กฎของกลุ่มเป้าหมาย

กฎของกลุ่มเป้าหมายเป็นตัวกำหนดว่าจะเพิ่มผู้ใช้ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณหรือไม่ โดยกฎเหล่านี้จะใช้กับ URL ตัวอ้างอิงหรือเหตุการณ์และข้อมูลที่ต้องการ

ให้ระบุกฎของคุณเป็นสตริงที่เข้ารหัส JSON ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้

ให้ใช้กฎของกลุ่มเป้าหมายกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองประเภทต่างๆ รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนเว็บไซต์ กลุ่มเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนแอพมือถือ และกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองแบบออฟไลน์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการมีส่วนร่วม โปรดดู "กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการมีส่วนร่วม"

ข้อจำกัด

  • กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มสามารถระบุกฎของกลุ่มเป้าหมายได้สูงสุด 10 กฎ โดยจะต้องระบุจำนวน rules ไม่ว่าจะเป็นกฎ inclusions หรือ exclusions ก็ตาม
  • กฎแต่ละข้อสามารถระบุตัวกรองได้สูงสุด 100 ตัว หรือที่เรียกว่าโหนดใบ (Leaf Node)

รูปแบบคำสั่งสำหรับกฎของกลุ่มเป้าหมาย

ในการกำหนดกฎของกลุ่มเป้าหมาย คุณจะต้องทำตามโครงสร้างต่อไปนี้

rule: {
   "inclusions": <RULE_SET>,
   "exclusions": <RULE_SET>,
}

ช่องที่ใช้งานได้

ชื่อ คำอธิบาย

inclusions

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

สตริง JSON ของชุดกฎที่กำหนดการรวม ดูรูปแบบคำสั่งของชุดกฎ

exclusions

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

สตริง JSON ของชุดกฎที่กำหนดการยกเว้น ดูรูปแบบคำสั่งของชุดกฎ

รูปแบบคำสั่งของชุดกฎ

สำหรับชุดกฎแต่ละชุด ให้ทำตามโครงสร้างนี้:

{
  "operator" : <BOOLEAN_OPERATOR>,
  "rules" : <JSON_RULE>,
}

ช่องที่ใช้งานได้

ชื่อ คำอธิบาย

operator

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

and หรือ or

rules

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

สตริง JSON ของกฎ (อาร์เรย์ของกฎ) ดูรูปแบบคำสั่งของกฎการรวมและกฎการยกเว้น

รูปแบบคำสั่งของกฎการรวมและกฎการยกเว้น

สำหรับกฎการรวมหรือกฎการยกเว้น ให้ทำตามโครงสร้างนี้:

{
  "event_sources" : <EVENT_SOURCE_DEFINITION>, 
  "retention_seconds" : <SECONDS>,
  "filter" : <FILTER>,
  "aggregation" : <AGGREGATION>, 
}

aggregation และ retention_seconds เป็นช่องที่สามารถแก้ไขได้ แต่การแก้ไข aggregation และ retention_seconds จะไม่เป็นการล้างกลุ่มเป้าหมาย โดยจะมีเพียงผู้ใช้ที่ตรงกับกฎ/การรวมแบบเก่าเท่านั้นที่จะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายต่อไปจนกว่าผู้ใช้ดังกล่าวหมดอายุ

ช่องที่ใช้งานได้

ชื่อ คำอธิบาย

event_sources

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

อ็อบเจ็กต์ JSON ที่มี id และ type


คุณสามารถเพิ่มแหล่งที่มาของเหตุการณ์เพิ่มเติมไปยัง type ได้โดยใช้รายการ "store_visits,pixel,app" ที่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค

retention_seconds

ประเภท: จำนวนเต็ม

จำเป็นต้องระบุ

จำนวนเต็ม (เป็นวินาที) สำหรับระยะเวลาอัตราการใช้งานต่อเนื่องของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งควรมีจำนวนน้อยกว่า retention_days ขั้นต่ำ=1 สูงสุด=365 วัน

filter

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

สตริง JSON ของกฎตัวกรอง ดูตัวกรอง

aggregation

ประเภท: จำนวนเต็ม

ระบุหรือไม่ก็ได้

สตริง JSON ของฟังก์ชั่นการรวม ดูฟังก์ชั่นการรวม

ตัวกรอง

การกรองจะเป็นไปตามรูปแบบทั่วไปดังนี้:

