธุรกิจเพื่อเข้าถึงตำแหน่งข้อมูล API การตลาด แอพดังกล่าวจะมีการอนุญาตของ API กราฟเพิ่มอีกชั้นหนึ่งที่เรียกว่าระดับสิทธิ์การเข้าถึง ในระหว่างการตรวจสอบแอพ แอพของคุณต้องส่งคำขอสิทธิ์การอนุญาตและฟีเจอร์บางรายการด้วย คุณต้องตรวจสอบยืนยันธุรกิจให้เสร็จสมบูรณ์ หากแอพของคุณจะมีการใช้งานโดยผู้ใช้แอพที่ไม่มีบทบาทในแอพนั้นๆ หรือบทบาทในธุรกิจที่อ้างสิทธิ์ในแอพนั้นๆ

หากแอพของคุณจัดการบัญชีโฆษณาของผู้อื่น คุณจำเป็นต้องมีสิ่งต่อไปนี้

• ads_read แบบสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูง

และ/หรือ

• ads_management แบบสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูง

ขั้นตอนที่ 2: ดึงข้อมูลบัญชีโฆษณา

ดึงข้อมูลบัญชีโฆษณาของผู้ลงโฆษณา และอนุญาตให้ผู้ลงโฆษณาเลือกบัญชีมาใช้ในการสร้างโฆษณา

คุณสามารถดูบัญชีโฆษณาทั้งหมดที่ธุรกิจของผู้ลงโฆษณาสามารถเข้าถึงได้ผ่าน API การจัดการธุรกิจของเรา การดำเนินการนี้จะแสดงบัญชีโฆษณาทั้งหมดที่ธุรกิจเป็นเจ้าของ โปรดทราบว่าคุณจะต้องมีสิทธิ์การอนุญาต business_management ที่ระดับแอพและผู้ใช้ โปรดดูที่ API การจัดการสินทรัพย์ธุรกิจ

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -G \
-d "access_token=<ACCESS_TOKEN>" \
"https://graph.facebook.com/v21.0/<BUSINESS_ID>/owned_ad_accounts"

ขั้นตอนที่ 3: สร้างแคมเปญ

แคมเปญคือโครงสร้างการจัดระเบียบระดับสูงสุดภายในบัญชีโฆษณา และควรมีวัตถุประสงค์เดียวสำหรับผู้ลงโฆษณา อ็อบเจ็กต์เหล่านี้ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ในการโฆษณาและชุดโฆษณา 1 ชุดขึ้นไป ลักษณะเช่นนี้ช่วยให้คุณปรับเพิ่มประสิทธิภาพและวัดผลลัพธ์ของวัตถุประสงค์ในการโฆษณาแต่ละรายการได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้าง การอ่าน การอัพเดต และการลบแคมเปญที่นี่

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -X POST \
  -F 'name="My campaign"' \
  -F 'objective="OUTCOME_TRAFFIC"' \
  -F 'status="PAUSED"' \
  -F 'special_ad_categories=[]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v21.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/campaigns

ขั้นตอนที่ 4: การกำหนดเป้าหมาย

ให้ระบุพารามิเตอร์เหล่านี้ในคำขอ API ของคุณเพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงกลุ่มต่างๆ เป็นการเฉพาะได้

• ข้อมูลทางประชากรศาสตร์ (อายุ เพศ ตำแหน่งที่ตั้ง)
• ความสนใจ
• พฤติกรรม

จากนั้น โฆษณาก็จะเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายที่มีแนวโน้มสูงสุดที่จะสนใจสินค้าหรือบริการของคุณ

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -X POST \
  -F 'access_token=YOUR_ACCESS_TOKEN' \
  -F 'name=My Custom Audience' \
  -F 'subtype=CUSTOM' \
  -F 'description=People who live in New York, aged 25-40, interested in technology' \
  -F 'customer_file_source=USER_PROVIDED_ONLY' \
  -F 'targeting_spec={
        "geo_locations": {
          "countries": ["US"],
          "regions": [{"key": "4081"}]  # New York region key
        },
        "age_min": 25,
        "age_max": 40,
        "interests": [{"id": "6003139266461", "name": "Technology"}]
      }' \
  https://graph.facebook.com/v21.0/act_YOUR_AD_ACCOUNT_ID/customaudiences

ขั้นตอนที่ 5: สร้างชุดโฆษณา

ชุดโฆษณาสามารถมีโฆษณาได้ตั้งแต่ 1 รายการขึ้นไป โฆษณาในชุดโฆษณาควรมีการกำหนดเป้าหมาย งบประมาณ การเรียกเก็บเงิน เป้าหมายการปรับให้เหมาะสม และระยะเวลาที่เหมือนกัน

