รับ ID องค์ประกอบและโทเค็นการเข้าถึง

หลังจากผู้ใช้ติดตั้งส่วนขยาย Facebook Business และคุณมีโทเค็นการเข้าถึงของผู้ใช้นั้นๆ แล้ว (ซึ่งใช้เพื่อเรียกใช้ API สำหรับผู้ใช้ดังกล่าว) คุณจะต้องดึงข้อมูล ID พิกเซล, Instagram Business ID, ID เพจ, ID ตัวจัดการธุรกิจ, ID บัญชีโฆษณา, ID แค็ตตาล็อก (มีหรือไม่ก็ได้) หรือโทเค็นการเข้าถึงจากผู้ใช้เพื่อกำหนดค่าฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้อง ID เหล่านี้จะใช้สำหรับตำแหน่งข้อมูล API และการกำหนดค่าธุรกิจ

โซลูชั่น OBO นี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถดึงข้อมูลโทเค็นการเข้าถึงโดยใช้โทเค็นการเข้าถึงของผู้ใช้ระบบที่มีสิทธิ์ระดับผู้ดูแลในตัวจัดการธุรกิจของพาร์ทเนอร์ได้ด้วย แทนที่จะต้องใช้โทเค็นการเข้าถึงของผู้ดูแลในตัวจัดการธุรกิจของลูกค้าอย่างเดียว

รวบรวมข้อมูล ID สำหรับตำแหน่งข้อมูล API และการกำหนดค่าธุรกิจ

วิธีดึงข้อมูลเหล่านั้นมีดังนี้

การสร้างผู้ใช้ระบบ

หลังจากผู้ใช้ติดตั้ง FBE แล้ว ส่วนขยายก็จะสร้างผู้ใช้ระบบที่เป็นพนักงานขึ้นมาในตัวจัดการธุรกิจของลูกค้า การตั้งชื่อสำหรับผู้ใช้ระบบใหม่นี้เป็นไปตามสกีมา {App Name} ผู้ใช้ระบบ (FBE)

ผู้ใช้ระบบแสดงถึงเซิร์ฟเวอร์หรือซอฟต์แวร์ที่ดำเนินการเรียกใช้ API ไปยังองค์ประกอบที่ตัวจัดการธุรกิจเป็นเจ้าของหรือจัดการ

ผู้ใช้ระบบรายนี้จะมีสิทธิ์การอนุญาตในองค์ประกอบ FBE ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยจะมีสิทธิ์ในการทำงานดังนี้

  1. เพจ: 'MANAGE'
  2. บัญชีโฆษณา: 'MANAGE'
  3. แค็ตตาล็อก: 'MANAGE'
  4. พิกเซล: 'EDIT'

ดึงข้อมูลโทเค็นผู้ใช้ระบบผ่าน API

หากคุณได้รับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ผ่าน Webhook หรือการเข้าสู่ระบบธุรกิจหลังจากติดตั้ง FBE คุณสามารถใช้โทเค็นเดียวกันนี้เพื่อรับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบของตัวจัดการธุรกิจได้ ในการทำเช่นนั้น ให้เรียกใช้ API ต่อไปนี้

curl -X POST \
  -F 'app_id={app_id}' \
  -F 'scope={permissions}' \ 
  -F 'access_token={access_token}' \
  -F 'fbe_external_business_id={fbe_external_business_id}' \
  https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/<client_business_manager_id>/access_token

ในช่อง scope ให้ใช้สิทธิ์การอนุญาต manage_business_extension ทั้งนี้คุณอาจต้องใช้สิทธิ์การอนุญาต ads_management หรือ catalog_management ด้วย ขึ้นอยู่กับกรณีการใช้งาน

สำหรับช่อง access_token คุณสามารถส่งโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ (user_access_token) หรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบที่มีสิทธิ์ระดับผู้ดูแลในตัวจัดการธุรกิจของพาร์ทเนอร์ (partner_bm_admin_system_user_token) ก็ได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโทเค็นการเข้าถึงธุรกิจ

