การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเป็นโซลูชั่นในการยืนยันตัวตนและการอนุญาตที่แนะนำสำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและผู้พัฒนาแอพทางธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงสินทรัพย์ของลูกค้าธุรกิจ โดยเป็นโซลูชั่นที่ใช้แทนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ หากคุณไม่ใช่ผู้ให้บริการเทคโนโลยี หรือคุณไม่ได้สร้างแอพทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจอื่นๆ ใช้งาน ให้ใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook เป็นโซลูชั่นในการยืนยันตัวตนของคุณแทน
เมื่อเทียบกับการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะช่วยให้คุณสามารถระบุประเภทโทเค็นการเข้าถึง ประเภทองค์ประกอบ และสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณจำเป็นต้องใช้ และบันทึกไว้เป็นชุด (การกำหนดค่า) ได้ จากนั้นคุณสามารถนำเสนอชุดดังกล่าวให้แก่ลูกค้าธุรกิจของคุณที่สามารถดำเนินขั้นตอนนี้ได้ และมอบสิทธิ์การเข้าถึงองค์ประกอบธุรกิจของลูกค้าให้แก่แอพของคุณ โซลูชั่นนี้จะทำให้ธุรกิจไม่สามารถมอบสิทธิ์การอนุญาตสำหรับข้อมูลบางหมวดหมู่ที่มักไม่จำเป็นสำหรับแอพทางธุรกิจให้กับคุณได้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเลือกโทเค็นการเข้าถึงแบบต่างๆ ตามที่แอพของคุณต้องการได้
แอพส่วนใหญ่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากแอพจำเป็นต้องใช้สิทธิ์การอนุญาต/ฟีเจอร์ทางธุรกิจเท่านั้น คุณอาจมีสิทธิ์ติดตั้งการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นที่แอพต้องได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
คุณสามารถขอสิทธิ์การอนุญาตต่อไปนี้จากลูกค้าธุรกิจของคุณได้ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจกำหนดให้ลูกค้าธุรกิจของคุณต้องให้สิทธิ์การอนุญาตทั้งหมดที่คุณระบุในการกำหนดค่าของคุณ ซึ่งต่างจากการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook
ระบบจะให้สิทธิ์การอนุญาต email
และ public_profile
กับทุกแอพโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องใช้ร่วมกับสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์สำหรับการติดตั้งแต่ละแอพ
ระบบจะให้สิทธิ์การอนุญาต public_profile
กับทุกแอพโดยอัตโนมัติ แต่จะไม่ส่งคืนในพารามิเตอร์ scope
เว้นแต่ผู้ใช้แอพจะให้สิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์ ยกเว้น email
สิทธิ์การอนุญาตที่ใช้งานได้ | โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ | โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ |
---|---|---|
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
commerce_account_manage_orders | ✓ | ✓ |
commerce_account_read_orders | ✓ | ✓ |
commerce_account_read_reports | ✓ | ✓ |
commerce_account_read_settings | ✓ | ✓ |
commerce_manage_accounts | ✓ | ✓ |
email * | ✓ | ไม่มีข้อมูล |
✓ | ✓ | |
instagram_content_publish | ✓ | ✓ |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
instagram_shopping_tag_products | ✓ | ✓ |
✓ | ✓ | |
manage_fundraisers | ✓ | ✓ |
✓ | ✓ | |
page_events | ✓ | ✓ |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
private_computation_access | ✓ | ✓ |
✓ | ไม่มีข้อมูล | |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ | |
read_audience_network_insights | ✓ | ✓ |
✓ | ✓ | |
✓ | ✓ |
คุณสามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเพื่อรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ได้ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าโทเค็นการเข้าถึงในปัจจุบันของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบเมื่อเปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะสร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ในการผสานรวมธุรกิจขึ้นมา และคุณควรใช้โทเค็นนี้หากแอพของคุณดำเนินการแบบตั้งโปรแกรมอัตโนมัติบนอ็อบเจ็กต์โฆษณาหรือเพจของลูกค้าธุรกิจของคุณโดยไม่ต้องพึ่งพาการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้แอพ หรือจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนใหม่ในอนาคต ตัวอย่างเช่น:
หากต้องการให้สามารถรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ในการผสานรวมธุรกิจจากลูกค้าธุรกิจของคุณได้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้
หากต้องการทดสอบขั้นตอนของโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ ผู้ทดสอบจะต้องมีบทบาทในแอพ
ผู้ใช้ระบบทั่วไป | ผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ | |
---|---|---|
การเป็นตัวแทน | แสดงถึงเซิร์ฟเวอร์หรือซอฟต์แวร์ที่เรียกใช้ API ไปยังองค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นของตัวจัดการธุรกิจหรือจัดการโดยตัวจัดการธุรกิจ | เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานของการผสานการทำงานผู้ให้บริการเทคโนโลยี โดยธุรกิจของลูกค้าเป็นผู้เริ่มกระบวนการผ่านการติดตั้งแอพของผู้ให้บริการเทคโนโลยี |
สิทธิ์การเข้าถึง | มีเพียงผู้ใช้ของธุรกิจที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ | มีเพียงผู้ให้บริการเทคโนโลยีเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้ |
การยกเลิกโทเค็น | ไม่สามารถใช้งานได้ | คุณไม่สามารถยกเลิกโทเค็นการเข้าถึงผ่านแท็บ "ผู้ใช้ระบบ" ในตัวจัดการธุรกิจ แต่ลูกค้าธุรกิจต้องไปที่ตัวจัดการธุรกิจ > การตั้งค่าธุรกิจ > การผสานการทำงาน > แท็บ "แอพที่เชื่อมต่อ" แล้วคลิกปุ่ม "ลบแอพออก" เพื่อถอนการติดตั้งแอพ ซึ่งจะเป็นการยกเลิกโทเค็น |
ในกรณีของผู้ให้บริการเทคโนโลยีบางราย (มักเป็นองค์กรขนาดใหญ่) ที่อาจต้องการการตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงแตกต่างกันไปสำหรับวัตถุประสงค์หรือแผนกต่างๆ แทนที่จะใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ 1 รายการต่อธุรกิจลูกค้า 1 ธุรกิจนั้น ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบละเอียดหลายรายการต่อธุรกิจลูกค้า 1 ธุรกิจได้เพื่อให้การดำเนินงานสามารถขยายการรองรับ/มีความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น
ตำแหน่งข้อมูลนี้ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถจัดการโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบของตนได้ดังนี้
อ็อบเจ็กต์ | คำอธิบาย |
---|---|
int | จำเป็นต้องระบุ เมื่อผู้ใช้ปลายทางติดตั้งแอพผ่านขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ ซึ่งจะสร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบขึ้นมาในท้ายที่สุด โทเค็นดังกล่าวจะครอบคลุมเฉพาะธุรกิจที่ลูกค้าเลือกไว้ โดย |
สตริง | จำเป็นต้องระบุ เนื่องจากนี่คือ API การจัดการโทเค็น เราจึงกำหนดให้ต้องใช้ |
สตริง | จำเป็นต้องระบุ
|
int | ระบุหรือไม่ก็ได้
|
บูลีน | ระบุหรือไม่ก็ได้
|
int | ระบุหรือไม่ก็ได้ เมื่อต้องการสร้างโทเค็นแบบละเอียดยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดรายการ ID ของ |
บูลีน | ระบุหรือไม่ก็ได้ เมื่อต้องการสร้างโทเค็นแบบละเอียดยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดรายการ ID ของ |
บูลีน | ระบุหรือไม่ก็ได้ เมื่อต้องการสร้างโทเค็นใหม่ คุณสามารถกำหนดให้โทเค็นหมดอายุในอีก 60 วันได้ |
curl -i -X POST \ 'https://graph.intern.facebook.com/v17.0/2738613836382965/system_user_access_tokens?appsecret_proof=<app_secret_proof_sanitized>& access_token=<access token sanitized>& system_user_id={system_user_id}& fetch_only=true'
