คุณสามารถใช้พิกเซลของ Meta เพื่อติดตามการดำเนินการของผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ ซึ่งเรียกกันว่าการติดตามคอนเวอร์ชั่น คอนเวอร์ชั่นที่ติดตามจะปรากฏในตัวจัดการโฆษณาของ Facebook และในตัวจัดการเหตุการณ์ของ Facebook ซึ่งคุณจะสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกระบวนการคอนเวอร์ชั่นและคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนในโฆษณาได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้คอนเวอร์ชั่นที่ติดตามเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการปรับโฆษณาให้เหมาะสมและแคมเปญโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ ได้ด้วย เมื่อคุณระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองแล้ว เราจะสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อระบุผู้ใช้ Facebook รายอื่นๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะสร้างคอนเวอร์ชั่น และกำหนดเป้าหมายบุคคลเหล่านั้นได้ด้วยโฆษณาของคุณ
การติดตามคอนเวอร์ชั่นด้วยพิกเซลทำได้ 3 วิธีดังนี้
ต้องมีการติดตั้งโค้ดหลักของพิกเซลไว้ในทุกหน้าที่คุณต้องการติดตามคอนเวอร์ชั่น
เหตุการณ์มาตรฐานคือการดำเนินการของผู้เข้าชมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นทั่วไป เช่น การค้นหาสินค้า การดูสินค้า หรือการซื้อสินค้า เหตุการณ์มาตรฐานรองรับพารามิเตอร์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเพิ่มอ็อบเจ็กต์ที่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ เช่น ID สินค้า หมวดหมู่ และจำนวนสินค้าที่ซื้อไป
ดูรายการเหตุการณ์มาตรฐานทั้งหมดได้ที่ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับเหตุการณ์มาตรฐานของพิกเซล เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามคอนเวอร์ชั่นและเหตุการณ์มาตรฐานกับ Blueprint
เหตุการณ์มาตรฐานทั้งหมดจะได้รับการติดตามโดยการเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track')
ของพิกเซลโดยใช้ชื่อเหตุการณ์และอ็อบเจ็กต์ JSON (มีหรือไม่ก็ได้) เป็นพารามิเตอร์ ตัวอย่างเช่น การเรียกใช้ฟังก์ชั่นเพื่อติดตามเมื่อผู้เข้าชมดำเนินเหตุการณ์การซื้อเสร็จสมบูรณ์โดยมีการใส่สกุลเงินและมูลค่าเป็นพารามิเตอร์ดังนี้
fbq('track', 'Purchase', {currency: "USD", value: 30.00});
หากคุณเรียกฟังก์ชั่นนั้น ระบบจะติดตามการดำเนินการดังกล่าวเป็นเหตุการณ์การซื้อในตัวจัดการเหตุการณ์:
คุณสามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track')
ได้ทุกที่ระหว่างแท็กเปิดและแท็กปิด <body>
ของเว็บเพจ โดยเรียกใช้ได้ทั้งเวลาที่โหลดหน้า หรือเมื่อผู้เข้าชมดำเนินการบางอย่าง เช่น คลิกปุ่ม
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการติดตามเหตุการณ์การซื้อมาตรฐานหลังจากผู้เข้าชมดำเนินการซื้อเสร็จสิ้น คุณสามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track')
ในหน้าการยืนยันการซื้อ ดังนี้
<body> ... <script> fbq('track', 'Purchase', {currency: "USD", value: 30.00}); </script> ... </body>
แต่ถ้าหากคุณต้องการติดตามเหตุการณ์การซื้อมาตรฐานเมื่อผู้เข้าชมคลิกปุ่มซื้อ คุณสามารถเชื่อมโยงการเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track')
กับปุ่มซื้อในหน้าการชำระเงิน ดังนี้