ช่อง token_type จาก Webhook จะระบุว่า access_token ที่ได้รับเป็นโทเค็นการเข้าถึงของผู้ใช้ทั่วไปหรือโทเค็นการเข้าถึงของผู้ใช้ระบบ

ในกรณีที่ผู้ใช้กำลังติดตั้ง FBE ผ่าน Instagram นั้น Webhooks จะส่งคืนโทเค็นของผู้ใช้ระบบที่สร้างบนตัวจัดการธุรกิจของลูกค้าให้ คุณจึงไม่ต้องเรียกใช้ API

Webhook

เราจะส่งเหตุการณ์ Webhook ในทุกครั้งที่หนึ่งในธุรกิจของคุณติดตั้ง แก้ไข หรือถอนการติดตั้ง FBE เพื่อให้คุณได้อัพเดตเกี่ยวกับการติดตั้ง การถอนการติดตั้ง และการกำหนดค่าใหม่ของ FBE อย่างทันท่วงที

ในแต่ละครั้งที่ผู้ใช้ติดตั้งหรือแก้ไข FBE แอพของคุณควรตรวจสอบการกำหนดค่า Webhook เพื่อทำความเข้าใจว่าองค์ประกอบใดที่ผู้ใช้แก้ไข เพิ่ม หรือลบออกไปจากการเชื่อมต่อกับแอพของคุณ ลักษณะการทำงานของแอพควรอัพเดตตามองค์ประกอบที่มีการเชื่อมต่อล่าสุด

ข้อกำหนดในการตั้งค่า

  1. สร้างตำแหน่งข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ที่มีการรักษาความปลอดภัย ซึ่งสามารถประมวลผลคำขอการตรวจสอบยืนยัน (GET) และการแจ้งเตือนเหตุการณ์ (POST) จาก Facebook ได้
  2. กำหนดค่าการสมัครรับข้อมูล Webhooks ของ FBE ในแดชบอร์ดของแอพ:
    • ในส่วนส่วนขยาย Facebook Business ของแดชบอร์ดของแอพ ให้ไปที่แท็บตั้งค่า เลื่อนลงมาที่การ์ด Webhooks แล้วคลิกแก้ไข URL การเรียกกลับ
    • ป้อน URL ของตำแหน่งข้อมูลในช่อง URL การเรียกกลับ แล้วป้อนสตริงในช่องตรวจสอบยืนยันโทเค็น เราจะรวมสตริงนี้ไว้ในคำขอการตรวจสอบยืนยันทุกรายการ
    • เมื่อคุณคลิกที่ตรวจสอบยืนยันและบันทึก เราจะส่งคำขอการตรวจสอบยืนยันไปยังตำแหน่งข้อมูลของคุณ ซึ่งคุณต้องตรวจสอบความถูกต้อง
    • ระบบจะติดตาม Webhook ที่เป็น fbe_install โดยอัตโนมัติ การ์ดนี้ยังจะมีปุ่มเปิดปิดซึ่งใช้ปิดการติดตามได้หากต้องการ

วิธีแยกวิเคราะห์เหตุการณ์ Webhook

ในแต่ละครั้งที่ได้รับ Webhook การติดตั้ง แอพของคุณจะต้องดำเนินการต่อไปนี้

สำหรับการติดตั้งใหม่

  1. จัดเก็บโทเค็นการเข้าถึงและประเภทโทเค็น และบันทึกองค์ประกอบที่แอพของคุณมีสิทธิ์การเข้าถึง
  2. เปิดใช้งานชุดฟีเจอร์โดยพิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆ ที่ได้รับ
  3. หากขาดองค์ประกอบที่ฟีเจอร์นั้นๆ ต้องมีไป ให้ปิดใช้เฉพาะฟีเจอร์ดังกล่าว ตัวอย่างเช่น หากแอพของคุณได้รับสิทธิ์การเข้าถึงแค็ตตาล็อก แต่ไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าถึงพิกเซล ให้ใช้ฟีเจอร์ที่ทำงานด้วยแค็ตตาล็อกเท่านั้น ไม่ต้องใช้ฟีเจอร์ที่ทำงานด้วยพิกเซล
  4. แจ้งผู้ใช้พร้อมข้อมูลอัพเดตว่าแอพของคุณทำงานอย่างไรโดยพิจารณาจากองค์ประกอบที่ผู้ใช้มีสิทธิ์การเข้าถึง

