การติดตามคอนเวอร์ชั่น

คุณสามารถใช้พิกเซลของ Meta เพื่อติดตามการดำเนินการของผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ ซึ่งเรียกกันว่าการติดตามคอนเวอร์ชั่น คอนเวอร์ชั่นที่ติดตามจะปรากฏในตัวจัดการโฆษณาของ Facebook และในตัวจัดการเหตุการณ์ของ Facebook ซึ่งคุณจะสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของกระบวนการคอนเวอร์ชั่นและคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนในโฆษณาได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้คอนเวอร์ชั่นที่ติดตามเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการปรับโฆษณาให้เหมาะสมและแคมเปญโฆษณาแค็ตตาล็อก Advantage+ ได้ด้วย เมื่อคุณระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองแล้ว เราจะสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อระบุผู้ใช้ Facebook รายอื่นๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะสร้างคอนเวอร์ชั่น และกำหนดเป้าหมายบุคคลเหล่านั้นได้ด้วยโฆษณาของคุณ

การติดตามคอนเวอร์ชั่นด้วยพิกเซลทำได้ 3 วิธีดังนี้

  • ใช้เหตุการณ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นการดำเนินการของผู้เข้าชมที่เรากำหนดไว้และเป็นการดำเนินการที่คุณรายงานโดยการเรียกใช้ฟังก์ชั่นพิกเซล
  • ใช้เหตุการณ์ที่กำหนดเอง ซึ่งเป็นการดำเนินการของผู้เข้าชมที่คุณกำหนดไว้และเป็นการดำเนินการที่คุณรายงานโดยการเรียกใช้ฟังก์ชั่นพิกเซล
  • ใช้คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง ซึ่งเป็นการดำเนินการของผู้เข้าชมที่ได้รับการติดตามแบบอัตโนมัติโดยการแยกวิเคราะห์ URL ผู้อ้างอิงของเว็บไซต์ของคุณ

ข้อกำหนด

ต้องมีการติดตั้งโค้ดหลักของพิกเซลไว้ในทุกหน้าที่คุณต้องการติดตามคอนเวอร์ชั่น

เหตุการณ์มาตรฐาน

เหตุการณ์มาตรฐานคือการดำเนินการของผู้เข้าชมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นทั่วไป เช่น การค้นหาสินค้า การดูสินค้า หรือการซื้อสินค้า เหตุการณ์มาตรฐานรองรับพารามิเตอร์ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเพิ่มอ็อบเจ็กต์ที่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ เช่น ID สินค้า หมวดหมู่ และจำนวนสินค้าที่ซื้อไป

ดูรายการเหตุการณ์มาตรฐานทั้งหมดได้ที่ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับเหตุการณ์มาตรฐานของพิกเซล เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามคอนเวอร์ชั่นและเหตุการณ์มาตรฐานกับ Blueprint

การติดตามเหตุการณ์มาตรฐาน

เหตุการณ์มาตรฐานทั้งหมดจะได้รับการติดตามโดยการเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track') ของพิกเซลโดยใช้ชื่อเหตุการณ์และอ็อบเจ็กต์ JSON (มีหรือไม่ก็ได้) เป็นพารามิเตอร์ ตัวอย่างเช่น การเรียกใช้ฟังก์ชั่นเพื่อติดตามเมื่อผู้เข้าชมดำเนินเหตุการณ์การซื้อเสร็จสมบูรณ์โดยมีการใส่สกุลเงินและมูลค่าเป็นพารามิเตอร์ดังนี้

fbq('track', 'Purchase', {currency: "USD", value: 30.00});

หากคุณเรียกฟังก์ชั่นนั้น ระบบจะติดตามการดำเนินการดังกล่าวเป็นเหตุการณ์การซื้อในตัวจัดการเหตุการณ์:

คุณสามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track') ได้ทุกที่ระหว่างแท็กเปิดและแท็กปิด <body> ของเว็บเพจ โดยเรียกใช้ได้ทั้งเวลาที่โหลดหน้า หรือเมื่อผู้เข้าชมดำเนินการบางอย่าง เช่น คลิกปุ่ม

ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการติดตามเหตุการณ์การซื้อมาตรฐานหลังจากผู้เข้าชมดำเนินการซื้อเสร็จสิ้น คุณสามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track') ในหน้าการยืนยันการซื้อ ดังนี้

<body>
  ...
  <script>
    fbq('track', 'Purchase', {currency: "USD", value: 30.00});
  </script>
  ...
</body>

แต่ถ้าหากคุณต้องการติดตามเหตุการณ์การซื้อมาตรฐานเมื่อผู้เข้าชมคลิกปุ่มซื้อ คุณสามารถเชื่อมโยงการเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track') กับปุ่มซื้อในหน้าการชำระเงิน ดังนี้

<button id="addToCartButton">Purchase</button>
<script type="text/javascript">
  $('#addToCartButton').click(function() {
    fbq('track', 'Purchase', {currency: "USD", value: 30.00});
  });
</script>

โปรดทราบว่าตัวอย่างข้างต้นใช้ jQuery ในการทริกเกอร์การเรียกฟังก์ชั่น แต่คุณสามารถทริกเกอร์การเรียกฟังก์ชั่นโดยใช้วิธีการใดก็ได้ตามต้องการ

เหตุการณ์ที่กำหนดเอง

หากเหตุการณ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของเราไม่ตรงกับความต้องการของคุณ คุณสามารถติดตามเหตุการณ์ที่กำหนดเองของคุณได้ ซึ่งยังสามารถใช้เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการปรับโฆษณาให้เหมาะสมได้ นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่กำหนดเองยังรองรับพารามิเตอร์ที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำหนดเองแต่ละเหตุการณ์

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามคอนเวอร์ชั่นและเหตุการณ์ที่กำหนดเองกับ Blueprint

การติดตามเหตุการณ์ที่กำหนดเอง

คุณสามารถติดตามเหตุการณ์ที่กำหนดเองได้โดยการเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('trackCustom') ของพิกเซลโดยใช้ชื่อเหตุการณ์ที่กำหนดเองและอ็อบเจ็กต์ JSON (มีหรือไม่ก็ได้) เป็นพารามิเตอร์ คุณสามารถเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('trackCustom') ได้ทุกที่ระหว่างแท็กเปิดกับแท็กปิด <body> ของหน้าเว็บเช่นเดียวกับเหตุการณ์มาตรฐาน โดยเรียกใช้ได้ทั้งเวลาที่โหลดหน้า หรือเมื่อผู้เข้าชมดำเนินการบางอย่าง เช่น คลิกปุ่ม

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการติดตามผู้เยี่ยมชมที่แชร์โปรโมชั่นเพื่อรับส่วนลด คุณสามารถติดตามผู้เยี่ยมชมเหล่านั้นได้โดยใช้เหตุการณ์ที่กำหนดเอง ดังนี้

fbq('trackCustom', 'ShareDiscount', {promotion: 'share_discount_10%'});

ชื่อเหตุการณ์ที่กำหนดเองต้องเป็นสตริงและยาวไม่เกิน 50 ตัวอักษร

คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง

ทุกครั้งที่พิกเซลโหลด จะมีการเรียกใช้ fbq('track', 'PageView') โดยอัตโนมัติเพื่อติดตามเหตุการณ์มาตรฐาน PageView เหตุการณ์มาตรฐาน PageView จะบันทึก URL ผู้อ้างอิงของหน้าที่ทริกเกอร์การเรียกใช้ฟังก์ชั่น คุณสามารถใช้ URL ที่บันทึกเหล่านี้ได้ในตัวจัดการเหตุการณ์เพื่อระบุการดำเนินการของผู้เยี่ยมชมที่ควรได้รับการติดตาม

