การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเป็นโซลูชั่นในการยืนยันตัวตนและการอนุญาตที่แนะนำสำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีและผู้พัฒนาแอพทางธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงสินทรัพย์ของลูกค้าธุรกิจ โดยเป็นโซลูชั่นที่ใช้แทนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ หากคุณไม่ใช่ผู้ให้บริการเทคโนโลยี หรือคุณไม่ได้สร้างแอพทางธุรกิจเพื่อให้ธุรกิจอื่นๆ ใช้งาน ให้ใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook เป็นโซลูชั่นในการยืนยันตัวตนของคุณแทน

ประโยชน์

เมื่อเทียบกับการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะช่วยให้คุณสามารถระบุประเภทโทเค็นการเข้าถึง ประเภทองค์ประกอบ และสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณจำเป็นต้องใช้ และบันทึกไว้เป็นชุด (การกำหนดค่า) ได้ จากนั้นคุณสามารถนำเสนอชุดดังกล่าวให้แก่ลูกค้าธุรกิจของคุณที่สามารถดำเนินขั้นตอนนี้ได้ และมอบสิทธิ์การเข้าถึงองค์ประกอบธุรกิจของลูกค้าให้แก่แอพของคุณ โซลูชั่นนี้จะทำให้ธุรกิจไม่สามารถมอบสิทธิ์การอนุญาตสำหรับข้อมูลบางหมวดหมู่ที่มักไม่จำเป็นสำหรับแอพทางธุรกิจให้กับคุณได้ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเลือกโทเค็นการเข้าถึงแบบต่างๆ ตามที่แอพของคุณต้องการได้

แอพส่วนใหญ่ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ต้องได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากแอพจำเป็นต้องใช้สิทธิ์การอนุญาต/ฟีเจอร์ทางธุรกิจเท่านั้น คุณอาจมีสิทธิ์ติดตั้งการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นที่แอพต้องได้รับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

สิทธิ์การอนุญาตที่รองรับ

คุณสามารถขอสิทธิ์การอนุญาตต่อไปนี้จากลูกค้าธุรกิจของคุณได้ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจกำหนดให้ลูกค้าธุรกิจของคุณต้องให้สิทธิ์การอนุญาตทั้งหมดที่คุณระบุในการกำหนดค่าของคุณ ซึ่งต่างจากการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook

ระบบจะให้สิทธิ์การอนุญาต email และ public_profile กับทุกแอพโดยอัตโนมัติ แต่จะต้องใช้ร่วมกับสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์สำหรับการติดตั้งแต่ละแอพ

ระบบจะให้สิทธิ์การอนุญาต public_profile กับทุกแอพโดยอัตโนมัติ แต่จะไม่ส่งคืนในพารามิเตอร์ scope เว้นแต่ผู้ใช้แอพจะให้สิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์ ยกเว้น email

สิทธิ์การอนุญาตที่ใช้งานได้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

ads_management

ads_read

business_management

catalog_management

commerce_account_manage_orders

commerce_account_read_orders

commerce_account_read_reports

commerce_account_read_settings

commerce_manage_accounts

email *

ไม่มีข้อมูล

instagram_basic

instagram_content_publish

instagram_manage_comments

instagram_manage_insights

instagram_manage_messages

instagram_shopping_tag_products

leads_retrieval

manage_fundraisers

pages_manage_cta

page_events

pages_manage_ads

pages_manage_engagement

pages_manage_instant_articles

pages_manage_metadata

pages_manage_posts

pages_messaging

pages_read_engagement

pages_read_user_content

pages_show_list

private_computation_access

public_profile *

ไม่มีข้อมูล

publish_video

read_insights

read_audience_network_insights

whatsapp_business_management

whatsapp_business_messaging

โทเค็นการเข้าถึงที่รองรับ

คุณสามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเพื่อรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ได้ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าโทเค็นการเข้าถึงในปัจจุบันของคุณจะไม่ได้รับผลกระทบเมื่อเปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะสร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ในการผสานรวมธุรกิจขึ้นมา และคุณควรใช้โทเค็นนี้หากแอพของคุณดำเนินการแบบตั้งโปรแกรมอัตโนมัติบนอ็อบเจ็กต์โฆษณาหรือเพจของลูกค้าธุรกิจของคุณโดยไม่ต้องพึ่งพาการป้อนข้อมูลจากผู้ใช้แอพ หรือจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนใหม่ในอนาคต ตัวอย่างเช่น:

  • การเรียกใช้ API คอนเวอร์ชั่นระหว่างเซิร์ฟเวอร์แบบอัตโนมัติรายชั่วโมง
  • การส่งข้อความตอบกลับอัตโนมัติในฐานะเพจ
  • อัพเดตอัตโนมัติไปยังคลังของแค็ตตาล็อกสินค้าอย่างต่อเนื่อง
  • การเรียกดูข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาแบบอัตโนมัติ

หากต้องการให้สามารถรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ในการผสานรวมธุรกิจจากลูกค้าธุรกิจของคุณได้ ต้องมีคุณสมบัติดังนี้

  • แอพของคุณไม่สามารถส่งคำขอการเข้าสู่ระบบจากแพลตฟอร์มบนมือถือ (ได้แก่ Android, iOS ฯลฯ) ได้
  • ลูกค้าธุรกิจที่ทำตามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจต้องมีหรือมีความต้องการที่จะสร้างบัญชี Meta Business
  • แอพของคุณต้องเชื่อมโยงกับบัญชี Meta Business ที่คุณมีสิทธิ์การควบคุมโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องเป็นคนละบัญชีกับบัญชี Meta Business ที่ลูกค้าธุรกิจของคุณเป็นเจ้าของ
  • ระบบจะสร้าง/อัพเดตและส่งโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจให้กับคุณเมื่อผู้ใช้ปลายทางติดตั้งแอพเสร็จสิ้นแล้ว

หากต้องการทดสอบขั้นตอนของโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ ผู้ทดสอบจะต้องมีบทบาทในแอพ

ผู้ใช้ระบบทั่วไปผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

การเป็นตัวแทน

แสดงถึงเซิร์ฟเวอร์หรือซอฟต์แวร์ที่เรียกใช้ API ไปยังองค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นของตัวจัดการธุรกิจหรือจัดการโดยตัวจัดการธุรกิจ

เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานของการผสานการทำงานผู้ให้บริการเทคโนโลยี โดยธุรกิจของลูกค้าเป็นผู้เริ่มกระบวนการผ่านการติดตั้งแอพของผู้ให้บริการเทคโนโลยี

สิทธิ์การเข้าถึง

มีเพียงผู้ใช้ของธุรกิจที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้

มีเพียงผู้ให้บริการเทคโนโลยีเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้

การยกเลิกโทเค็น

ไม่สามารถใช้งานได้

คุณไม่สามารถยกเลิกโทเค็นการเข้าถึงผ่านแท็บ "ผู้ใช้ระบบ" ในตัวจัดการธุรกิจ แต่ลูกค้าธุรกิจต้องไปที่ตัวจัดการธุรกิจ > การตั้งค่าธุรกิจ > การผสานการทำงาน > แท็บ "แอพที่เชื่อมต่อ" แล้วคลิกปุ่ม "ลบแอพออก" เพื่อถอนการติดตั้งแอพ ซึ่งจะเป็นการยกเลิกโทเค็น

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบละเอียด

ในกรณีของผู้ให้บริการเทคโนโลยีบางราย (มักเป็นองค์กรขนาดใหญ่) ที่อาจต้องการการตั้งค่าสิทธิ์การเข้าถึงแตกต่างกันไปสำหรับวัตถุประสงค์หรือแผนกต่างๆ แทนที่จะใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ 1 รายการต่อธุรกิจลูกค้า 1 ธุรกิจนั้น ผู้ให้บริการเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบละเอียดหลายรายการต่อธุรกิจลูกค้า 1 ธุรกิจได้เพื่อให้การดำเนินงานสามารถขยายการรองรับ/มีความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น

  • โทเค็นการเข้าถึงแบบละเอียดยังคงมีไว้สำหรับธุรกิจของธุรกิจลูกค้าหนึ่งๆ โดยเฉพาะ โดยไม่สามารถแชร์ให้กับธุรกิจลูกค้าอื่น และไม่สามารถให้ธุรกิจลูกค้าอื่นเข้าใช้ได้
  • รายการขอบเขตและองค์ประกอบของโทเค็นการเข้าถึงแบบละเอียดควรเป็นส่วนหนึ่งของโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจแบบเดิม
  • ในกรณีที่โทเค็นถูกบุกรุก จะมีเพียงธุรกิจลูกค้ารายดังกล่าวเท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อบัญชีธุรกิจทั้งหมดในทุกธุรกิจลูกค้า การทำงานเช่นนี้จะช่วยแยกปัญหาด้านการรักษาความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น และทำให้บัญชีธุรกิจและ/หรือธุรกิจลูกค้าไม่ได้ส่งผลถึงกัน

API การจัดการโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

ตำแหน่งข้อมูลนี้ช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถจัดการโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบของตนได้ดังนี้

  • สร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบแบบละเอียดยิ่งขึ้นจากโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจที่มีอยู่
  • ดึงข้อมูลโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจที่มีอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นแบบเดิมหรือแบบที่ละเอียดยิ่งขึ้น)
พารามิเตอร์:
อ็อบเจ็กต์คำอธิบาย

Client business id

int

จำเป็นต้องระบุ

เมื่อผู้ใช้ปลายทางติดตั้งแอพผ่านขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ ซึ่งจะสร้างโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบขึ้นมาในท้ายที่สุด โทเค็นดังกล่าวจะครอบคลุมเฉพาะธุรกิจที่ลูกค้าเลือกไว้ โดย Client business id คือ ID ของธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเหล่านี้

Appsecret_proof

สตริง

จำเป็นต้องระบุ

เนื่องจากนี่คือ API การจัดการโทเค็น เราจึงกำหนดให้ต้องใช้ Appsecret_proof ซึ่งก็คือแฮช sha256 ของโทเค็นการเข้าถึง เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเรียกใช้จากเซิร์ฟเวอร์มีความปลอดภัยมากขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

Access_token

สตริง

จำเป็นต้องระบุ

Access_token จำเป็นต้องมีสิทธิ์การอนุญาต manage_business

system_user_id

int

ระบุหรือไม่ก็ได้

system_user_id คือ ID ของผู้ใช้ระบบภายในโทเค็นการเข้าถึง

fetch_only

บูลีน

ระบุหรือไม่ก็ได้

fetch_only คือแฟล็กที่คุณต้องใช้เพื่อดึงข้อมูลโทเค็นที่มีอยู่และระบุว่าการดำเนินงานนี้เป็นแบบอ่านเท่านั้น

asset

int

ระบุหรือไม่ก็ได้

เมื่อต้องการสร้างโทเค็นแบบละเอียดยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดรายการ ID ของ asset โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคได้ รายการองค์ประกอบจะต้องเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบจากโทเค็นการเข้าถึงแบบเดิม

scope

บูลีน

ระบุหรือไม่ก็ได้

เมื่อต้องการสร้างโทเค็นแบบละเอียดยิ่งขึ้น คุณสามารถกำหนดรายการ ID ของ scope โดยคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคได้ รายการองค์ประกอบจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของขอบเขตจากโทเค็นการเข้าถึงแบบเดิม

set_token_expires_in_60_days

บูลีน

ระบุหรือไม่ก็ได้

เมื่อต้องการสร้างโทเค็นใหม่ คุณสามารถกำหนดให้โทเค็นหมดอายุในอีก 60 วันได้

ตัวอย่างคำขอ
curl -i -X POST \ 
  'https://graph.intern.facebook.com/v17.0/2738613836382965/system_user_access_tokens?appsecret_proof=<app_secret_proof_sanitized>&
access_token=<access token sanitized>&   
system_user_id={system_user_id}&
fetch_only=true'
ตัวอย่างการตอบกลับ
{
  "access_token": "{access_token}" 
}

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

คุณควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากแอพดำเนินการแบบเรียลไทม์ตามข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น ใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากแอพของคุณกำหนดให้ผู้ใช้ต้องป้อนข้อความแล้วคลิกปุ่มเพื่อโพสต์เนื้อหาไปยังเพจของตน นอกจากนี้ คุณยังควรใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หากคุณจำเป็นต้องมี API ที่ต้องใช้สิทธิ์การอนุญาตระดับผู้ดูแลบนบัญชี Meta Business

การเปรียบเทียบ

โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

การเชื่อมโยงบัญชี

เชื่อมโยงกับบัญชีธุรกิจของลูกค้าธุรกิจของคุณแทนการเชื่อมโยงกับผู้ใช้ที่เจาะจง ผู้ดูแลทุกคนในกลุ่มผู้ดูแลของลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถให้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบแก่แอพของคุณได้

