API การตลาดช่วยให้คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากข้อมูลของลูกค้าได้ ซึ่งประกอบด้วยอีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, ชื่อ, วันเกิด, เพศ, ตำแหน่งที่ตั้ง, ID ผู้ใช้แอพ, ID ผู้ใช้ในเพจ, ตัวระบุการโฆษณาของ Apple (IDFA) หรือ ID การโฆษณาของ Android
บัญชีธุรกิจของ Meta ซึ่งบางครั้งเรียกว่าบัญชีตัวจัดการธุรกิจ หรือเรียกสั้นๆ ว่าบัญชีธุรกิจจะเปลี่ยนชื่อเป็นพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนี้จะทยอยปรากฏบนเทคโนโลยีในเครือ Meta โดยจะเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงภายนอกเท่านั้น และจะไม่กระทบต่อ ID บัญชีธุรกิจของ Meta (ID พอร์ตโฟลิโอธุรกิจ)
ในฐานะเจ้าของข้อมูลธุรกิจของคุณเอง คุณจะต้องรับผิดชอบในการสร้างและจัดการข้อมูลนี้ ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากระบบการจัดการด้านลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ของคุณ หากต้องการสร้างกลุ่มเป้าหมาย คุณจะต้องแชร์ข้อมูลของคุณในรูปแบบแฮชเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ โปรดดูการแฮชข้อมูลและการทำข้อมูลให้เป็นมาตรฐาน Meta จะเปรียบเทียบข้อมูลนี้กับข้อมูลที่แฮชของเราเพื่อดูว่าเราควรเพิ่มบุคคลบน Facebook ลงในกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาของคุณหรือไม่
ซึ่งคุณสามารถเพิ่มรายการข้อมูลลงในกลุ่มเป้าหมายได้ไม่จำกัดจำนวน แต่สูงสุดครั้งละ 10,000 รายการเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงต่อกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจะไม่เกิดขึ้นในทันทีและมักใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง โดยจำนวนรายการข้อมูลที่คุณส่งคำขอให้ลบออกและ/หรือจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่บัญชีของคุณมีอยู่จะทำให้การประมวลผลคำขอนี้ใช้ระยะเวลามากยิ่งขึ้น
เพื่อให้ผู้ลงโฆษณาสร้างและจัดการกลุ่มเป้าหมายของตนได้ดียิ่งขึ้น กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากไฟล์ของลูกค้าที่ไม่ได้ใช้ในชุดโฆษณาที่ทำงานอยู่เป็นระยะเวลาเกิน 2 ปีจะถูกตั้งค่าสถานะให้ลบเป็นรอบๆ คุณจะต้องให้คำแนะนำแก่เราก่อนที่เราจะดำเนินการใดๆ เมื่อกลุ่มเป้าหมายถูกย้ายไปอยู่ขั้น "กลุ่มเป้าหมายที่หมดอายุ" และถูกตั้งค่าสถานะแล้ว คุณจะต้องให้คำแนะนำแก่เราในการดำเนินการ หากคุณต้องการให้เรารักษากลุ่มเป้าหมายดังกล่าวไว้ คุณจะต้องใช้กลุ่มเป้าหมายที่ถูกตั้งค่าสถานะในชุดโฆษณาที่ใช้งานอยู่ แต่หากคุณตัดสินใจไม่ใช้กลุ่มเป้าหมายที่ถูกตั้งค่าสถานะในชุดโฆษณาที่ใช้งานอยู่ เราจะลบกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวออก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เอกสารประกอบเรื่องภาพรวมของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
หากคุณแชร์เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นโดยใช้ API คอนเวอร์ชั่น คุณสามารถสร้างเว็บไซต์สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้โดยไม่ต้องอัพโหลดข้อมูลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม คุณสามารถอัพโหลดข้อมูลลูกค้าที่รองรับต่อไปได้เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากไฟล์ของลูกค้า