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณส่งผู้เยี่ยมชมที่สมัครรับข้อมูลทางอีเมลไปยังหน้าขอบคุณ คุณสามารถตั้งค่าคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองที่ติดตามผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ได้ดูหน้าที่มี /thank-you ใน URL สมมติว่าหน้าขอบคุณของคุณเป็นหน้าเดียวที่มี /thank-you ใน URL และคุณได้ติดตั้งพิกเซลบนหน้านั้น ระบบจะติดตามทุกคนที่ดูหน้านั้นโดยใช้คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองดังกล่าว

เมื่อมีการติดตามคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง คุณจะสามารถใช้คอนเวอร์ชั่นนั้นเพื่อปรับแคมเปญโฆษณาของคุณให้เหมาะสม ระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง และปรับแต่งกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่ใช้เหตุการณ์มาตรฐานหรือเหตุการณ์ที่กำหนดเองเพิ่มเติมได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองกับ Blueprint

เนื่องจากคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองนั้นใช้ URL ที่ครบถ้วนหรือเพียงบางส่วน คุณจึงควรตรวจสอบว่าสามารถกำหนดการดำเนินการของผู้เข้าชมได้ตามสตริงที่ไม่ซ้ำกันใน URL เว็บไซต์ของคุณเท่านั้น

การสร้างคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง

คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองจะสร้างขึ้นทั้งหมดภายในตัวจัดการเหตุการณ์ คุณสามารถศึกษาวิธีการได้โดยดูที่เอกสารช่วยเหลือผู้ลงโฆษณาของเรา

คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองตามกฎ

ปรับให้เหมาะสมกับการดำเนินการ และติดตามโดยไม่ต้องเพิ่มข้อมูลในโค้ดหลักของพิกเซลของ Meta คุณสามารถดำเนินการนี้กับเหตุการณ์อื่นๆ นอกเหนือจากเหตุการณ์มาตรฐานทั้ง 17 เหตุการณ์ได้

  1. สร้างคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองที่ /{AD_ACCOUNT_ID}/customconversions
  2. ระบุ URL หรือ URL บางส่วนที่แทนเหตุการณ์ใน pixel_rule ตัวอย่างเช่น thankyou.html เป็นหน้าที่ปรากฏหลังจากการซื้อ

ซึ่งจะบันทึกคอนเวอร์ชั่น PURCHASE เมื่อ 'thankyou.html' แสดงขึ้น

use FacebookAds\Object\CustomConversion;
use FacebookAds\Object\Fields\CustomConversionFields;

$custom_conversion = new CustomConversion(null, 'act_<AD_ACCOUNT_ID>');
$custom_conversion->setData(array(
  CustomConversionFields::NAME => 'Example Custom conversion',
  CustomConversionFields::PIXEL_ID => <PIXEL_ID>,
  CustomConversionFields::PIXEL_RULE => array(
    'url' => array('i_contains' => 'thank-you.html'),
  ),
  CustomConversionFields::CUSTOM_EVENT_TYPE => 'PURCHASE',
));
$custom_conversion->create();
from facebookads.adobjects.customconversion import CustomConversion

    custom_conversion = CustomConversion(parent_id='act_<AD_ACCOUNT_ID>')
    custom_conversion.update({
        CustomConversion.Field.name: 'Example Custom Conversion',
        CustomConversion.Field.pixel_id: <PIXEL_ID>,
        CustomConversion.Field.pixel_rule: {
            'url': {'i_contains': 'thankyou.html'},
        },
        CustomConversion.Field.custom_event_type: 'PURCHASE',
    })

    custom_conversion.remote_create()
curl \
  -F 'name=Example Custom conversion' \
  -F 'pixel_id=<PIXEL_ID>' \
  -F 'pixel_rule={"url":{"i_contains":"thank-you.html"}}' \
  -F 'custom_event_type=PURCHASE' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v2.8/act_<AD_ACCOUNT_ID>/customconversions