"filter" : {
  "operator": <BOOLEAN_OPERATOR>,
  "filters": <FILTER_SET>,
  }

ช่องที่ใช้งานได้

ชื่อ คำอธิบาย

operator

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

and หรือ or

filters

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

อาร์เรย์อ็อบเจ็กต์ JSON ของกฎตัวกรอง ดูกรองรูปแบบคำสั่งของกฎตัวกรอง

รูปแบบคำสั่งของชุดตัวกรอง

{
    "field": <FIELD>,
    "operator": <COMPARISON_OPERATOR>,
    "value": <VALUE>,
}

ช่องที่ใช้งานได้

ชื่อ คำอธิบาย

field

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ


operator

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

  • =
  • !=
  • >=
  • >
  • <=
  • <
  • i_contains
  • i_not_contains
  • contains
  • not_contains
  • is_any
  • is_not_any
  • i_is_any
  • i_is_not_any
  • i_starts_with
  • starts_with
  • "regex_match"[INFO]

หากตั้งค่า field เป็น event คุณจะต้องใช้ =

value

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

หากแอตทริบิวต์ field ได้รับการตั้งค่าเป็น "event" คุณจะต้องตั้งค่า value เป็นชื่อของเหตุการณ์ ให้ใช้ API เหตุการณ์ในแอพเพื่อดูเหตุการณ์ในแอพและพารามิเตอร์ที่แอพรายงาน

ฟังก์ชั่นการรวม

สร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองตามความถี่และความเข้มข้นของพฤติกรรมโดยใช้ aggregation ในช่องกฎของกลุ่มเป้าหมาย ให้คุณกำหนดฟังก์ชั่นการรวมด้วยวิธีนี้ ดังตัวอย่างด้านล่าง:

"aggregation" : {
  "type":"count",
  "operator":">",
  "value":1
}

ช่องที่ใช้งานได้

ชื่อ คำอธิบาย

type

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

ประเภทของฟังก์ชั่นการรวม

  • สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนเว็บไซต์ คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่น 'count', 'sum', 'avg', 'min', 'max', 'time_spent' และ 'last_event_time_field'
  • สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนแอพมือถือ คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่น "count","sum", "avg", "min" และ "max" ได้

config

จำเป็นต้องระบุสำหรับฟังก์ชั่นการรวมบางประเภท

method

ประเภท: สตริง

ระบุหรือไม่ก็ได้

"absolute" ซึ่งหมายถึงการเพิ่มผู้ใช้ที่ลงบันทึกเหตุการณ์ในช่วงที่ระบุ หรือ "percentile" ซึ่งหมายถึงการเพิ่มผู้ใช้จากช่วงร้อยละที่ระบุ หากคุณเลือก percentile ตัวดำเนินการควรจะเป็น in_range และ not_in_range เท่านั้น

field

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ ยกเว้นเมื่อประเภทเป็น count

พารามิเตอร์ที่มีการใช้ฟังก์ชั่นการรวม

operator

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

=, !=, >=, >, <=, <, in_range, not_in_range

value

ประเภท: สตริง

จำเป็นต้องระบุ

ค่าที่คาดการณ์ของพารามิเตอร์

ตัวอย่างเช่น:

"aggregation" : {
  "type":"count",
  "operator":">",
  "value":1
}

ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ

ตัวดำเนินการ คำอธิบาย

> หรือ gt

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์มากกว่าค่าที่ระบุ

>= หรือ gte

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์มากกว่าหรือเท่ากับค่าที่ระบุ

< หรือ lt

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์น้อยกว่าค่าที่ระบุ

<= หรือ lte

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์น้อยกว่าหรือเท่ากับค่าที่ระบุ

= หรือ eq

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์เท่ากับค่าที่ระบุ หมายเหตุ: ตัวดำเนินการนี้มีค่าเทียบเท่ากับการไม่ระบุตัวดำเนินการเลย กล่าวคือ "'x' : { 'eq' : 'y' }" เทียบเท่ากับ "'x' : 'y' }

!= หรือ neq

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ไม่เท่ากับค่าที่ระบุ

contains

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ซึ่งเป็นสตริงนั้นมีสตริงที่ระบุ เช่น ค่า "shoe12345" จะตรงตามเงื่อนไข "contains" หากค่าที่ระบุคือ "shoe"

not_contains

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ซึ่งเป็นสตริงนั้นไม่มีสตริงที่ระบุ เช่น ค่า "shoe12345" จะตรงตามเงื่อนไข "not_contains" หากค่าที่ระบุคือ "purse"

i_contains

มี โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

i_not_contains

ไม่มี โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

is_any

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ตรงกับสตริงใดสตริงหนึ่งในอาร์เรย์ที่ระบุ

is_not_any

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ไม่ตรงกับสตริงในอาร์เรย์ที่ระบุเลย

i_is_any

"is_any" โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

i_is_not_any

"is_not_any" โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

starts_with

จะเป็น "true" หากค่าพารามิเตอร์ของเหตุการณ์ขึ้นต้นด้วยสตริงที่ระบุ

i_starts_with

"starts_with" โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

regex_match

จับคู่รูปแบบการค้นหา เช่น \"example\.com.*purchase$\" รองรับไวยากรณ์ PCRE อย่างเต็มรูปแบบ