โปรดใช้ API การแทนที่ใหม่ของเราเพื่อลบผู้ใช้ที่มีอยู่ออกจากกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดและแทนที่ด้วยผู้ใช้กลุ่มใหม่ การอัพเดตกลุ่มเป้าหมายโดยใช้ API การแทนที่จะไม่ย้ายชุดโฆษณาของคุณกลับไปยังช่วงการเรียนรู้
ระบุ subtype=CUSTOM
และ customer_file_source
ในการเรียกใช้ API ของคุณ
curl -X POST \
-F 'name="My new Custom Audience"' \
-F 'subtype="CUSTOM"' \
-F 'description="People who purchased on my website"' \
-F 'customer_file_source="USER_PROVIDED_ONLY"' \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
https://graph.facebook.com/v21.0/act_<AD_ACCOUNT_ID>/customaudiences
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
| อธิบายว่าข้อมูลลูกค้าในกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณได้รับการรวบรวมอย่างไรในตอนแรก
|
| ชื่อกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง |
| คำอธิบายกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง |
| ประเภทของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง |
ใช้การเรียกใช้ API POST
ไปยังตำแหน่งข้อมูล /{audience_id}/users
เพื่อระบุรายชื่อผู้ใช้ที่คุณต้องการเพิ่มลงในกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
| จำเป็นต้องระบุ ตัวอย่าง { "session_id":9778993, "batch_seq":10, "last_batch_flag":true, "estimated_num_total":99996 } |
| จำเป็นต้องระบุ ตัวอย่าง { "schema":"EMAIL_SHA256", "data": [ ["<HASHED_DATA>"], ["<HASHED_DATA>"], ["<HASHED_DATA>"] ] } |
หากคุณต้องการเปิดใช้งาน "การใช้ข้อมูลแบบจำกัด" สำหรับผู้คนที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียผ่านกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากรายชื่อลูกค้าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2023 เป็นต้นไป คุณจะต้องอัพโหลดกลุ่มเป้าหมายใหม่หรืออัพเดตกลุ่มเป้าหมายที่มีอยู่ของคุณให้มีแฟล็ก "การใช้ข้อมูลแบบจำกัด" โดยคุณสามารถอัพเดตและรักษาสถานะ "การใช้ข้อมูลแบบจำกัด" ของกลุ่มเป้าหมายและผู้คนได้อย่างสม่ำเสมอตามที่ต้องการ
โปรดทราบว่าแฟล็ก "การใช้ข้อมูลแบบจำกัด" ที่ใช้กับผู้ใช้ในกลุ่มเป้าหมายหนึ่งจะไม่มีผลกับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ โดยอัตโนมัติ ในทำนองเดียวกัน ผู้ลงโฆษณาต้องจัดการกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากรายชื่อลูกค้าแต่ละกลุ่มที่มีอยู่แบบแยกกันตามเกณฑ์ที่ตนเลือก โดยจะต้องใช้แฟล็ก "การใช้ข้อมูลแบบจำกัด" แบบแยกกันกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มที่ตนใช้ในการโฆษณา
หากต้องการไม่เปิดใช้งาน LDU
อย่างชัดแจ้งสำหรับรายการข้อมูล คุณสามารถส่งอาร์เรย์ data_processing_options
ว่างหรือลบช่องในเพย์โหลดออก ตัวอย่างอาร์เรย์ว่าง:
{ "payload": { "schema": [ "EMAIL", "DATA_PROCESSING_OPTIONS" ], "data": [ [ "<HASHED_DATA> ", [] ] ] } }
หากต้องการไม่เปิดใช้งาน LDU
อย่างชัดแจ้งและให้ Meta ทำการระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ (โดยไม่รวมรัฐและประเทศของรายการข้อมูลนั้นๆ) ให้ระบุอาร์เรย์ที่มี LDU
สำหรับรายการข้อมูลแต่ละรายการ:
{ "payload": { "schema": [ "EMAIL", "DATA_PROCESSING_OPTIONS" ], "data": [ [ "<HASHED_DATA> ", ["LDU"] ] ] } }