สำหรับการติดตั้งที่มีอยู่แล้ว

  1. อัพเดตโทเค็นการเข้าถึง ประเภทโทเค็น และบันทึกองค์ประกอบที่แอพของคุณมีสิทธิ์การเข้าถึง
  2. อัพเดตชุดฟีเจอร์ดังกล่าวที่แอพจะใช้กับธุรกิจ โดยพิจารณาจากองค์ประกอบที่แอพได้รับ
  3. แจ้งผู้ใช้พร้อมข้อมูลอัพเดตว่าแอพของคุณทำงานอย่างไรโดยพิจารณาจากองค์ประกอบที่ผู้ใช้มีสิทธิ์การเข้าถึง

การแยกวิเคราะห์ Webhook เมื่อมีการถอนการติดตั้ง

ดำเนินขั้นตอนต่อไปนี้เมื่อมีการถอนการติดตั้ง

  1. ปิดใช้งานฟีเจอร์ที่แอพของคุณใช้สำหรับธุรกิจนี้
  2. แจ้งให้ธุรกิจทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่า

อะไรบ้างที่มากับเพย์โหลด Webhook

ช่องการตอบกลับ

ช่องคำอธิบาย
ad_account_id

ประเภท: สตริง

ID บัญชีโฆษณาที่เลือกโดยผู้ใช้ภายใน FBE คุณสามารถใช้บัญชีโฆษณานี้เพื่อจัดการโฆษณา หากแอพของคุณมีสิทธิ์การอนุญาต ads_management โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

business_manager_id

ประเภท: สตริง

ID ตัวจัดการธุรกิจที่ใช้สำหรับ FBE โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

catalog_id

ประเภท: สตริง

ID แค็ตตาล็อกที่เลือกโดยผู้ใช้ที่มี FBE ผู้ใช้สามารถใช้ ID นี้เพื่อจัดการแค็ตตาล็อกสินค้าของตนเองได้ โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

fbe_event

ประเภท: สตริง

เหตุการณ์ FBE ที่ระบุว่าการแจ้งเตือนเหตุการณ์เป็นการติดตั้งหรือการถอนการติดตั้ง โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

flow

ประเภท: สตริง

ขั้นตอนที่ระบุว่าผู้ใช้เริ่มต้นใช้งานขั้นตอนใด (เช่น COMMERCE, CREATIVE และอื่นๆ) โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

commerce_merchant_settings_id

ประเภท: สตริง

ID การตั้งค่าผู้ค้าพาณิชย์ที่ใช้เพื่อช่วยให้พาร์ทเนอร์สามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าผู้ค้าพาณิชย์ FBE ที่เลือกได้ โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

onsite_eligible

ประเภท: บูลีน

สิทธิ์ทางการค้าในเว็บไซต์ ระบุว่าองค์ประกอบที่เลือกมีสิทธิ์ทางการค้าในเว็บไซต์หรือไม่ ผู้ค้าต้องยังคงต้องมีจุดมุ่งหมายภายในเว็บไซต์และเลือกการส่งคืน/การจัดส่ง/การชำระเงินในเว็บไซต์ของพาร์ทเนอร์ โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

profiles

ประเภท: อาร์เรย์

รายการโปรไฟล์ (ID เพจ Facebook และ/หรือ ID โปรไฟล์ Instagram Business) ใช้ ID เหล่านี้เพื่อสร้างคำขอ API กราฟแยกต่างหากสำหรับการผสานการทำงาน อื่นๆ ของ Facebook ที่คุณมี โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features)

pages

ประเภท: อาร์เรย์

รายการ ID เพจ Facebook ใช้ ID เหล่านี้เพื่อสร้างคำขอ API กราฟแยกต่างหากสำหรับการผสานการทำงานอื่นๆ ของเพจ Facebook ที่คุณมี โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