เชื่อมโยงกับบัญชีส่วนตัวของผู้ใช้แอพของคุณ

การให้สิทธิ์ประเภท OAuth

Authorization Code (รหัสการให้อนุญาต) เท่านั้น

Implicit (โดยนัย) โดยค่าเริ่มต้น ใช้สำหรับลูกค้าที่ใช้ User-Agent เป็นหลัก เช่น เว็บเบราว์เซอร์และแอพมือถือ

การหมดอายุและการรีเฟรช

ค่าเริ่มต้นสำหรับการสื่อสารระหว่างเซิร์ฟเวอร์แบบออฟไลน์ทั่วไปคือ ไม่มีวันหมดอายุ

โทเค็นแบบใช้งานระยะสั้นสำหรับกิจกรรมออนไลน์ เช่น เว็บเบราว์เซอร์

การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึง

สิทธิ์การเข้าถึงจะได้รับการมอบหมายอย่างชัดเจนในขณะที่มีการอนุญาต แอพของคุณจะสามารถเข้าถึงองค์ประกอบที่กำหนดโดยลูกค้าธุรกิจของคุณได้ เมื่อลูกค้าดังกล่าวดำเนินการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจเรียบร้อยแล้วเท่านั้น

สิทธิ์การเข้าถึงสืบทอดมาจากสิทธิ์การเข้าถึงบัญชีปัจจุบันของผู้ใช้แอพของคุณ โดยคุณสามารถเข้าถึงองค์ประกอบธุรกิจเดียวกันกับที่ผู้ใช้แอพเข้าถึงได้ในปัจจุบัน

ลูกค้ายกเลิกโทเค็นการเข้าถึง

ลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถยกเลิกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจได้โดยไปที่ตัวจัดการธุรกิจ > การตั้งค่า > การตั้งค่าธุรกิจ > การผสานการทำงาน > แอพที่เชื่อมต่อ แล้วลบแอพของคุณออก

สำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ ลูกค้าธุรกิจของคุณสามารถลบแอพออกได้โดยไปที่ Facebook แล้วไปที่การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > การตั้งค่า > การรักษาความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบ > การผสานรวมธุรกิจ แล้วลบแอพของคุณออก

ประสบการณ์การใช้ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ/ตัวติดตั้งแอพ

ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบผ่านโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบผ่านโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ในการผสานรวมธุรกิจ
เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
เรากำลังประสบปัญหาในการเล่นวิดีโอนี้
เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
เรากำลังประสบปัญหาในการเล่นวิดีโอนี้

การเริ่มต้นใช้งาน

หากต้องการทดสอบการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณจำเป็นต้องสร้างแอพในการทดสอบประเภทธุรกิจขึ้นมา ซึ่งระบบจะติดตั้งการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจให้โดยอัตโนมัติ

สร้างการกำหนดค่า

การกำหนดค่าคือการจัดกลุ่มประเภทโทเค็น องค์ประกอบธุรกิจ และสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณต้องใช้จากลูกค้าธุรกิจ การจัดกลุ่มนี้จะแสดงต่อผู้ใช้โดยเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการยืนยันตัวตนและการอนุญาตเมื่อผู้ใช้ติดตั้งแอพของคุณ คุณสามารถสร้างการกำหนดค่าหลายรายการและแสดงต่อผู้ใช้กลุ่มต่างๆ ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของแอพของคุณ โดยคุณจะต้องดำเนินการดังนี้เพื่อสร้างการกำหนดค่า

  1. โหลดแอพของคุณในแดชบอร์ดของแอพ
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
  3. คลิก "การกำหนดค่า"
  4. คลิก + สร้างการกำหนดค่า
  5. ตั้งชื่อการกำหนดค่าของคุณ
  6. เลือกประเภทโทเค็นการเข้าถึงที่คุณต้องการขอจากลูกค้าธุรกิจของคุณ
  7. หากคุณเลือกโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ ให้เลือกองค์ประกอบที่แอพของคุณจำเป็นต้องเข้าถึง
  8. เลือกสิทธิ์การอนุญาตที่แอพของคุณจำเป็นต้องใช้
  9. คลิกที่สร้าง

การสร้างการกำหนดค่าจะสร้าง ID การกำหนดค่าขึ้นมา ซึ่งคุณสามารถใช้กับ SDK ของเรา (หรือด้วยตนเอง) ได้