หากต้องการเปิดใช้งาน LDU และระบุตำแหน่งที่ตั้งด้วยตนเอง
{ "customer_consent": true, "payload": { "schema": [ "EMAIL", "DATA_PROCESSING_OPTIONS", "DATA_PROCESSING_OPTIONS_COUNTRY", "DATA_PROCESSING_OPTIONS_STATE" ], "data": [ [ "<HASHED_DATA>", ["LDU"], 1, 1000 ] ] } }
session
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
| จำเป็นต้องระบุ |
| จำเป็นต้องระบุ |
| จำเป็นต้องระบุ ระบุให้ระบบของเราทราบว่าคุณได้ระบุแบตช์ครบทั้งหมดแล้วสำหรับเซสชั่นการแทนที่ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ เมื่อตั้งค่าเป็น |
| ระบุหรือไม่ก็ได้ |
การตอบกลับที่สำเร็จจะมีอ็อบเจ็กต์ JSON พร้อมช่องต่อไปนี้
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
| ตัวระบุกลุ่มเป้าหมาย |
| ID เซสชั่นที่คุณส่งไป |
| จำนวนผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับในเซสชั่นนี้จนถึงปัจจุบัน |
| จำนวนรายการที่ส่งซึ่งมีการแฮชไม่ถูกต้อง รายการเหล่านั้นไม่ส่งคืนรายการที่ตรงกัน และระบบจะไม่เพิ่มในกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง ตัวเลขนี้ไม่ใช่จำนวนที่แน่นอน แต่เป็นช่วงของจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ตรง |
| ตัวอย่างรายการที่ไม่ถูกต้องที่พบในคำขอปัจจุบันไม่เกิน 100 รายการ |
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแชร์กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณด้วยอ็อบเจ็กต์ธุรกิจ
ใช้การเรียกใช้ API DELETE
ไปยังตำแหน่งข้อมูล /{audience_id}/users
เพื่อระบุรายชื่อผู้ใช้ที่คุณต้องการลบออกจากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
curl -X DELETE \ --data-urlencode 'payload={ "schema": "EMAIL_SHA256", "data": [ "<HASHED_DATA>", "<HASHED_DATA>", "<HASHED_DATA>" ] }' \ -d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/<VERSION>/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
หรือคุณอาจเพิ่มพารามิเตอร์ method
และตั้งค่าเป็น DELETE
ในคำขอ POST
ที่ใช้ในการเพิ่มสมาชิกของกลุ่มเป้าหมายก็ได้
คุณสามารถลบผู้คนออกจากรายการที่มี EXTERN_ID
(หากมี)
curl -X DELETE \ --data-urlencode 'payload={ "schema": "EXTERN_ID", "data": [ "<ID>", "<ID>", "<ID>" ] }' \ -d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/<VERSION>/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
คุณสามารถลบรายชื่อผู้คนออกจากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองทั้งหมดในบัญชีโฆษณาของคุณได้โดยใช้ตำแหน่งข้อมูลนี้
การที่ระบบไม่ประมวลผลข้อมูลนี้อาจเกิดจากสาเหตุบางประการ เช่น หากบัญชีโฆษณาไม่ได้เป็นของพอร์ตโฟลิโอธุรกิจ แสดงว่าคุณยังไม่ได้ยอมรับข้อกำหนดของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง หรือข้อมูลดังกล่าวไม่ตรงกับผู้ใช้
หากต้องการลบบัญชีในศูนย์บัญชี ให้รวมช่องข้อมูลเดียวกับใน การอัพเดตผู้ใช้ และดำเนินการเรียกใช้ HTTP DELETE
ไปยัง
https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/act_<AD_ACCOUNT_ID>/usersofanyaudience
หากต้องการเพิ่มอัตราการตรงกันสำหรับรายการข้อมูลของคุณ ให้ระบุหลายคีย์ในรูปแบบอาร์เรย์ของคีย์เดี่ยว เช่น [EXTERN_ID
, LN
, FN
, EMAIL
] แม้ว่าคุณไม่ต้องแฮช EXTERN_ID