{ "access_token": "{access_token}" }
คุณควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากแอพดำเนินการแบบเรียลไทม์ตามข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากแอพของคุณกำหนดให้ผู้ใช้ต้องป้อนข้อความแล้วคลิกปุ่มเพื่อโพสต์เนื้อหาไปยังเพจของตน นอกจากนี้ คุณยังควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากคุณจำเป็นต้องมี API ที่ต้องใช้สิทธิ์การอนุญาตระดับผู้ดูแลบนบัญชี Meta Business
โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ | โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ | |
---|---|---|
การเชื่อมโยงบัญชี | เชื่อมโยงกับบัญชีธุรกิจของลูกค้าธุรกิจของคุณแทนการเชื่อมโยงกับผู้ใช้ที่เจาะจง ผู้ดูแลทุกคนในกลุ่มผู้ดูแลของลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถให้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบแก่แอพของคุณได้ | เชื่อมโยงกับบัญชีส่วนตัวของผู้ใช้แอพของคุณ |
การให้สิทธิ์ประเภท OAuth | Authorization Code (รหัสการให้อนุญาต) เท่านั้น | Implicit (โดยนัย) โดยค่าเริ่มต้น ใช้สำหรับลูกค้าที่ใช้ User-Agent เป็นหลัก เช่น เว็บเบราว์เซอร์และแอพมือถือ |
การหมดอายุและการรีเฟรช | ค่าเริ่มต้นสำหรับการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์แบบออฟไลน์ทั่วไปคือ ไม่มีวันหมดอายุ | โทเค็นแบบใช้งานระยะสั้นสำหรับกิจกรรมออนไลน์ เช่น เว็บเบราว์เซอร์ |
การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง | สิทธิ์การเข้าถึงจะได้รับการมอบหมายอย่างชัดเจนในขณะที่มีการอนุญาต แอพของคุณจะสามารถเข้าถึงองค์ประกอบที่กำหนดโดยลูกค้าธุรกิจของคุณได้ เมื่อลูกค้าดังกล่าวดำเนินการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเรียบร้อยแล้วเท่านั้น | สิทธิ์การเข้าถึงสืบทอดมาจากสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีปัจจุบันของผู้ใช้แอพของคุณ โดยคุณสามารถเข้าถึงองค์ประกอบธุรกิจเดียวกันกับที่ผู้ใช้แอพเข้าถึงได้ในปัจจุบัน |
ลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถยกเลิกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจได้โดยไปที่ตัวจัดการธุรกิจ > การตั้งค่า > การตั้งค่าธุรกิจ > การผสานการทำงาน > แอพที่เชื่อมต่อ แล้วลบแอพของคุณออก
สำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ ลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถลบแอพออกได้โดยไปที่ Facebook แล้วไปที่การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า > การรักษาความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบ > การผสานรวมธุรกิจ แล้วลบแอพของคุณออก
ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบผ่านโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ | ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบผ่านโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ในการผสานรวมธุรกิจ |
---|---|
หากต้องการทดสอบการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณจำเป็นต้องสร้างแอพในการทดสอบประเภทธุรกิจขึ้นมา ซึ่งระบบจะติดตั้งการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจให้โดยอัตโนมัติ
การกำหนดค่าคือการจัดกลุ่มประเภทโทเค็น องค์ประกอบธุรกิจ และสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณต้องใช้จากลูกค้าธุรกิจ การจัดกลุ่มนี้จะแสดงต่อผู้ใช้โดยเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการยืนยันตัวตนและการอนุญาตเมื่อผู้ใช้ติดตั้งแอพของคุณ คุณสามารถสร้างการกำหนดค่าหลายรายการและแสดงต่อผู้ใช้กลุ่มต่างๆ ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแอพของคุณ โดยคุณจะต้องดำเนินการดังนี้เพื่อสร้างการกำหนดค่า