<button id="addToCartButton">Purchase</button> <script type="text/javascript"> $('#addToCartButton').click(function() { fbq('track', 'Purchase', {currency: "USD", value: 30.00}); }); </script>
โปรดทราบว่าตัวอย่างข้างต้นใช้ jQuery ในการทริกเกอร์การเรียกฟังก์ชั่น แต่คุณสามารถทริกเกอร์การเรียกฟังก์ชั่นโดยใช้วิธีการใดก็ได้ตามต้องการ
หากเหตุการณ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของเราไม่ตรงกับความต้องการของคุณ คุณสามารถติดตามเหตุการณ์ที่กำหนดเองของคุณได้ ซึ่งยังสามารถใช้เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการปรับโฆษณาให้เหมาะสมได้ นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่กำหนดเองยังรองรับพารามิเตอร์ที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำหนดเองแต่ละเหตุการณ์
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามคอนเวอร์ชั่นและเหตุการณ์ที่กำหนดเองกับ Blueprint
คุณสามารถติดตามเหตุการณ์ที่กำหนดเองได้โดยการเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('trackCustom')
ของพิกเซลโดยใช้ชื่อเหตุการณ์ที่กำหนดเองและอ็อบเจ็กต์ JSON (มีหรือไม่ก็ได้) เป็นพารามิเตอร์ คุณสามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('trackCustom')
ได้ทุกที่ระหว่างแท็กเปิดกับแท็กปิด <body>
ของหน้าเว็บเช่นเดียวกับเหตุการณ์มาตรฐาน โดยเรียกใช้ได้ทั้งเวลาที่โหลดหน้า หรือเมื่อผู้เข้าชมดำเนินการบางอย่าง เช่น คลิกปุ่ม
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการติดตามผู้เยี่ยมชมที่แชร์โปรโมชั่นเพื่อรับส่วนลด คุณสามารถติดตามผู้เยี่ยมชมเหล่านั้นได้โดยใช้เหตุการณ์ที่กำหนดเอง ดังนี้
fbq('trackCustom', 'ShareDiscount', {promotion: 'share_discount_10%'});
ชื่อเหตุการณ์ที่กำหนดเองต้องเป็นสตริงและยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร
ทุกครั้งที่พิกเซลโหลด จะมีการเรียกใช้ fbq('track', 'PageView')
โดยอัตโนมัติเพื่อติดตามเหตุการณ์มาตรฐาน PageView เหตุการณ์มาตรฐาน PageView จะบันทึก URL ผู้อ้างอิงของหน้าที่ทริกเกอร์การเรียกใช้ฟังก์ชั่น คุณสามารถใช้ URL ที่บันทึกเหล่านี้ได้ในตัวจัดการเหตุการณ์เพื่อระบุการดำเนินการของผู้เยี่ยมชมที่ควรได้รับการติดตาม
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณส่งผู้เยี่ยมชมที่สมัครรับข้อมูลทางอีเมลไปยังหน้าขอบคุณ คุณสามารถตั้งค่าคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองที่ติดตามผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ได้ดูหน้าที่มี /thank-you
ใน URL สมมติว่าหน้าขอบคุณของคุณเป็นหน้าเดียวที่มี /thank-you
ใน URL และคุณได้ติดตั้งพิกเซลบนหน้านั้น ระบบจะติดตามทุกคนที่ดูหน้านั้นโดยใช้คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองดังกล่าว
เมื่อมีการติดตามคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง คุณจะสามารถใช้คอนเวอร์ชั่นนั้นเพื่อปรับแคมเปญโฆษณาของคุณให้เหมาะสม ระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง และปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่ใช้เหตุการณ์มาตรฐานหรือเหตุการณ์ที่กำหนดเองเพิ่มเติมได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองกับ Blueprint
เนื่องจากคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองนั้นใช้ URL ที่ครบถ้วนหรือเพียงบางส่วน คุณจึงควรตรวจสอบว่าสามารถกำหนดการดำเนินการของผู้เข้าชมได้ตามสตริงที่ไม่ซ้ำกันใน URL เว็บไซต์ของคุณเท่านั้น
คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองจะสร้างขึ้นทั้งหมดภายในตัวจัดการเหตุการณ์ คุณสามารถศึกษาวิธีการได้โดยดูที่เอกสารช่วยเหลือผู้ลงโฆษณาของเรา
ปรับให้เหมาะสมกับการดำเนินการ และติดตามโดยไม่ต้องเพิ่มข้อมูลในโค้ดหลักของพิกเซลของ Meta คุณสามารถดำเนินการนี้กับเหตุการณ์อื่นๆ นอกเหนือจากเหตุการณ์มาตรฐานทั้ง 17 เหตุการณ์ได้
/{AD_ACCOUNT_ID}/customconversions
pixel_rule
ตัวอย่างเช่น thankyou.html
เป็นหน้าที่ปรากฏหลังจากการซื้อ ซึ่งจะบันทึกคอนเวอร์ชั่น PURCHASE
เมื่อ 'thankyou.html'
แสดงขึ้น
use FacebookAds\Object\CustomConversion;
use FacebookAds\Object\Fields\CustomConversionFields;
$custom_conversion = new CustomConversion(null, 'act_<AD_ACCOUNT_ID>');
$custom_conversion->setData(array(
CustomConversionFields::NAME => 'Example Custom conversion',
CustomConversionFields::PIXEL_ID => <PIXEL_ID>,
CustomConversionFields::PIXEL_RULE => array(
'url' => array('i_contains' => 'thank-you.html'),
),
CustomConversionFields::CUSTOM_EVENT_TYPE => 'PURCHASE',
));
$custom_conversion->create();
from facebookads.adobjects.customconversion import CustomConversion
custom_conversion = CustomConversion(parent_id='act_<AD_ACCOUNT_ID>')
custom_conversion.update({
CustomConversion.Field.name: 'Example Custom Conversion',
CustomConversion.Field.pixel_id: <PIXEL_ID>,
CustomConversion.Field.pixel_rule: {
'url': {'i_contains': 'thankyou.html'},
},
CustomConversion.Field.custom_event_type: 'PURCHASE',
})
custom_conversion.remote_create()
curl \
-F 'name=Example Custom conversion' \
-F 'pixel_id=<PIXEL_ID>' \
-F 'pixel_rule={"url":{"i_contains":"thank-you.html"}}' \
-F 'custom_event_type=PURCHASE' \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
https://graph.facebook.com/v2.8/act_<AD_ACCOUNT_ID>/customconversions
จากนั้นคุณจะสามารถสร้างแคมเปญได้โดยใช้วัตถุประสงค์ CONVERSIONS
ในระดับชุดโฆษณา ให้ระบุคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองเดียวกันนี้ (pixel_id
, pixel_rule
, custom_event_type
) ใน promoted_object
ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาจะส่งคืนข้อมูลเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง ดังนี้
curl -i -G \ -d 'fields=actions,action_values' \ -d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \ https://graph.facebook.com/v2.7/<AD_ID>/insights
ส่งคืนทั้งคอนเวอร์ชั่นมาตรฐานและคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง ได้แก่
{ "data": [ { "actions": [ { "action_type": "offsite_conversion.custom.17067367629523", "value": 1225 }, { "action_type": "offsite_conversion.fb_pixel_purchase", "value": 205 } ], "action_values": [ { "action_type": "offsite_conversion.custom.1706736762929507", "value": 29390.89 }, { "action_type": "offsite_conversion.fb_pixel_purchase", "value": 29390.89 } ], "date_start": "2016-07-28", "date_stop": "2016-08-26" } ], "paging": { "cursors": { "before": "MAZDZD", "after": "MjQZD" }, "next": "https://graph.facebook.com/v2.7/<AD_ID>/insights?access_token=<ACCESS_TOKEN>&pretty=0&fields=actions%2Caction_values&date_preset=last_30_days&level=adset&limit=25&after=MjQZD" } }
คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองมี ID ที่ไม่ซ้ำกัน ดังนั้นจึงให้สืบค้น ID เพื่อหาคอนเวอร์ชั่นที่ต้องการ เช่น คอนเวอร์ชั่นตามกฎ
curl -i -G \ -d 'fields=name,pixel,pixel_aggregation_rule' \ -d 'access_token=ACCESS-TOKEN' \ https://graph.facebook.com/v2.7/<CUSTOM_CONVERSION_ID>
จำนวนสูงสุดของคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองต่อบัญชีโฆษณาคือ 100 หากคุณใช้ API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาเพื่อรับเกณฑ์ชี้วัดเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง
ติดตามคอนเวอร์ชั่นนอกเว็บไซต์ด้วยพิกเซลของคุณ โดยการเพิ่มช่อง fb_pixel
ไปยังพารามิเตอร์ tracking_spec
ของโฆษณาของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม
use FacebookAds\Object\Ad;
use FacebookAds\Object\Fields\AdFields;
$ad = new Ad(null, 'act_<AD_ACCOUNT_ID>');
$ad->setData(array(
AdFields::ADSET_ID => <AD_SET_ID>,
AdFields::CREATIVE => array(
'creative_id' => <CREATIVE_ID>,
),
AdFields::NAME => 'Offsite Conversions Ad',
AdFields::TRACKING_SPECS => array(array(
'action.type' => 'offsite_conversion',
'fb_pixel' => <PIXEL_ID>,
)),
));
$ad->create();
from facebookads.adobjects.ad import Ad
ad = Ad(parent_id='act_<AD_ACCOUNT_ID>')
ad.update({
Ad.Field.adset_id: <AD_SET_ID>,
Ad.Field.name: 'Offsite Conversions Ad',
Ad.Field.creative: {
'creative_id': <CREATIVE_ID>,
},
Ad.Field.tracking_specs: [
{
'action.type': 'offsite_conversion',
'fb_pixel': <PIXEL_ID>,
},
],
})
ad.remote_create(params={
'status': Ad.Status.paused,
})
Ad ad = new AdAccount(act_<AD_ACCOUNT_ID>, context).createAd()
.setAdsetId(<AD_SET_ID>)
.setCreative(
new AdCreative()
.setFieldId(<CREATIVE_ID>)
)
.setName("Offsite Conversions Ad")
.setTrackingSpecs("{\"action.type\":\"offsite_conversion\",\"fb_pixel\":\"" + <PIXEL_ID> + "\"}")
.execute();
String ad_id = ad.getId();
curl \
-F 'adset_id=<AD_SET_ID>' \
-F 'creative={"creative_id":"<CREATIVE_ID>"}' \
-F 'name=Offsite Conversions Ad' \
-F 'tracking_specs=[{"action.type":"offsite_conversion","fb_pixel":"<PIXEL_ID>"}]' \
-F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
https://graph.facebook.com/v2.11/act_<AD_ACCOUNT_ID>/ads
พารามิเตอร์คืออ็อบเจ็กต์ในรูปแบบ JSON ที่ระบุหรือไม่ก็ได้ ซึ่งคุณสามารถใส่ไว้ได้เมื่อทำการติดตามเหตุการณ์มาตรฐานและเหตุการณ์ที่กำหนดเอง พารามิเตอร์ดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถระบุข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ เมื่อมีการติดตามพารามิเตอร์แล้ว คุณจะสามารถใช้พารามิเตอร์นั้นเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่คุณสร้างเพิ่มเติมได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์กับ Blueprint
หากต้องการรวมอ็อบเจ็กต์พารามิเตอร์กับเหตุการณ์มาตรฐานหรือเหตุการณ์ที่กำหนดเอง ให้จัดรูปแบบข้อมูลพารามิเตอร์เป็นอ็อบเจ็กต์โดยใช้ JSON จากนั้นจึงใส่เป็นพารามิเตอร์ฟังก์ชั่นที่ 3 เมื่อเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track')