แต่คุณจะต้องแฮชข้อมูลระบุตัวบุคคลทั้งหมด เช่น อีเมลและชื่อ โปรดดูรายละเอียดที่การแฮชข้อมูลและการทำข้อมูลให้เป็นมาตรฐาน
คุณสามารถระบุคีย์แบบหลายคีย์เป็นบางส่วนหรือทั้งหมดสำหรับรายการข้อมูลได้ โปรดดูรายละเอียดที่การจับคู่ ID ภายนอกแบบหลายคีย์
curl \ -F 'payload={ "schema": [ "FN", "LN", "EMAIL" ], "data": [ [ "<HASH>", "<HASH>", "<HASH>" ], [ "<HASH>", "<HASH>", "<HASH>" ] ] }' \ -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/<VERSION>/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
PAGEUID
หากคุณใช้คีย์ PAGEUID
คุณจะต้องระบุรายการ ID ของเพจด้วย คุณสามารถส่ง PAGEUID
ให้กับเราได้เพียงรายการเดียวเท่านั้น โดยควรเป็นอาร์เรย์ที่มีองค์ประกอบเดียว
curl -X POST \ -F 'payload={ "schema": [ "PAGEUID" ], "is_raw": "true", "page_ids": [ "<PAGE_IDs>" ], "data": [ [ "<HASH>", "<ID>", "<ID>", "<VALUE>" ], [ "<HASH>", "<ID>", "<ID>", "<VALUE>" ], [ "<HASH>", "<ID>", "<ID>", "<VALUE>" ] ] }' \ -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/<VERSION>/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
คุณต้องแฮชข้อมูลให้เป็น SHA256
เนื่องจากเราไม่รองรับกลไกการแฮชรูปแบบอื่น ข้อมูลทั้งหมดจำเป็นต้องผ่านกระบวนการดังกล่าวยกเว้นตัวระบุจากภายนอก, ID ผู้ใช้แอพ, ID ผู้ใช้ในเพจ และ ID ผู้โฆษณาบนมือถือ
ก่อนแฮชข้อมูลของคุณ โปรดทำข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเพื่อให้เราสามารถจัดการข้อมูลนั้นได้ มีเพียงชื่อ (FN
) และนามสกุล (LN
) เท่านั้นที่สามารถใช้อักขระพิเศษและตัวอักษรที่ไม่ใช่ตัวอักษรโรมัน โปรดแปลเป็นตัวอักษรโรมันแบบไม่มีอักขระพิเศษเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การจับคู่ที่ดีที่สุด
หากต้องการดูตัวอย่างข้อมูลที่แฮชและทำให้เป็นมาตรฐานอย่างเหมาะสมสำหรับพารามิเตอร์ด้านล่าง
คีย์ | แนวทาง |
---|---|
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช |
| ต้องมีการแฮช ใช้รหัสประเทศตัวพิมพ์เล็ก 2 ตัวอักษรตามมาตรฐาน ISO 3166-1 alpha-2 |
| ไม่จำเป็นต้องมีการแฮช ใช้ตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดและเก็บขีดกลางไว้ |
ระบุค่า SHA256
ให้กับคีย์มาตรฐานและการแทนค่านี้ด้วยรหัส HEX
โดยใช้ตัวพิมพ์เล็กสำหรับ A ถึง F ทั้งนี้ ฟังก์ชั่นแฮชใน PHP จะแปลงอีเมลและหมายเลขโทรศัพท์ที่ทำให้เป็นมาตรฐานแล้ว
ตัวอย่าง | ผลลัพธ์ |
---|---|
| f1904cf1a9d73a55fa5de0ac823c4403ded71afd4c3248d00bdcd0866552bb79 |
| 1ef970831d7963307784fa8688e8fce101a15685d62aa765fed23f3a2c576a4e |
คุณสามารถจับคู่ผู้คนสำหรับกลุ่มเป้าหมายกับตัวระบุของคุณเอง หรือที่เรียกว่าตัวระบุจากภายนอก (EXTERN_ID
) ซึ่งอาจเป็น ID ที่ไม่ซ้ำกันจากผู้ลงโฆษณา เช่น ID สมาชิกที่เหนียวแน่น, ID ผู้ใช้ และ ID คุกกี้ภายนอก
แม้ว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องแฮช ID นี้ แต่คุณจะต้องแฮชข้อมูลระบุตัวบุคคล (PII) ทั้งหมดที่คุณส่งไปกับ EXTERN_ID
คุณควรใช้รูปแบบเดียวกันกับที่คุณใช้ส่ง ID ทุกประการเพื่อให้จับคู่ได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคุณเลือกแฮชโดยใช้ SHA256 โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ค่าเดียวกันที่ผ่านการแฮชแล้ว