การกำหนดค่าแดชบอร์ดของแอพสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ:

เกิดข้อผิดพลาดขึ้น
เรากำลังประสบปัญหาในการเล่นวิดีโอนี้

สร้างการกำหนดค่าการสมัครใช้งานแบบฝังของ WhatsApp

มีเพียงผู้ให้บริการโซลูชั่นทางธุรกิจ (BSP) เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงการสมัครใช้งาน WhatsApp แบบฝังได้

  1. โหลดแอพของคุณในแดชบอร์ดของแอพ
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
  3. คลิก "การกำหนดค่า"
  4. คลิก + สร้างการกำหนดค่า
  5. ตั้งชื่อการกำหนดค่าของคุณ
  6. เลือก "การสมัครใช้งาน WhatsApp แบบฝัง" ซึ่งจะทำให้แอพของคุณเริ่มต้นใช้งานการสมัครใช้งาน WhatsApp แบบฝัง สำหรับการสมัครใช้งาน WhatsApp แบบฝัง จะมีเพียงโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้
  7. เลือกวันหมดอายุของโทเค็น เราแนะนำให้เลือก 60 วัน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่โทเค็นจะเกิดการรั่วไหล และช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบของคุณ
  8. เลือกองค์ประกอบที่แอพของคุณจำเป็นต้องเข้าถึง คุณจะสามารถดำเนินขั้นตอนนี้ได้ก็ต่อเมื่อคุณเลือก "โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ" ในขั้นตอนก่อนหน้านี้เท่านั้น และจะไม่สามารถยกเลิกการเลือกบัญชี WhatsApp ได้
  9. เลือกสิทธิ์การอนุญาตต่อไปนี้สำหรับแอพของคุณ: whatsapp_business_management และ whatsapp_business_messaging
  10. คลิกที่สร้าง

สร้างการกำหนดค่า Instagram

ขั้นตอนนี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับการใช้งาน API กราฟของ Instagram เท่านั้น

  1. โหลดแอพของคุณในแดชบอร์ดของแอพ
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
  3. คลิก "การกำหนดค่า"
  4. คลิก + สร้างการกำหนดค่า
  5. ตั้งชื่อการกำหนดค่าของคุณ
  6. เลือก API กราฟของ Instagram ซึ่งจะช่วยให้แอพของคุณมีการเริ่มต้นใช้งานตาม [ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบสำหรับ Instagram โดยเฉพาะ] (https://developers.facebook.com/docs/instagram/business-login-for-instagram/) มีเพียงโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถใช้งานได้
  7. เลือกสิทธิ์การอนุญาตต่อไปนี้สำหรับแอพของคุณ
  8. คลิกที่สร้าง

เรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบ

คุณสามารถเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจได้โดยใช้ SDK ของเรา หรือจะเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบโดยสร้างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยตนเองก็ได้

การเรียกใช้ด้วย SDK ของเรา

คุณสามารถใช้ SDK ใดก็ได้ของเราเพื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบโดยแทนที่รายการขอบเขต (สิทธิ์การอนุญาต) ที่แอพของคุณต้องการด้วย ID การกำหนดค่าและการให้สิทธิ์ประเภท OAuth ที่จำเป็นของโทเค็นการเข้าถึง

หากคุณไม่คุ้นเคยกับ SDK ของเรา เราขอแนะนำให้คุณติดตั้ง JavaScript SDK ก่อน แล้วทำให้ใช้งานได้กับผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ของผู้บริโภคก่อนที่จะดำเนินการต่อ เนื่องจากตัวอย่างต่อไปนี้อ้างอิงถึง SDK

การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบในการผสานรวมธุรกิจ

ต่อไปนี้คือตัวอย่างเมธอด FB.login() ของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ โปรดทราบว่า config_id ได้แทนที่ scope (ซึ่งไม่ควรใช้) และ รหัสresponse_typeได้รับการตั้งค่าเป็น code เนื่องจาก SUAT จำเป็นต้องมีการให้สิทธิ์ประเภทโค้ด และต้องตั้งค่า override_default_response_type เป็น true เมื่อตั้งค่าเป็น true การตอบกลับทุกประเภทที่ส่งผ่านใน response_type จะมีความสำคัญมากกว่าประเภทเริ่มต้น