instagram_profiles

ประเภท: อาร์เรย์

รายการ ID โปรไฟล์ Instagram Business ใช้ ID เหล่านี้เพื่อสร้างคำขอ API กราฟแยกต่างหากสำหรับการผสานการทำงานอื่นๆ ของ Facebook/Instagram ที่คุณมี หากไม่มีช่องนี้ แสดงว่าเป็นขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับ Instagram เท่านั้น ตัวอย่างเช่น instagram_basic ไม่รวมอยู่ในโทเค็นการเข้าถึงและ/หรือธุรกิจไม่ได้เชื่อมต่อโปรไฟล์ Instagram Business ใดๆ ที่มี FBE โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

pixel_id

ประเภท: สตริง

ID พิกเซลที่ไม่ซ้ำกันสำหรับธุรกิจนี้ที่คุณควรจัดเก็บและใช้เพื่อส่งข้อมูลเหตุการณ์พิกเซล โปรดดูองค์ประกอบที่เชื่อมต่อของรายการ installed_features

token_type

ประเภท: สตริง

ประเภทโทเค็น ระบุว่า access_token ที่ได้รับเป็นโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ตามค่าเริ่มต้น หรือเป็นโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ

installed_features

ประเภท: อาร์เรย์

รายการฟีเจอร์ที่ธุรกิจนี้ผสานการทำงานกับ/ติดตั้งผ่านขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งาน โปรดดูรายการฟีเจอร์ปัจจุบัน

feature_instance_id

ประเภท: อาร์เรย์

ID ที่แสดงฟีเจอร์ที่ติดตั้งแต่ละรายการโดยไม่ซ้ำกัน สามารถใช้ในอนาคตได้เพื่อปรับหรือถอนการติดตั้งอินสแตนซ์ใดอินสแตนซ์หนึ่ง ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับ feature_instance_id ที่อ้างอิงใน API การกำหนดค่าฟีเจอร์ และ Webhook

feature_type

ประเภท: สตริง

ประเภทของฟีเจอร์ที่ติดตั้ง ตารางรายการฟีเจอร์มีชุดฟีเจอร์ที่พร้อมใช้งานอย่างครบถ้วน คุณเพียงต้องติดตามฟีเจอร์ที่คุณเปิดใช้งานเท่านั้น

connected_assets

ประเภท: อาร์เรย์

รายการองค์ประกอบที่มีความเฉพาะเจาะจงและเกี่ยวข้องกับแต่ละฟีเจอร์ คำอธิบายองค์ประกอบจะสอดคล้องกับคำอธิบายที่ระบุไว้ที่ด้านบนสุดของตารางนี้

additional_info

ประเภท: อาร์เรย์

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่เชื่อมต่อ


เมื่อคุณได้รับเหตุการณ์ Webhook สำหรับการติดตั้งใหม่ คุณจะต้อง 1) ดูแลจัดการการแมป business_id เข้ากับ pixel_id นั้นๆ เนื่องจาก ID พิกเซลของธุรกิจนั้นๆ จะไม่ซ้ำกับธุรกิจอื่น และคุณควรใช้ ID ดังกล่าวส่งเหตุการณ์พิกเซล 2) อัพเดตคลังสินค้าสำหรับธุรกิจนั้นโดยใช้ PUSH API ของแค็ตตาล็อก รายการใดรายการหนึ่ง หากเปิดใช้งาน