จากนั้นคุณจะสามารถสร้างแคมเปญได้โดยใช้วัตถุประสงค์ CONVERSIONS

ในระดับชุดโฆษณา ให้ระบุคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองเดียวกันนี้ (pixel_id, pixel_rule, custom_event_type) ใน promoted_object

ข้อมูลเชิงลึกของคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง

ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาจะส่งคืนข้อมูลเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง ดังนี้

curl -i -G \
-d 'fields=actions,action_values' \
-d 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
https://graph.facebook.com/v2.7/<AD_ID>/insights

ส่งคืนทั้งคอนเวอร์ชั่นมาตรฐานและคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง ได้แก่

{
  "data": [
    {
      "actions": [
        {
          "action_type": "offsite_conversion.custom.17067367629523",
          "value": 1225
        },
        {
          "action_type": "offsite_conversion.fb_pixel_purchase",
          "value": 205
        }
      ],
      "action_values": [
        {
          "action_type": "offsite_conversion.custom.1706736762929507",
          "value": 29390.89
        },
        {
          "action_type": "offsite_conversion.fb_pixel_purchase",
          "value": 29390.89
        }
      ],
      "date_start": "2016-07-28",
      "date_stop": "2016-08-26"
    }
  ],
  "paging": {
    "cursors": {
      "before": "MAZDZD",
      "after": "MjQZD"
    },
    "next": "https://graph.facebook.com/v2.7/<AD_ID>/insights?access_token=<ACCESS_TOKEN>&amp;pretty=0&amp;fields=actions%2Caction_values&amp;date_preset=last_30_days&amp;level=adset&amp;limit=25&amp;after=MjQZD"
  }
}

คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองมี ID ที่ไม่ซ้ำกัน ดังนั้นจึงให้สืบค้น ID เพื่อหาคอนเวอร์ชั่นที่ต้องการ เช่น คอนเวอร์ชั่นตามกฎ

curl -i -G \
-d 'fields=name,pixel,pixel_aggregation_rule' \
-d 'access_token=ACCESS-TOKEN' \
https://graph.facebook.com/v2.7/<CUSTOM_CONVERSION_ID>

ข้อจำกัดของคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง

จำนวนสูงสุดของคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเองต่อบัญชีโฆษณาคือ 100 หากคุณใช้ API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาเพื่อรับเกณฑ์ชี้วัดเกี่ยวกับคอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง

  • ไม่รองรับการเรียกข้อมูลแยกย่อยของ ID สินค้า
  • ไม่รองรับการเรียกจำนวนการดำเนินการที่ไม่ซ้ำกัน

ติดตามคอนเวอร์ชั่นนอกเว็บไซต์

ติดตามคอนเวอร์ชั่นนอกเว็บไซต์ด้วยพิกเซลของคุณ โดยการเพิ่มช่อง fb_pixel ไปยังพารามิเตอร์ tracking_spec ของโฆษณาของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติม

use FacebookAds\Object\Ad;
use FacebookAds\Object\Fields\AdFields;

$ad = new Ad(null, 'act_<AD_ACCOUNT_ID>');
$ad->setData(array(
  AdFields::ADSET_ID => <AD_SET_ID>,
  AdFields::CREATIVE => array(
    'creative_id' => <CREATIVE_ID>,
  ),
  AdFields::NAME => 'Offsite Conversions Ad',
  AdFields::TRACKING_SPECS => array(array(
    'action.type' => 'offsite_conversion',
    'fb_pixel' => <PIXEL_ID>,
  )),
));