คุณสามารถตั้งค่าตัวเลือกงบประมาณ กำหนดเวลา การกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์การประมูล และตำแหน่งการจัดวางได้ ชุดโฆษณาช่วยให้สามารถปรับแต่งวิธีและตำแหน่งในการแสดงโฆษณาให้กับเซกเมนต์กลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน และบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้

พารามิเตอร์ที่สำคัญ:

• เกณฑ์ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
• งบประมาณต่อวันหรืองบประมาณตลอดอายุการใช้งาน
• ตัวเลือกในการกำหนดเวลาเพื่อควบคุมเวลาที่โฆษณาจะปรากฏ

รายละเอียดเพิ่มเติมแบบครบถ้วนอยู่ที่นี่

คุณจะเลือกตำแหน่งการจัดวางที่กำหนดเอง ซึ่งรวมถึงโฆษณาใน Reels บน Instagram และ Facebook หรือใช้ค่าเริ่มต้นเป็นตำแหน่งการจัดวางอัตโนมัติก็ได้ หากคุณไม่ได้ระบุข้อมูลใดๆ ไว้ในช่องตำแหน่งการจัดวางเป็นการเฉพาะ ระบบจะพิจารณาใช้ตำแหน่งเริ่มต้นทั้งหมดที่เป็นไปได้กับช่องดังกล่าว

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -X POST \
  -F 'access_token=YOUR_ACCESS_TOKEN' \
  -F 'name=Reels Ad Set' \
  -F 'campaign_id=YOUR_CAMPAIGN_ID' \
  -F 'daily_budget=5000' \
  -F 'billing_event=IMPRESSIONS' \
  -F 'optimization_goal=REACH' \
  -F 'start_time=2024-07-10T10:00:00-0700' \
  -F 'end_time=2024-07-20T10:00:00-0700' \
  -F 'targeting={"geo_locations":{"countries":["US"]},"age_min":18,"age_max":65}' \
  -F 'promoted_object={"page_id":"YOUR_PAGE_ID"}' \
  -F 'status=PAUSED' \
  -F 'instagram_actor_id=YOUR_INSTAGRAM_ACTOR_ID' \
  -F 'publisher_platforms=["instagram"]' \
  -F 'instagram_positions=["reels"]' \
  https://graph.facebook.com/v21.0/act_YOUR_AD_ACCOUNT_ID/adsets

การกำหนดเป้าหมายตำแหน่งการจัดวาง: ตำแหน่งการจัดวางที่ใช้งานได้ในคลิป Reels, วัตถุประสงค์ที่เข้ากันได้ และเป้าหมายการปรับให้เหมาะสม

ข้อจำกัด

ขั้นตอนที่ 6: เลือกชิ้นงานโฆษณา

ชิ้นงานโฆษณาคือองค์ประกอบที่เป็นภาพและข้อความของโฆษณา ซึ่งรองรับรูปแบบโฆษณาต่อไปนี้

• รูปภาพ
• วิดีโอ
• ภาพสไลด์
• การเปิดใช้งานการออกแบบโฆษณาที่ผ่านการปรับแต่ง

ปรับองค์ประกอบการออกแบบให้เป็นแบบอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยใช้กระบวนการสร้างสรรค์ของเรา

ปรับเปลี่ยนคลิป Reels ที่มีอยู่ให้เป็นชิ้นงานโฆษณา

ผู้ใช้สามารถระบุองค์ประกอบชิ้นใหม่ หรือปรับเปลี่ยนคลิป Reels ที่มีอยู่จากบัญชี Instagram ของตนให้เป็นชิ้นงานโฆษณาได้

คุณสามารถสร้างโฆษณาจากคลิป Reels บน Instagram หรือ Facebook แบบออร์แกนิกที่มีอยู่และมีสิทธิ์รับการโปรโมทได้ในกรณีที่คลิป Reels ดังกล่าวมีลักษณะดังนี้

• ยาวน้อยกว่า 90 วินาที
• มีอัตราส่วนภาพแนวตั้งแบบเต็มหน้าจอ (9:16)
• ไม่ได้ใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์, GIF, สติกเกอร์แบบอินเทอร์แอคทีฟ หรือฟิลเตอร์กล้องจากบุคคลที่สาม
• ไม่มีการแชร์ไปยัง Facebook