การสร้างการกำหนดค่าจะสร้าง ID การกำหนดค่าขึ้นมา ซึ่งคุณสามารถใช้กับ SDK ของเรา (หรือด้วยตนเอง) ได้
มีเพียงผู้ให้บริการโซลูชั่นทางธุรกิจ (BSP) เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงการสมัครใช้งาน WhatsApp แบบฝังได้
whatsapp_business_management
และ whatsapp_business_messaging
ขั้นตอนนี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับการใช้งาน API กราฟของ Instagram เท่านั้น
คุณสามารถเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจได้โดยใช้ SDK ของเรา หรือจะเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบโดยสร้างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยตนเองก็ได้
คุณสามารถใช้ SDK ใดก็ได้ของเราเพื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบโดยแทนที่รายการขอบเขต (สิทธิ์การอนุญาต) ที่แอพของคุณต้องการด้วย ID การกำหนดค่าและการให้สิทธิ์ประเภท OAuth ที่จำเป็นของโทเค็นการเข้าถึง
หากคุณไม่คุ้นเคยกับ SDK ของเรา เราขอแนะนำให้คุณติดตั้ง JavaScript SDK ก่อน แล้วทำให้ใช้งานได้กับผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ของผู้บริโภคก่อนที่จะดำเนินการต่อ เนื่องจากตัวอย่างต่อไปนี้อ้างอิงถึง SDK
ต่อไปนี้คือตัวอย่างเมธอด FB.login()
ของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ โปรดทราบว่า config_id
ได้แทนที่ scope
(ซึ่งไม่ควรใช้) และ รหัสresponse_type
ได้รับการตั้งค่าเป็น code
เนื่องจาก SUAT จำเป็นต้องมีการให้สิทธิ์ประเภทโค้ด และต้องตั้งค่า override_default_response_type
เป็น true
เมื่อตั้งค่าเป็น true การตอบกลับทุกประเภทที่ส่งผ่านใน response_type
จะมีความสำคัญมากกว่าประเภทเริ่มต้น
FB.login( function(response) [ console.log(response); ], [ config_id: '<CONFIG_ID>', response_type: 'code', override_default_response_type: true ] );
เมื่อผู้ใช้ทำตามขั้นตอนของกล่องการเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว เราจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยัง URL การเปลี่ยนเส้นทางของคุณและระบุรหัสไว้ จากนั้นคุณต้องแลกเปลี่ยนรหัสนี้เป็นโทเค็นการเข้าถึงโดยทำการเรียกระหว่างเซิร์ฟเวอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเรา
GET https://graph.facebook.com/v19.0
/oauth/access_token?
client_id=<APP_ID>
&client_secret=<APP_SECRET>
&code=<CODE>
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนนี้ที่การแลกเปลี่ยนโค้ดเป็นโทเค็นการเข้าถึง
ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีการ FB.login()
ของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ โปรดทราบว่า config_id
ได้แทนที่ scope
(แม้ว่าจะยังใส่ scope
ได้อยู่ แต่ขอแนะนำไม่ให้ใช้)
FB.login( function(response) { console.log(response); }, { config_id: '<CONFIG_ID>' // configuration ID goes here } );
ต่อไปนี้คือตัวอย่างปุ่มการเข้าสู่ระบบของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้
<fb:login-button config_id="<CONFIG_ID>" onlogin="checkLoginState();"></fb:login-button>
โปรดดูขั้นตอนการสร้างการเข้าสู่ระบบด้วยตนเองเพื่อเรียนรู้วิธีเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบด้วยตนเอง เมื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบและตั้งค่า URL การเปลี่ยนเส้นทาง ให้ใส่ ID การกำหนดค่าของคุณเป็นพารามิเตอร์แบบระบุหรือไม่ก็ได้ (แม้ว่าจะยังใส่ขอบเขตได้อยู่ แต่ขอแนะนำไม่ให้ใช้)
config_id=<CONFIG_ID>
ขอแนะนำให้คุณดำเนินการทดสอบและเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจมีให้บริการสำหรับแอพประเภทธุรกิจที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ทุกแอพ แอพประเภทธุรกิจและแอพประเภท "ไม่มี" ที่มีอยู่เดิมและมีสิทธิ์ได้เปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจโดยอัตโนมัติแล้ว หรือไม่ก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้