ตัวอย่าง

กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนเว็บไซต์

จับคู่ URL อ้างอิงทั้งหมดที่มีสตริง "shoes" ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา

{
    "inclusions": {
        "operator": "or",
        "rules": [
            {
                "event_sources": [
                    {
                        "type": "pixel",
                        "id": "<PIXEL_ID>",
                    }
                ],
                "retention_seconds": 2592000,
                "filter": {
                    "operator": "and",
                    "filters": [
                        {
                            "field": "url",
                            "operator": "i_contains",
                            "value": "shoes"
                        }
                    ]
                },
            }
        ]
    }
}

จับคู่เหตุการณ์ ViewContent ที่สินค้ามีราคามากกว่าหรือเท่ากับ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ให้พิจารณาเลือกใช้กฎนี้กับเหตุการณ์ต่อไปนี้:

_fbq.push([ 'track', 'ViewContent', { productId: 1234, category: 'Men > Shoes', price: 199 } ]);
{
    "inclusions": {
        "operator": "or",
        "rules": [
            {
                "event_sources": [
                    {
                        "type": "pixel",
                        "id": "<PIXEL_ID>"
                    }
                ],
                "retention_seconds": 2592000,
                "filter": {
                    "operator": "and",
                    "filters": [
                        {
                            "field": "event",
                            "operator": "eq",
                            "value": "ViewContent"
                        },
                        {
                            "operator": "or",
                            "filters": [
                                {
                                    "field": "price",
                                    "operator": ">=",
                                    "value": "100"
                                }
                            ]
                        }
                    ]
                }
            }
        ]
    }
}

กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนแอพมือถือ

ดูกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองบนแอพมือถือ, ตัวอย่างกฎของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง

ตัวดำเนินการและข้อมูลหรือเหตุการณ์

กฎต่างๆ จะมีตัวดำเนินการและข้อมูลหรือเหตุการณ์ดังต่อไปนี้

ตัวดำเนินการ ประเภทของตัวกรอง

i_contains

มีสตริงย่อย โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

i_not_contains

ไม่มีสตริงย่อย โดยไม่บังคับใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

contains

มีสตริงย่อย โดยจะต้องตรงตามตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

not_contains

ไม่มีสตริงย่อย โดยจะต้องตรงตามตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

eq

เท่ากับ โดยจะต้องตรงตามตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

neq

ไม่เท่ากับ โดยจะต้องตรงตามตัวอักษรพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่

lt

น้อยกว่า เฉพาะช่องตัวเลขเท่านั้น

lte

น้อยกว่าหรือเท่ากับ เฉพาะช่องตัวเลขเท่านั้น

gt

มากกว่า เฉพาะช่องตัวเลขเท่านั้น

gte

มากกว่าหรือเท่ากับ เฉพาะช่องตัวเลขเท่านั้น

regex_match

จับคู่รูปแบบการค้นหา เช่น \"example\\.com.*purchase$\". รองรับไวยากรณ์ PCRE อย่างเต็มรูปแบบ

ข้อมูล ข้อมูลที่ถูกกรอง

url

URL แบบ Escaped อย่างสมบูรณ์แบบของเว็บไซต์ที่เข้าชม

domain

โดเมนของเว็บไซต์ที่เข้าชม

path

พาธของเว็บไซต์ที่เข้าชมโดยไม่รวมโดเมน

event

ชื่อของพิกเซล event เช่น 'ViewContent'

device_type

อุปกรณ์ที่เข้าเว็บไซต์:

desktop

mobile_android_phone

mobile_android_tablet

mobile_ipad

mobile_ipod

mobile_iphone

mobile_tablet

mobile_windows_phone

ช่อง customData ทั้งหมด

ช่องทั้งหมดที่เพิ่มไปยัง customData เพื่อให้พิกเซลทำงาน เช่น productId, category, price

ระบุกฎแต่ละข้อในรูปแบบสตริงที่เข้ารหัส JSON