$ad->create();
from facebookads.adobjects.ad import Ad

ad = Ad(parent_id='act_<AD_ACCOUNT_ID>')
ad.update({
    Ad.Field.adset_id: <AD_SET_ID>,
    Ad.Field.name: 'Offsite Conversions Ad',
    Ad.Field.creative: {
        'creative_id': <CREATIVE_ID>,
    },
    Ad.Field.tracking_specs: [
        {
            'action.type': 'offsite_conversion',
            'fb_pixel': <PIXEL_ID>,
        },
    ],
})
ad.remote_create(params={
    'status': Ad.Status.paused,
})
Ad ad = new AdAccount(act_<AD_ACCOUNT_ID>, context).createAd()
  .setAdsetId(<AD_SET_ID>)
  .setCreative(
    new AdCreative()
      .setFieldId(<CREATIVE_ID>)
  )
  .setName("Offsite Conversions Ad")
  .setTrackingSpecs("{\"action.type\":\"offsite_conversion\",\"fb_pixel\":\"" + <PIXEL_ID> + "\"}")
  .execute();
String ad_id = ad.getId();
curl \
  -F 'adset_id=<AD_SET_ID>' \
  -F 'creative={"creative_id":"<CREATIVE_ID>"}' \
  -F 'name=Offsite Conversions Ad' \
  -F 'tracking_specs=[{"action.type":"offsite_conversion","fb_pixel":"<PIXEL_ID>"}]' \
  -F 'access_token=<ACCESS_TOKEN>' \
  https://graph.facebook.com/v2.11/act_<AD_ACCOUNT_ID>/ads

พารามิเตอร์

พารามิเตอร์คืออ็อบเจ็กต์ในรูปแบบ JSON ที่ระบุหรือไม่ก็ได้ ซึ่งคุณสามารถใส่ไว้ได้เมื่อทำการติดตามเหตุการณ์มาตรฐานและเหตุการณ์ที่กำหนดเอง พารามิเตอร์ดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถระบุข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ เมื่อมีการติดตามพารามิเตอร์แล้ว คุณจะสามารถใช้พารามิเตอร์นั้นเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่คุณสร้างเพิ่มเติมได้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพารามิเตอร์กับ Blueprint

หากต้องการรวมอ็อบเจ็กต์พารามิเตอร์กับเหตุการณ์มาตรฐานหรือเหตุการณ์ที่กำหนดเอง ให้จัดรูปแบบข้อมูลพารามิเตอร์เป็นอ็อบเจ็กต์โดยใช้ JSON จากนั้นจึงใส่เป็นพารามิเตอร์ฟังก์ชั่นที่ 3 เมื่อเรียกใช้ฟังก์ชั่น fbq('track') หรือ fbq('trackCustom')

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการติดตามผู้เข้าชมที่ซื้อสินค้าหลายรายการซึ่งเป็นผลจากการโปรโมทของคุณ คุณอาจดำเนินการได้ดังนี้

fbq('track', 'Purchase',
  // begin parameter object data
  {
    value: 115.00,
    currency: 'USD',
    contents: [
      {
        id: '301',
        quantity: 1
      },
      {
        id: '401',
        quantity: 2
      }],
    content_type: 'product'
  }
  // end parameter object data
);

โปรดทราบว่า หากคุณต้องการใช้ข้อมูลที่อยู่ในพารามิเตอร์เหตุการณ์เมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง ค่าคีย์จะต้องไม่มีช่องว่าง

คุณสมบัติของอ็อบเจ็กต์

คุณสามารถใส่คุณสมบัติอ็อบเจ็กต์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าต่อไปนี้กับเหตุการณ์ที่กำหนดเองและเหตุการณ์มาตรฐานที่รองรับคุณสมบัตินั้น จัดรูปแบบข้อมูลอ็อบเจ็กต์พารามิเตอร์ของคุณโดยใช้ JSON

