ประเภทอ็อบเจ็กต์: สตริงหรืออาร์เรย์สตริง | ขอแนะนำให้ใช้การแฮช
ID ภายนอกคือสตริงที่แทนผู้ใช้ในระบบของผู้ลงโฆษณา เช่น ID สมาชิกที่เป็นลูกค้าประจำ, ID ผู้ใช้ และ ID คุกกี้ภายนอก คุณสามารถส่ง external_ ID
ได้อย่างน้อย 1 รายการสำหรับเหตุการณ์ที่กำหนด และเราจะพยายามจับคู่ ID ดังกล่าวกับใครสักคนบน Facebook
ID ภายนอกสามารถตั้งค่าได้ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ พิกเซลของเบราว์เซอร์, API คอนเวอร์ชั่น และ API คอนเวอร์ชั่นแบบออฟไลน์ (OCAPI) คุณต้องตั้งค่าให้สอดคล้องกันในทุกช่องทาง ตัวอย่างเช่น หากคุณส่งเหตุการณ์พิกเซลของเบราว์เซอร์โดยตั้ง external_id
เป็น 123
เหตุการณ์ API คอนเวอร์ชั่นของคุณสำหรับผู้ใช้คนเดียวกันนั้นจะต้องตั้ง external_id
เป็น 123
เช่นเดียวกัน
หากต้องการตรวจสอบ external_id
ที่ส่งผ่านพิกเซลของเบราว์เซอร์ ให้มองหาตัวช่วยพิกเซลใต้พารามิเตอร์การจับคู่ขั้นสูงที่ส่งไป โดยเครื่องหมายทดสอบเหตุการณ์จะไม่มี external_id
อยู่
ในฐานะผู้ลงโฆษณา คุณอาจมอบหมาย ID ของคุณให้กับผู้ใช้ที่เยี่ยมชมทรัพย์สินของคุณไปแล้ว ช่อง external_id
จะเอื้อให้คุณใช้ ID เหล่านี้เพื่อดำเนินการต่อไปนี้ได้
external_id
แล้ว ID นี้จะสามารถใช้ซ้ำในช่องทางต่างๆ ได้อีก และใช้เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้ เพียงแมป external_id
เข้ากับระบบข้อมูลระบุตัวตนภายในในฝั่งของคุณ แล้วคุณก็จะไม่ต้องจัดการ PII จำนวนมากอีกต่อไปexternal_id
พร้อม PII หนึ่งครั้งแล้วใช้คู่ที่จับไว้ดังกล่าวซ้ำได้ โดยไม่ต้องอัพโหลด PII ที่มีการแฮชหลายครั้งคุณจะส่งเหตุการณ์ที่มี external_id
และพารามิเตอร์ข้อมูลลูกค้าอื่นๆ จำนวนหนึ่งให้แก่เรา เหตุการณ์นี้จะส่งได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น พิกเซกของเบราว์เซอร์, API คอนเวอร์ชั่น และ API คอนเวอร์ชั่นแบบออฟไลน์
ในฝั่งเรา เราจะมองหาคู่ที่ตรงกันโดยใช้ข้อมูลทั้งหมดที่คุณส่งมา หากเราพบคู่ที่ตรงกัน เราจะเชื่อมโยง external_id
ที่คุณมอบให้เข้ากับผู้ใช้รายนั้นๆ
ในเหตุการณ์ต่อมา คุณจะส่งเหตุการณ์ที่มีเฉพาะ external_id
ให้เราได้ ในฝั่งเรา เราจะเก็บการเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นแล้วก่อนหน้านี้ระหว่าง external_id และผู้ใช้ Facebook ที่ตรงกันเอาไว้
การจับคู่ external_id
เข้ากับผู้ใช้ที่เฉพาะเจาะจงจะหมดอายุเมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เราขอแนะนำให้คุณรีเฟรชการจับคู่ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ViewContent
ให้แก่เราผ่านพิกเซลของเบราว์เซอร์ที่มีข้อมูลลูกค้าที่มีการแฮช คุณจะระบุอีเมลที่มีการแฮชและ ID ภายนอกที่มีการแฮชสำหรับผู้ใช้รายนั้นๆ พิกเซลจะระบุข้อมูลคุกกี้เอาไว้ด้วยโดยอัตโนมัติ external_id
มาด้วย external_id
ของคุณ เราพบว่าคู่ที่จับได้นั้นจับคู่ไว้กับข้อมูลที่ส่งผ่านพิกเซลไว้อยู่แล้ว เราสามารถใช้การแมปที่มีอยู่นั้นกับ API คอนเวอร์ชั่นได้ใช้ external_id
เพื่อรายงานคอนเวอร์ชั่นที่เกิดขึ้นระหว่างเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ ในกรณีนั้น กระบวนการจะมีหน้าตาดังนี้
external_id
จากเหตุการณ์พิกเซลให้แก่ Facebook คุณจะส่งคำขอเปลี่ยนเส้นทางให้แก่พาร์ทเนอร์ของคุณโดยระบุ external_id
ไว้ด้วยexternal_id
เอาไว้ด้วย พาร์ทเนอร์จะไม่ต้องแชร์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนใดๆexternal_id
ที่สอดคล้องกันนั้นๆ มาด้วยคุณจำเป็นต้องใช้ external_id
ในพิกเซลของเบราว์เซอร์, API คอนเวอร์ชั่น, API คอนเวอร์ชั่นแบบออฟไลน์ และเหตุการณ์ในแอพให้สอดคล้องกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณใช้ external_id
เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายประเภทต่อไปนี้ได้
โปรดทราบว่ากลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากไฟล์ลูกค้าไม่ได้รวมอยู่ในรายการนี้ กลุ่มเป้าหมายประเภทนี้จะใช้นโยบายที่แตกต่างกันและไม่สามารถสร้างโดยใช้ external_id
เพียงอย่างเดียวหรือใช้ extern_id
จากข้อมูลที่ได้รับผ่าน API คอนเวอร์ชั่นได้
หากคุณสามารถเพิ่ม external_id
ในเหตุการณ์ได้ คุณควรเพิ่มไว้ทุกครั้ง ทั้งนี้ หากระบบไม่ได้ตั้งค่ามาเพื่อระบุ ID ภายนอกด้วย คุณสามารถลดปัญหาโดยใช้พารามิเตอร์ fbp
แทน ID ภายนอกได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์ fbp
สถานการณ์ | วิธีจัดการข้อมูล |
---|---|
เหตุการณ์จะมี | เราจะใช้ |
เหตุการณ์จะมี | เราจะบันทึกช่องทั้งสองแล้วลองค้นหาคู่ที่ตรงกัน โดยจะให้ความสำคัญกับ |
เหตุการณ์จะมี | เหตุการณ์นี้จะได้รับการประมวลผลเช่นเดียวกับเหตุการณ์ปกติที่มี |