หากต้องการปรับเปลี่ยนคลิป Reels บน Instagram แบบออร์แกนิกให้เป็นชิ้นงานโฆษณาสำหรับแคมเปญโฆษณาใหม่ ให้ดำเนินการดังนี้

1. รับ ID บัญชีธุรกิจบน Instagram ซึ่งจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเพจ Facebook

   • GET/{ad_account_id}/connected_instagram_accountsหรือ
   • GET/{business_id}/instagram_business_accounts

2. ค้นหาคลิป Reels ที่คุณต้องการโปรโมท

   • GET/{ig-business-account-user-id}/media

3. จัดเตรียมชิ้นงานโฆษณา

   • ให้ตั้งค่า instagram_user_id เป็น ID ผู้ใช้ Instagram แทนการระบุ instagram_actor_id ในข้อมูลจำเพาะของชิ้นงานโฆษณา
   • ระบุ source_instagram_media_id เป็น ID สื่อ
   • อีกวิธีหนึ่งคือ ให้อัพเดต call_to_action สำหรับการโปรโมทของคุณ

ใช้ boost_eligibility_info เป็นวิธีที่สะดวกในการระบุว่าสื่อนั้นๆ มีสิทธิ์รับการโปรโมทเป็นโฆษณาหรือไม่ และใช้ boost_ads_list เพื่อติดตามข้อมูลการโปรโมทโฆษณาบน Instagram ที่เกี่ยวข้องที่ผ่านๆ มา

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -i -X POST \
https://graph.facebook.com/v21.0/act_<AD_ACCOUNT>/adcreatives?object_id=<PAGE_ID>
&instagram_user_id=<IG_USER_ID>
&source_instagram_media_id=<IG_ORGANIC_MEDIA_ID>
&call_to_action="{'type':'LEARN_MORE','value':{'link': '<YOUR_LINK>'}}"
&access_token=<API_ACCESS_TOKEN>

กล่องเครื่องมือในการสร้างสรรค์ด้วย Gen AI

คุณสามารถสร้างองค์ประกอบของโฆษณาที่หลากหลายและน่าสนใจได้โดยอัตโนมัติ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และข้อความ เครื่องมือที่ใช้ AI เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับโฆษณา โดยการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและช่วยให้สร้างสรรค์ชิ้นงานได้หลากหลายมากขึ้น การสร้างโฆษณาจะช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและยกระดับแคมเปญให้ดีขึ้น

ขั้นตอนที่ 7: ดูตัวอย่างโฆษณา

ดูตัวอย่างโฆษณาในรูปแบบคลิป Reels บน Facebook และ Instagram ตามตารางด้านล่างโดยใช้สิ่งต่อไปนี้

• ID โฆษณา
• ID ชิ้นงานโฆษณา
• ข้อมูลจำเพาะของชิ้นงานโฆษณา

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -X POST \
  'https://graph.facebook.com/v21.0/act_{ad_account_id}/adpreviews' \
  -F 'access_token={your_access_token}' \
  -F 'creative={
        "object_story_spec": {
            "instagram_actor_id": "{instagram_actor_id}",
            "video_data": {
                "video_id": "{video_id}",
                "title": "Check out our new product!",
                "description": "Exciting new features and benefits.",
                "call_to_action": {
                    "type": "LEARN_MORE",
                    "value": {
                        "link": "https://www.example.com/product"
                    }
                }
            }
        }
    }' \
  -F 'ad_format=INSTAGRAM_REELS'

ขั้นตอนที่ 8: กำหนดเวลาในการแสดงโฆษณา

หากต้องการจองโฆษณาโดยใช้ API การตลาด ให้สร้างอ็อบเจ็กต์กลุ่มโฆษณา และเชื่อมโยงอ็อบเจ็กต์ชุดโฆษณาของคุณเข้ากับชิ้นงานโฆษณา ใช้ /act_{ad_account_id}/ads เพื่อส่งอ็อบเจ็กต์โฆษณา และตรวจสอบความถูกต้องของการตอบกลับเพื่อยืนยันว่าจองได้สำเร็จ ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณตั้งค่าโฆษณาเสร็จสิ้น ซึ่งทำให้โฆษณาพร้อมแสดงขึ้นตามการกำหนดค่าที่ระบุไว้

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -X POST \
  -F 'name="My Ad"' \
  -F 'adset_id="<AD_SET_ID>"' \
  -F 'creative={
       "creative_id": "<CREATIVE_ID>"
     }' \
  -F 'status="PAUSED"' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v21.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/ads