หรือ fbq('trackCustom')
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการติดตามผู้เข้าชมที่ซื้อสินค้าหลายรายการซึ่งเป็นผลจากการโปรโมทของคุณ คุณอาจดำเนินการได้ดังนี้
fbq('track', 'Purchase', // begin parameter object data { value: 115.00, currency: 'USD', contents: [ { id: '301', quantity: 1 }, { id: '401', quantity: 2 }], content_type: 'product' } // end parameter object data );
โปรดทราบว่า หากคุณต้องการใช้ข้อมูลที่อยู่ในพารามิเตอร์เหตุการณ์เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง ค่าคีย์จะต้องไม่มีช่องว่าง
คุณสามารถใส่คุณสมบัติอ็อบเจ็กต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าต่อไปนี้กับเหตุการณ์ที่กำหนดเองและเหตุการณ์มาตรฐานที่รองรับคุณสมบัตินั้น จัดรูปแบบข้อมูลอ็อบเจ็กต์พารามิเตอร์ของคุณโดยใช้ JSON
คีย์คุณสมบัติ | ประเภทของค่า | คำอธิบายพารามิเตอร์ |
---|---|---|
| สตริง | หมวดหมู่ของเพจหรือสินค้า |
| อาร์เรย์ของจำนวนเต็มหรือสตริง | ID สินค้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เช่น SKU ตัวอย่าง: |
| สตริง | ชื่อของเพจ/สินค้า |
| สตริง | สามารถเป็น |
| อาร์เรย์ของอ็อบเจ็กต์ | อาร์เรย์ของอ็อบเจ็กต์ JSON ที่มีรหัสสินค้าสากล (EAN) หากมี หรือตัวระบุสินค้าหรือเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงจำนวนและราคาของสินค้า ต้องระบุ: ตัวอย่าง: |
| สตริง | สกุลเงินสำหรับ |
| สตริง | หมวดหมู่ของการนำส่ง ค่าที่รองรับ ได้แก่
|
| จำนวนเต็ม | จำนวนของสินค้าเมื่อเริ่มการชำระเงิน ใช้กับเหตุการณ์ |
| จำนวนเต็ม, ทศนิยม | มูลค่าตลอดอายุการใช้งานที่คาดการณ์ของผู้สมัครรับข้อมูลตามที่ผู้ลงโฆษณาได้กำหนดไว้และแสดงเป็นค่าที่แน่นอน |
| สตริง | สตริงที่ผู้ใช้ป้อนเพื่อค้นหา ใช้กับเหตุการณ์ |
| บูลีน | ใช้กับเหตุการณ์ |
| จำนวนเต็มหรือทศนิยม | จำเป็นต้องระบุสำหรับเหตุการณ์การซื้อหรือเหตุการณ์ใดก็ตามที่ใช้การปรับมูลค่าให้เหมาะสม โดยเป็นค่าตัวเลขที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ ค่านี้ต้องแสดงจำนวนเงิน |
หากคุณสมบัติอ็อบเจ็กต์ที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้าไม่เหมาะกับความต้องการของคุณ คุณสามารถใส่คุณสมบัติที่กำหนดเองได้ คุณสมบัติที่กำหนดเองสามารถใช้ได้ทั้งกับเหตุการณ์มาตรฐานและเหตุการณ์ที่กำหนดเอง และสามารถช่วยให้คุณระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองเพิ่มเติมได้
ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการติดตามผู้เยี่ยมชมที่ซื้อสินค้าหลายรายการหลังจากเปรียบเทียบกับสินค้าอื่นๆ มาก่อน คุณอาจดำเนินการได้ดังนี้
fbq('track', 'Purchase', // begin parameter object data { value: 115.00, currency: 'USD', contents: [ { id: '301', quantity: 1 }, { id: '401', quantity: 2 }], content_type: 'product', compared_product: 'recommended-banner-shoes', // custom property delivery_category: 'in_store' } // end parameter object data );
เมื่อติดตามคอนเวอร์ชั่นได้แล้ว เราขอแนะนำให้คุณใช้คอนเวอร์ชั่นในการระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองเพื่อปรับโฆษณาของคุณให้เหมาะสมกับคอนเวอร์ชั่นบนเว็บไซต์