หากแอพของคุณมีสิทธิ์เปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณจะมองเห็นแบนเนอร์การเลือกใช้เมื่อทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
หากต้องการเปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณต้องคลิกที่ปุ่ม "เลือกใช้" ในแบนเนอร์ แอพทดสอบที่เชื่อมโยงกับแอพนี้จะเลือกใช้โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน
หลังจากเปลี่ยนแล้ว ประเภทแอพของคุณจะอยู่ในส่วนประเภทธุรกิจ หากแอพของคุณไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ละแอพจะสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ภายใน 30 วันนับจากที่เปลี่ยนและจะสามารถเปลี่ยนกลับได้สูงสุด 3 ครั้งเท่านั้น โปรดทราบว่าหากระบบเปิดใช้งานกล่องการเข้าสู่ระบบของการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจผ่าน ID การกำหนดค่า และหากคุณตัดสินใจเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook กล่องการเข้าสู่ระบบก็อาจโหลดไม่สำเร็จ เนื่องจากการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ไม่รองรับพารามิเตอร์ "config_id" และคุณต้องแทนที่พารามิเตอร์ "config_id" ด้วยพารามิเตอร์ "scope" แทน
ตัวติดตั้งแอพอาจพบข้อความแสดงข้อผิดพลาดเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้
การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการทำงานซึ่งอาจเกิดขึ้นได้:
หากแอพของคุณไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้หลังเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณสามารถถอนการติดตั้งได้โดยเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook โดยไปที่แดชบอร์ดของแอพ > การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ > การตั้งค่า และคลิกที่ลิงก์เปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ระบบจะให้คุณทำแบบสำรวจซึ่งจะช่วยเราปรับปรุงประสบการณ์ในการกำหนดค่าการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ แต่ละแอพสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ภายใน 30 วันนับจากที่เปลี่ยนและจะสามารถเปลี่ยนกลับได้สูงสุด 3 ครั้งเท่านั้น
การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจสามารถรองรับสิทธิ์การอนุญาตและฟีเจอร์ได้บางรายการเท่านั้น แอพจะไม่มีสิทธิ์ใช้งานหากขอสิทธิ์การอนุญาตหรือฟีเจอร์ที่การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจไม่รองรับ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าคุณจะต้องขอสิทธิ์การอนุญาต email
และ public_profile
ร่วมกับสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์
หากแอพของคุณไม่มีสิทธิ์เลือกใช้งาน คุณสามารถสร้างแอพประเภทธุรกิจขึ้นใหม่ ซึ่งจะสามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นขอสิทธิ์การอนุญาตทางธุรกิจที่รองรับผ่านการตรวจสอบแอพ
คุณเพียงแค่ต้องขอสิทธิ์การอนุญาตขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับฟังก์ชั่นการทำงานของแอพเท่านั้น ซึ่งคุณจะต้องเปิดเผยให้ผู้ใช้ทราบถึงเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องใช้สิทธิ์การอนุญาตและฟีเจอร์แต่ละรายการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ โปรดทราบว่าคุณจะต้องขอสิทธิ์การอนุญาต email
และ public_profile
ร่วมกับสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์เพื่อใช้ในการติดตั้งแต่ละแอพ คุณสามารถสร้างการกำหนดค่าเพื่อดูสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับและรวมคำขอสิทธิ์การอนุญาตของคุณเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการเริ่มต้นใช้งานแบบกำหนดเองเพิ่มเติมได้