ขั้นตอนที่ 9: ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน

ใช้ API ข้อมูลเชิงลึกเพื่อดึงข้อมูลเกณฑ์ชี้วัดต่างๆ จากบัญชีโฆษณาไปยังโฆษณา

• act_<AD_ACCOUNT_ID>/insights
• <CAMPAIGN_ID>/insights
• <ADSET_ID>/insights
• <AD_ID>/insights

เมื่อเผยแพร่แคมเปญบน Instagram และ Facebook ให้เพิ่ม breakdowns=publisher_platform เพื่อดูสถิติของตำแหน่งการจัดวางบน Facebook และ Instagram แยกจากกันดังที่แสดงในตัวอย่างการเรียกใช้ด้านล่าง เมื่อแจกแจงข้อมูลเชิงลึกตามระดับตำแหน่งการจัดวาง คุณจะสามารถดูประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาต่างๆ ผ่านตำแหน่งการจัดวางบนคลิป Reels ใน Instagram และ Facebook ได้

ตัวอย่างการเรียกใช้

curl -X GET \
  'https://graph.facebook.com/v21.0/{ad_account_id}/insights' \
  -F 'access_token={your_access_token}' \
  -F 'level=campaign' \
  -F 'fields=campaign_name,impressions,clicks,spend' \
  -F 'breakdowns=publisher_platform,platform_position' \
  -F 'filtering=[{"field":"platform_position","operator":"IN","value":["instagram_reels"]}]' \
  -F 'time_range={"since":"2024-06-01","until":"2024-06-30"}'

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ

วัตถุประสงค์ใหม่ๆ ที่รองรับใน ODAX (การตรวจสอบความถูกต้องของวัตถุประสงค์ในประสบการณ์โฆษณาที่เน้นผลลัพธ์)

• OUTCOME_APP_PROMOTION
• OUTCOME_AWARENESS
• OUTCOME_ENGAGEMENT
• OUTCOME_LEADS
• OUTCOME_SALES
• OUTCOME_TRAFFIC

ขีดจำกัดอัตรา

API การตลาดมีตรรกะการจำกัดอัตราของตัวเอง และไม่รวมอยู่ในการจำกัดอัตราของ API กราฟใดๆ ทั้งสิ้น ฟีเจอร์ที่ส่งผลต่อโควต้าขีดจำกัดอัตราของ API การตลาดคือสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา โดยค่าเริ่มต้นแล้ว คุณจะได้รับสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานเมื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ API การตลาดลงในแดชบอร์ดของแอพ ซึ่งจะมอบสิทธิ์การเข้าถึง API การตลาดให้กับคุณเพื่อใช้ในการพัฒนา หากต้องการขยายโควต้าการจำกัดอัตรา ให้อัพเกรดเป็นสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูง

ข้อควรรู้เกี่ยวกับชิ้นงานโฆษณา

โฆษณาใน Reels จะทำให้ความสนใจกลายเป็นการดำเนินการ ซึ่งช่วยยกระดับผลลัพธ์แบบพุ่งทะยาน เมื่อสร้างโฆษณาประเภทนี้อย่างถูกต้อง ประสิทธิภาพที่ได้ก็จะยิ่งมากขึ้นไปอีก

1. สร้างวิดีโอแบบ 9:16 เพื่อให้วิดีโอของคุณน่าสนใจ: คลิป Reels คือวิดีโอในรูปแบบเต็มหน้าจอที่น่าตื่นตาตื่นใจ ให้คุณลองเริ่มต้นจากวิดีโอและปรับขนาดเป็น 9:16 เพื่อช่วยให้ชิ้นงานโฆษณาของคุณเข้ากันกับพื้นที่นี้

2. สร้างชิ้นงานโฆษณาในโซนปลอดภัยเพื่อให้ข้อความของคุณปรากฏชัดเจน: ให้จัดวางในโซนปลอดภัยเพื่อให้โอเวอร์เลย์สติกเกอร์ข้อความ การกระตุ้นให้ดำเนินการ หรือข้อความสำคัญๆ ไม่ถูกอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของคลิป Reels บดบัง อย่าใส่ข้อความ โลโก้ และองค์ประกอบสำคัญอื่นๆ ในพื้นที่ด้านล่าง 35% ของชิ้นงานโฆษณาที่มีอัตราส่วนภาพ 9:16 ของคุณ

3. สร้างชิ้นงานโฆษณาให้มีเสียงประกอบเพื่อให้วิดีโอมีความบันเทิง: เสียง (ไม่ว่าจะเป็นเพลง วอยซ์โอเวอร์ หรือเอ็ฟเฟ็กต์เสียง) คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คลิป Reels น่าสนใจและเกิดความบันเทิง