คุณสามารถใช้ ID เหล่านี้เป็นคีย์เดี่ยวเพื่อลบผู้คนออกจากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองหรือสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองใหม่ วิธีการนี้ช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องอัพโหลดคีย์อื่นๆ ที่ตรงกันอีกครั้ง หากคุณแท็กบุคคลด้วยข้อมูลส่วนตัวที่แฮชไว้และ EXTERN_ID
เราจะให้ความสำคัญกับ EXTERN_ID
น้อยกว่า เมื่อเรานำไปจับคู่กับผู้คนบน Facebook
ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลสำหรับ EXTERN_ID
คือ 90 วัน
คุณสามารถใช้การแมป EXTERN_ID
ซ้ำเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากไฟล์ของลูกค้าได้ภายในบัญชีโฆษณาเดียว
หากคุณมีกลุ่มเป้าหมายสำหรับช่อง EXTERN_ID
ในบัญชีโฆษณาของคุณ ให้สร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่โดยใช้เพียงตัวระบุเหล่านี้
curl \ -F 'payload={"schema":"EXTERN_ID","data":["<ID>","<ID>"]}' \ -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/<VERSION>/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
นอกจากนั้น คุณยังสามารถเพิ่มผู้คนที่มีการแท็ก EXTERN_ID
และมีการจับคู่แบบหลายคีย์ได้อีกด้วย
curl \ -F 'payload={ "schema": [ "EXTERN_ID", "FN", "EMAIL", "LN" ], "data": [ [ "<ID>", "<HASH>", "<HASH>", "<HASH>" ], [ "<ID>", "<HASH>", "<HASH>", "<HASH>" ], [ "<ID>", "<HASH>", "<HASH>", "<HASH>" ] ] }' \ -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/<VERSION>/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
เรารองรับพารามิเตอร์ EXTERN_ID
สำหรับแต่ละบัญชีโฆษณา โดยเราไม่สามารถใช้ค่าต่างๆ ในบัญชีโฆษณาหนึ่งกับบัญชีโฆษณาอื่นได้ แม้ว่าบัญชีดังกล่าวจะเป็นของบุคคลเดียวกันก็ตาม
ตำแหน่งข้อมูล /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/usersreplace
ช่วยให้คุณสามารถดำเนินการ 2 อย่างในการเรียกใช้ API ครั้งเดียวได้ดังนี้
การใช้ตำแหน่งข้อมูล /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/usersreplace
ช่วยให้คุณสามารถลบผู้ใช้ที่มีอยู่ทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติ แทนที่จะต้องอัพโหลดรายชื่อผู้ใช้ที่คุณต้องการลบ ตำแหน่งข้อมูลนี้จะไม่รีเซ็ตช่วงการเรียนรู้ของชุดโฆษณาของคุณเมื่อกลุ่มเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งของชุดโฆษณาที่ทำงานอยู่ ซึ่งแตกต่างจากการเรียกใช้ API POST หรือ DELETE ไปยังตำแหน่งข้อมูล /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
API การแทนที่ผู้ใช้จะใช้ได้เฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ตรงตามข้อกำหนดต่อไปนี้:
/<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
เพื่อเพิ่มและลบผู้ใช้CUSTOM
ก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวนการแทนที่ เราขอแนะนำให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
operation_status
ของกลุ่มเป้าหมายของคุณเป็น Normal
คุณไม่สามารถดำเนินการแทนที่ได้ หากกำลังมีการแทนที่รายการอื่นอยู่
อย่าเพิ่มหรือลบผู้ใช้ผ่าน /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/users
ในระหว่างที่กำลังดำเนินการแทนที่ผ่าน /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/usersreplace