ตัวอย่าง - เพย์โหลดที่มีช่อง onsite_commerce_eligible แบบบูลีน

{
  "data": [{
    "ad_account_id": "<ad_account_id>",
    "business_manager_id": "<business_manager_id>",
    "catalog_id": "<catalog_id>",
    "commerce_merchant_settings_id": "<commerce_merchant_settings_id>",
    "onsite_eligible": true,
    "profiles": [
      "<page_id>",
      "<instagram_profile_id>"
    ],
    "pages": [
      "<page_id>"
    ],
    "instagram_profiles": [
      "<instagram_profile_id>"
    ],
    "pixel_id": "<pixel_id>",
    "token_type": "<token_type>",
    "installed_features": [
        {
            "feature_instance_id": "<unique_id>",
            "feature_name" : string, 
            "feature_type": enum,
            "connected_assets": {
                "ad_account_id": "<ad_account_id>",
                "business_manager_id": "<business_manager_id>",
                "catalog_id": "<catalog_id>",
                "commerce_merchant_settings_id": "<commerce_merchant_settings_id>",
                "ig_profile_id": "<instagram_profile_id>"               
                "page_id": "<page_id>",
                "pixel_id": "<pixel_id>",
            },
            "additional_info": {
                            "onsite_commerce_eligible": bool
                        },
                        {
                        "shop_status": array
                        },
                        {
                        "shop_status_info": array
                        }
                }
         ]
    }]
}

API การติดตั้ง FBE

สำหรับธุรกิจที่ติดตั้ง FBE ไว้ คุณสามารถสืบค้นข้อมูลการติดตั้งพื้นฐาน (pixel_id และรายการโปรไฟล์ที่มี IG Business ID and/or Page ID) ได้โดยใช้ตำแหน่งข้อมูลต่อไปนี้

ตัวอย่าง

CURL -X GET 'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/fbe_business/fbe_installs?fbe_external_business_id=<fbe_external_business_id>&access_token=<access_token>'

การตอบกลับ

{
  "data": [{
    "token_type": "<token_type>"
    "installed_features": [
        {
            "feature_instance_id": "<unique_id>",
            “feature_name” : string, 
            "feature_type": enum,
            "connected_assets": {
                “ad_account_id”: "<ad_account_id>",
                “business_manager_id”: "<business_manager_id>",
                “catalog_id”: "<catalog_id>",
                “commerce_merchant_settings_id”: "<commerce_merchant_settings_id>",
                “ig_profile_id”: "<instagram_profile_id>"               
                "page_id": "<page_id>",
                "pixel_id": "<pixel_id>",
            },
            "additional_info": {
                            "onsite_commerce_eligible": bool
                        },
                        {
                        "shop_status": array
                        },
                        {
                        "shop_status_info": array
                        }
                }
         ]
    }]
}

การตอบกลับจะมีช่องต่อไปนี้ด้วย รายการเหล่านี้ถือเป็นแหล่งข้อมูลหนึ่งเดียวในบรรดาองค์ประกอบที่เชื่อมโยงกันไว้ของรายการ "installed_features"

ช่องคำอธิบาย

token_type

ประเภท: สตริง

ประเภทโทเค็นที่ระบุว่า access_token ได้รับโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ตามค่าเริ่มเต้น หรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ

installed_features

ประเภท: อาร์เรย์

รายการฟีเจอร์ที่ธุรกิจนี้ได้ผสานการทำงานไว้ หรือติดตั้งไว้ผ่านขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งาน

feature_instance_id

ประเภท: สตริง

ID ที่แสดงฟีเจอร์ที่ติดตั้งแต่ละรายการโดยไม่ซ้ำกัน สามารถใช้ในอนาคตได้เพื่อปรับหรือถอนการติดตั้งอินสแตนซ์ใดอินสแตนซ์หนึ่ง ซึ่งคือแบบเดียวกันกับ feature_instance_id ที่อ้างอิงใน API การกำหนดค่าฟีเจอร์และ Webhook

feature_name

ประเภท: สตริง

ชื่อฟีเจอร์ที่ไม่ซ้ำ

feature_type

ประเภท: สตริง

ประเภทฟีเจอร์ที่ติดตั้ง คุณเพียงต้องติดตามเฉพาะฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานเท่านั้น

connected_assets

ประเภท: อาร์เรย์

รายการองค์ประกอบที่ใช้กับแต่ละฟีเจอร์

additional_info

ประเภท: สตริง

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่เชื่อมต่อ ซึ่งได้แก่ shop_status และ shop_status_info ที่ระบุว่าร้านค้าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ โดยค่า shop_status อาจเป็น "inactive_other", "inactive_offsite", "active" หรือ "no_longer_available"