FB.login(
  function(response) [
    console.log(response);
  ],
  [
    config_id: '<CONFIG_ID>',
    response_type: 'code',
    override_default_response_type: true
  ]
);

เมื่อผู้ใช้ทำตามขั้นตอนของกล่องการเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว เราจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยัง URL การเปลี่ยนเส้นทางของคุณและระบุรหัสไว้ จากนั้นคุณต้องแลกเปลี่ยนรหัสนี้เป็นโทเค็นการเข้าถึงโดยทำการเรียกระหว่างเซิร์ฟเวอร์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเรา

GET https://graph.facebook.com/v19.0/oauth/access_token?
  client_id=<APP_ID>
  &client_secret=<APP_SECRET>
  &code=<CODE>

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนนี้ที่การแลกเปลี่ยนโค้ดเป็นโทเค็นการเข้าถึง

การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

ต่อไปนี้คือตัวอย่างวิธีการ FB.login() ของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าสำหรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ โปรดทราบว่า config_id ได้แทนที่ scope (แม้ว่าจะยังใส่ scope ได้อยู่ แต่ขอแนะนำไม่ให้ใช้)

FB.login(
  function(response) {
    console.log(response);
  },
  {
    config_id: '<CONFIG_ID>' // configuration ID goes here
  }
);

ต่อไปนี้คือตัวอย่างปุ่มการเข้าสู่ระบบของ JavaScript SDK ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อใช้การกำหนดค่าโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

<fb:login-button config_id="<CONFIG_ID>" onlogin="checkLoginState();"></fb:login-button>

การเรียกใช้ด้วยตนเอง

โปรดดูขั้นตอนการสร้างการเข้าสู่ระบบด้วยตนเองเพื่อเรียนรู้วิธีเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบด้วยตนเอง เมื่อเรียกใช้กล่องการเข้าสู่ระบบและตั้งค่า URL การเปลี่ยนเส้นทาง ให้ใส่ ID การกำหนดค่าของคุณเป็นพารามิเตอร์แบบระบุหรือไม่ก็ได้ (แม้ว่าจะยังใส่ขอบเขตได้อยู่ แต่ขอแนะนำไม่ให้ใช้)

config_id=<CONFIG_ID>

เลือกใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

ขอแนะนำให้คุณดำเนินการทดสอบและเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจมีให้บริการสำหรับแอพประเภทธุรกิจที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ทุกแอพ แอพประเภทธุรกิจและแอพประเภท "ไม่มี" ที่มีอยู่เดิมและมีสิทธิ์ได้เปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจโดยอัตโนมัติแล้ว หรือไม่ก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้

หากแอพของคุณมีสิทธิ์เปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณจะมองเห็นแบนเนอร์การเลือกใช้เมื่อทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. ไปที่แดชบอร์ดของแอพสำหรับแอพของคุณ
  2. ไปที่ผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook หรือเพิ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
  3. คลิกที่แท็บ "การตั้งค่า" หรือแท็บ "การเริ่มต้นใช้งานอย่างง่าย"

หากต้องการเปลี่ยนมาใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณต้องคลิกที่ปุ่ม "เลือกใช้" ในแบนเนอร์ แอพทดสอบที่เชื่อมโยงกับแอพนี้จะเลือกใช้โดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน

หลังจากเปลี่ยนแล้ว ประเภทแอพของคุณจะอยู่ในส่วนประเภทธุรกิจ หากแอพของคุณไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่ละแอพจะสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ภายใน 30 วันนับจากที่เปลี่ยนและจะสามารถเปลี่ยนกลับได้สูงสุด 3 ครั้งเท่านั้น โปรดทราบว่าหากระบบเปิดใช้งานกล่องการเข้าสู่ระบบของการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจผ่าน ID การกำหนดค่า และหากคุณตัดสินใจเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook กล่องการเข้าสู่ระบบก็อาจโหลดไม่สำเร็จ เนื่องจากการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ไม่รองรับพารามิเตอร์ "config_id" และคุณต้องแทนที่พารามิเตอร์ "config_id" ด้วยพารามิเตอร์ "scope" แทน

การแก้ปัญหา

ตัวติดตั้งแอพอาจพบข้อความแสดงข้อผิดพลาดเนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้

  • ID การกำหนดค่าไม่ถูกต้อง
  • ระบบยังไม่รองรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบบนอุปกรณ์มือถือในขณะนี้
  • โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบได้รับการตั้งค่าโดยใช้ response_type ที่ไม่ถูกต้อง

การเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการทำงานซึ่งอาจเกิดขึ้นได้:

  • หากขณะนี้แอพของคุณมีประเภทเป็น “ไม่มี” การเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะทำให้ประเภทแอพของคุณเปลี่ยนเป็น “ธุรกิจ” และสามารถเข้าใช้ได้เฉพาะสิทธิ์การอนุญาตฟีเจอร์ และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภัณฑ์ในการเข้าสู่ระบบนี้มีให้ใช้งานเท่านั้น
  • หากตัวติดตั้งแอพที่คุณมีอยู่มีสิทธิ์เข้าใช้ได้เพียงสิทธิ์การอนุญาต email หรือ public_profile การเปลี่ยนแอพไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจจะทำให้โทเค็นที่ติดตั้งทั้งหมดก่อนหน้านี้ถูกยกเลิก
  • หากตัวติดตั้งแอพที่คุณมีอยู่มีสิทธิ์เข้าใช้สิทธิ์การอนุญาต/ฟีเจอร์ที่การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจไม่รองรับ สิทธิ์การอนุญาต/ฟีเจอร์เหล่านั้นจะถูกเพิกถอนในทันทีที่แอพเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ
  • หากแอพของคุณมีทั้งผลิตภัณฑ์การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจและส่วนขยาย Meta Business ประสบการณ์การใช้งานส่วนขยาย Meta Business ก็จะจำกัดอยู่เพียงสิทธิ์การอนุญาตที่การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจรองรับเท่านั้น

สลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook

หากแอพของคุณไม่ทำงานอย่างที่ตั้งใจไว้หลังเปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ คุณสามารถถอนการติดตั้งได้โดยเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook โดยไปที่แดชบอร์ดของแอพ > การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ > การตั้งค่า และคลิกที่ลิงก์เปลี่ยนไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ระบบจะให้คุณทำแบบสำรวจซึ่งจะช่วยเราปรับปรุงประสบการณ์ในการกำหนดค่าการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ แต่ละแอพสามารถเปลี่ยนกลับไปใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ภายใน 30 วันนับจากที่เปลี่ยนและจะสามารถเปลี่ยนกลับได้สูงสุด 3 ครั้งเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมแอพของฉันไม่มีสิทธิ์ใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจ

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจสามารถรองรับสิทธิ์การอนุญาตและฟีเจอร์ได้บางรายการเท่านั้น แอพจะไม่มีสิทธิ์ใช้งานหากขอสิทธิ์การอนุญาตหรือฟีเจอร์ที่การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจไม่รองรับ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าคุณจะต้องขอสิทธิ์การอนุญาต email และ public_profile ร่วมกับสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์

มีขั้นตอนใดบ้างที่ฉันสามารถดำเนินการเพื่อให้แอพมีสิทธิ์เลือกใช้งาน

หากแอพของคุณไม่มีสิทธิ์เลือกใช้งาน คุณสามารถสร้างแอพประเภทธุรกิจขึ้นใหม่ ซึ่งจะสามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจได้โดยอัตโนมัติ จากนั้นขอสิทธิ์การอนุญาตทางธุรกิจที่รองรับผ่านการตรวจสอบแอพ

ฉันต้องขอสิทธิ์การอนุญาตใดบ้างเมื่อนำการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับธุรกิจไปใช้

คุณเพียงแค่ต้องขอสิทธิ์การอนุญาตขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับฟังก์ชั่นการทำงานของแอพเท่านั้น ซึ่งคุณจะต้องเปิดเผยให้ผู้ใช้ทราบถึงเหตุผลที่คุณจำเป็นต้องใช้สิทธิ์การอนุญาตและฟีเจอร์แต่ละรายการอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ โปรดทราบว่าคุณจะต้องขอสิทธิ์การอนุญาต email และ public_profile ร่วมกับสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับอื่นๆ อย่างน้อยหนึ่งสิทธิ์เพื่อใช้ในการติดตั้งแต่ละแอพ คุณสามารถสร้างการกำหนดค่าเพื่อดูสิทธิ์การอนุญาตที่รองรับและรวมคำขอสิทธิ์การอนุญาตของคุณเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการเริ่มต้นใช้งานแบบกำหนดเองเพิ่มเติมได้