หากคุณลองดำเนินการแทนที่ครั้งที่ 2 ก่อนที่การดำเนินการครั้งแรกจะเสร็จสมบูรณ์ คุณจะได้รับข้อความแจ้งว่ากำลังมีการดำเนินการแทนที่อยู่
ช่วงระยะเวลาสูงสุดของเซสชั่นการแทนที่ครั้งที่ 1 จะอยู่ที่ 90 นาที โดย API จะปฏิเสธแบตช์ทั้งหมดสำหรับเซสชั่นหนึ่งๆ ที่ได้รับหลังพ้นช่วง 90 นาทีนับตั้งแต่ที่เริ่มเซสชั่นไปแล้ว หากคุณจำเป็นต้องส่งแบตช์ต่างๆ เป็นเวลานานกว่า 90 นาที ให้รอจนกว่าการดำเนินการแทนที่สำหรับเซสชั่นนั้นๆ จะเสร็จสิ้น จากนั้นให้ใช้การดำเนินการเพิ่มของตำแหน่งข้อมูล /<CUSTOM_AUDIENCE>/users
เพื่ออัพโหลดส่วนที่เหลือของคุณ
เมื่อมีกลุ่มเป้าหมายพร้อมแล้ว โปรดระบุรายชื่อผู้ใช้ที่คุณต้องการแทนที่ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองโดยใช้การเรียกใช้ POST
ไปยัง /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/usersreplace
operation_status
ของกลุ่มเป้าหมายของคุณจะเปลี่ยนเป็น replace_in_progress
operation_status
ของกลุ่มเป้าหมายของคุณจะเปลี่ยนเป็น replace_error
คุณสามารถใส่พารามิเตอร์ต่อไปนี้ในการเรียก POST
ไปยัง /<CUSTOM_AUDIENCE_ID>/usersreplace
ได้:
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
ประเภท: อ็อบเจ็กต์ JSON | จำเป็นต้องระบุ ใช้เพื่อติดตามว่ามีการอัพโหลดกลุ่มผู้ใช้ที่ระบุหรือไม่ ต้องมี ID เซสชั่นและข้อมูลของกลุ่ม โปรดดูช่องเซสชั่น คุณสามารถเพิ่มจำนวนผู้คนไปยังกลุ่มเป้าหมายได้สูงสุด 10,000 รายภายในช่วงเวลาที่กำหนด หากคุณมีจำนวนผู้คนมากกว่า 10,000 ราย ให้แบ่งเซสชั่นของคุณออกเป็นหลายๆ แบตช์ ซึ่งทั้งหมดควรมี ID เซสชั่นจำนวน 1 ID ตัวอย่าง: { 'session_id':9778993, 'batch_seq':10, 'last_batch_flag':true, 'estimated_num_total':99996 } |
ประเภท: อ็อบเจ็กต์ JSON | จำเป็นต้องระบุ ใช้เพื่อระบุข้อมูลที่คุณต้องการอัพโหลดไปยังกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยต้องมีสกีมาและข้อมูล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ช่องเพย์โหลด ตัวอย่าง: { "schema":"EMAIL", "data":["<HASHED_EMAIL>", "<HASHED_EMAIL>", "<HASHED_EMAIL>" ] } |
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
ประเภท: จำนวนเต็ม 64 บิต | จำเป็นต้องระบุ ใช้เพื่อติดตามเซสชั่น คุณต้องสร้างตัวระบุนี้และหมายเลขจะต้องไม่ซ้ำกันภายในบัญชีโฆษณาเดียวกัน |
ประเภท: จำนวนเต็ม | จำเป็นต้องระบุ ต้องเริ่มที่ |
ประเภท: บูลีน | ระบุหรือไม่ก็ได้ ระบุว่าคุณได้ระบุแบตช์ครบทั้งหมดแล้วสำหรับเซสชั่นการแทนที่ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ เมื่อตั้งค่าเป็น true ระบบจะไม่รับแบตช์เพิ่มเติมสำหรับเซสชั่นนั้น แต่หากคุณไม่ตั้งค่าแฟล็กนี้ ระบบจะยุติเซสชั่นดังกล่าวโดยอัตโนมัติหลังจากที่ได้รับแบตช์แรกไปแล้ว 90 นาที แบตช์ที่ได้รับหลังจากผ่านไปแล้ว 90 นาทีจะถูกลบด้วยเช่นกัน |
ประเภท: จำนวนเต็ม | ระบุหรือไม่ก็ได้ จำนวนผู้ใช้ทั้งหมดโดยประมาณที่จะอัพโหลดในเซสชั่นนี้ ระบบของเรานำมาใช้เพื่อปรับปรุงการประมวลผลของเซสชั่น |
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
ประเภท: สตริงหรือ | จำเป็นต้องระบุ ระบุประเภทข้อมูลที่คุณจะใส่ ซึ่งอาจเป็นคีย์เดียวหรือหลายคีย์จากรายการต่อไปนี้
|
ประเภท: JSON_Array | จำเป็นต้องระบุ รายการข้อมูลที่สอดคล้องกับสกีมา ตัวอย่าง:
|
เมื่อคุณส่งคำขอ POST