"active" หมายความว่าผู้คนสามารถมองเห็นร้านค้าได้ "inactive_offsite" หมายความว่าผู้คนไม่สามารถมองเห็นร้านค้าได้ เนื่องจากร้านค้าไม่ได้ใช้การชำระเงินบนเว็บไซต์ "inactive_other" หมายความว่าผู้คนไม่สามารถมองเห็นร้านค้าได้ เนื่องจากเหตุผลบางประการที่ไม่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการชำระเงิน ส่วน "no_longer_available" หมายความว่าร้านค้านี้ไม่ได้อยู่ในสหรัฐฯ หรือตลาดหลัก และไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

การตอบกลับ API การกำหนดค่าฟีเจอร์


โมเดลนี้จะมี ID อินสแตนซ์ฟีเจอร์สำหรับแต่ละฟีเจอร์ และช่องที่ประกอบไปด้วยอาร์เรย์ฟีเจอร์ประเภทนั้นๆ ทั้งหมดที่ธุรกิจได้ติดตั้งไว้ (เช่น CTA หลายรายการบนเพจ)

ในกรณีที่เป็นสำหรับฟีเจอร์ที่ปรับแต่งไม่ได้ จะมีเพียง ID อินสแตนซ์ของฟีเจอร์และแฟล็กที่เปิดใช้งานไว้แสดงขึ้นเท่านั้น คุณสามารถอัพเดตได้เฉพาะฟีเจอร์ที่ปรับแต่งได้โดยใช้คำขอ POST

รูปแบบนี้จะแตกต่างจาก API การติดตั้ง FBE เนื่องจากรูปแบบนี้จะให้ข้อมูลฟีเจอร์เพิ่มเติม นอกเหนือจากองค์ประกอบที่เชื่อมต่อ รวมถึงสถานะที่เปิดใช้งานและการปรับแต่งฟีเจอร์ที่เฉพาะเจาะจง หลังจากเรียกใช้ API การติดตั้ง FBE แล้ว ให้ใช้ API นี้หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะที่เปิดใช้งานหรือการกำหนดค่าของฟีเจอร์

อ่าน

คุณสามารถอ่านสถานะการกำหนดค่าฟีเจอร์ปัจจุบันของธุรกิจใดก็ได้ด้วยคำขอต่อไปนี้

CURL -X GET 
'https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/fbe_business/?fbe_external_business_id=<fbe_external_business_id>&access_token=<access_token>'

อัพเดต

ในการอัพเดตฟีเจอร์ทั้งหมด ให้ใช้คำขอ POST ต่อไปนี้

CURL -i -X POST \   
  -F 'fbe_external_business_id=<fbe_external_business_id>' \
  -F 'business_config={business_config object}' \
  -F 'access_token=<access_token>' 
  "https://graph.facebook.com/<API_VERSION>/fbe_business"

การตอบกลับ

{
  "page_cta": {
     "feature_instance_id": id1,
     "enabled": true,
     "cta_button_text": "Book Now",
     "cta_button_url": "https://partner-site.com/foo-business1",
     "below_button_text": "Powered by FBE Partner"
  },
  "page_ctas": [
    {
        "feature_instance_id": id1,
        "enabled": true,
        "cta_button_text": "Book Now",
        "cta_button_url": "https://partner-site.com/foo-business1",
        "below_button_text": "Powered by FBE Partner"
    },
    {
        "feature_instance_id": id2,
        "enabled": true,
        "cta_button_text": "Book Now",
        "cta_button_url": "https://partner-site.com/foo-business2",
        "below_button_text": "Powered by FBE Partner"
    }
  ],
  “ig_cta”: {...}
  "ig_ctas": [{...}, {...}],
  “ads”: [
    {
      "feature_instance_id": id3,
      “enabled”: true,
    },
    {
      "feature_instance_id": id4,
      “enabled”: true,
    },
  ],
  ...
}