คุณจะได้รับการตอบกลับที่มีช่องต่อไปนี้
ชื่อ | คำอธิบาย |
---|---|
ประเภท: จำนวนเต็ม | ตัวระบุบัญชี |
ประเภท: จำนวนเต็ม | ID เซสชั่นที่คุณระบุไว้ก่อนหน้านี้ |
ประเภท: จำนวนเต็ม | จำนวนผู้ใช้ทั้งหมดที่ได้รับในเซสชั่นนี้จนถึงปัจจุบัน |
ประเภท: จำนวนเต็ม | จำนวนผู้ใช้ทั้งหมดที่มีรูปแบบไม่ถูกต้องหรือไม่สามารถนำมาถอดรหัสได้ หากจำนวนนี้ไม่ใช่ 0 โปรดตรวจสอบข้อมูลของคุณอีกครั้ง |
| ตัวอย่างรายการที่ไม่ถูกต้องในคำขอปัจจุบันไม่เกิน 100 รายการ โปรดตรวจสอบข้อมูลของคุณอีกครั้ง |
ข้อผิดพลาดทั้งหมดที่ตำแหน่งข้อมูลการแทนที่ส่งคืนมานั้นจะมีรหัสข้อผิดพลาด 2650 อยู่ ต่อไปนี้เป็นรหัสย่อยบางส่วนของข้อผิดพลาดต่างๆ ที่พบบ่อยที่สุดซึ่งระบบจะส่งคืนมา รวมถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
รหัสย่อยของข้อผิดพลาด | คำอธิบาย | สิ่งที่ต้องดำเนินการ |
---|---|---|
1870145 | การอัพเดตกลุ่มเป้าหมายอยู่ระหว่างดำเนินการ | คุณไม่สามารถแทนที่กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากรายชื่อลูกค้าซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการอัพเดตได้ โปรดรอให้กลุ่มเป้าหมายมีความพร้อมใช้งานเป็น "ปกติ" แล้วค่อยลองอีกครั้ง |
1870158 | เซสชั่นการแทนที่หมดเวลาแล้ว | เซสชั่นการแทนที่แบตช์ของคุณใช้เวลาครบ 90 นาทีตามที่กำหนดไว้แล้ว ระบบจะแทนที่กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากรายชื่อลูกค้าของคุณด้วยข้อมูลเท่าที่คุณอัพโหลดมาจนถึงตอนนี้ หากต้องการเพิ่มข้อมูลเพิ่มเติมในกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง ให้รอจนกว่ากระบวนการแทนที่จะเสร็จสิ้น แล้วใช้การดำเนินการ |
1870147 | การอัพโหลดแบตช์สำหรับการแทนที่ไม่ถูกต้อง | ไม่พบ |
1870159 | เซสชั่นการแทนที่เสร็จสิ้นแล้ว | การดำเนินการแทนที่เสร็จสิ้นไปแล้ว เนื่องจากอัพโหลดแบตช์ที่มี |
1870148 | เกิดข้อผิดพลาด | รายชื่อลูกค้าของคุณไม่ได้รับการอัพเดตโดยสมบูรณ์ หากกลุ่มเป้าหมายของคุณมีขนาดต่างจากที่คาดไว้มาก โปรดลองใหม่อีกครั้ง |
1870144 | ระบบไม่รองรับขนาดของ DFCA สำหรับการแทนที่ | คุณไม่สามารถแทนที่กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากรายชื่อลูกค้า ซึ่งมีขนาดอยู่ที่ 100 ล้านรายหรือมากกว่านั้นได้ |
กลุ่มเป้าหมายประเภทอื่นๆ ที่คุณสามารถสร้างและกำหนดเป้าหมาย หรือแชร์ได้มีดังนี้
กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากเว็บไซต์ของคุณ - สร้างกลุ่มเป้าหมายโดยอิงตามผู้ที่เข้าชมเพจใดเพจหนึ่งหรือดำเนินการบนเว็บไซต์ของคุณ สร้างกลุ่มเป้าหมายโดยอิงตามข้อมูลจากพิกเซลของ Meta บนเว็บไซต์ของคุณ
กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากแอพมือถือของคุณ - สร้างกลุ่มเป้าหมายโดยอิงตามผู้ที่ใช้แอพมือถือของคุณ สร้างกลุ่มเป้าหมายโดยอิงตามข้อมูลจากเหตุการณ์ในแอพ
กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน — ระบุผู้คนที่คุณรู้จักอยู่แล้วและแสดงโฆษณาไปยังผู้คนที่คล้ายกันบนแอพ Facebook
กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองแบบออฟไลน์ - สร้างกลุ่มเป้าหมายโดยอิงตามผู้ที่เยี่ยมชมหน้าร้าน โทรเข้าศูนย์บริการลูกค้าของคุณ หรือดำเนินการผ่านวิธีการอื่นๆ ในแบบออฟไลน์
กลุ่มเป้าหมายสำหรับการมีส่วนร่วมในแคนวาส - สร้างกลุ่มเป้าหมายที่ประกอบด้วยทุกคนที่มีส่วนร่วมกับแคนวาสของคุณ