คีย์คุณสมบัติประเภทของค่าคำอธิบายพารามิเตอร์

content_category

สตริง

หมวดหมู่ของเพจหรือสินค้า

content_ids

อาร์เรย์ของจำนวนเต็มหรือสตริง

ID สินค้าที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เช่น SKU ตัวอย่าง: ['ABC123', 'XYZ789']

content_name

สตริง

ชื่อของเพจ/สินค้า

content_type

สตริง

สามารถเป็น product หรือ product_group ตาม content_ids หรือ contents ที่ส่งผ่านไป หาก ID ที่ส่งผ่านไปในพารามิเตอร์ content_ids หรือ contents เป็น ID สินค้า ค่าควรจะเป็น product หากกำลังส่งผ่าน ID กลุ่มสินค้า ค่าควรจะเป็น product_group

contents

อาร์เรย์ของอ็อบเจ็กต์

อาร์เรย์ของอ็อบเจ็กต์ JSON ที่มีรหัสสินค้าสากล (EAN) หากมี หรือตัวระบุสินค้าหรือเนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงจำนวนและราคาของสินค้า ต้องระบุ: id และ quantity

ตัวอย่าง: [{'id': 'ABC123', 'quantity': 2}, {'id': 'XYZ789', 'quantity': 2}]

currency

สตริง

สกุลเงินสำหรับ value ที่ระบุ

delivery_category

สตริง

หมวดหมู่ของการนำส่ง ค่าที่รองรับ ได้แก่

  • in_store - การซื้อที่กำหนดให้ลูกค้าเข้าร้านค้า
  • curbside - การซื้อที่กำหนดให้รับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ
  • home_delivery - การซื้อที่จัดส่งให้ถึงมือลูกค้า

num_items

จำนวนเต็ม

จำนวนของสินค้าเมื่อเริ่มการชำระเงิน ใช้กับเหตุการณ์ InitiateCheckout

predicted_ltv

จำนวนเต็ม, ทศนิยม

มูลค่าตลอดอายุการใช้งานที่คาดการณ์ของผู้สมัครรับข้อมูลตามที่ผู้ลงโฆษณาได้กำหนดไว้และแสดงเป็นค่าที่แน่นอน

search_string

สตริง

สตริงที่ผู้ใช้ป้อนเพื่อค้นหา ใช้กับเหตุการณ์ Search

status

บูลีน

ใช้กับเหตุการณ์ CompleteRegistration เพื่อแสดงสถานะการลงทะเบียน

value

จำนวนเต็มหรือทศนิยม

จำเป็นต้องระบุสำหรับเหตุการณ์การซื้อหรือเหตุการณ์ใดก็ตามที่ใช้การปรับมูลค่าให้เหมาะสม โดยเป็นค่าตัวเลขที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ ค่านี้ต้องแสดงจำนวนเงิน

คุณสมบัติที่กำหนดเอง

หากคุณสมบัติอ็อบเจ็กต์ที่เรากำหนดไว้ล่วงหน้าไม่เหมาะกับความต้องการของคุณ คุณสามารถใส่คุณสมบัติที่กำหนดเองได้ คุณสมบัติที่กำหนดเองสามารถใช้ได้ทั้งกับเหตุการณ์มาตรฐานและเหตุการณ์ที่กำหนดเอง และสามารถช่วยให้คุณระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองเพิ่มเติมได้

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณต้องการติดตามผู้เยี่ยมชมที่ซื้อสินค้าหลายรายการหลังจากเปรียบเทียบกับสินค้าอื่นๆ มาก่อน คุณอาจดำเนินการได้ดังนี้

fbq('track', 'Purchase',
  // begin parameter object data
  {
    value: 115.00,
    currency: 'USD',
    contents: [
      {
        id: '301',
        quantity: 1
      },
      {
        id: '401',
        quantity: 2
      }],
    content_type: 'product',
    compared_product: 'recommended-banner-shoes',  // custom property
    delivery_category: 'in_store'
  }
  // end parameter object data
);

ขั้นตอนถัดไป

เมื่อติดตามคอนเวอร์ชั่นได้แล้ว เราขอแนะนำให้คุณใช้คอนเวอร์ชั่นในการระบุกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองเพื่อปรับโฆษณาของคุณให้เหมาะสมกับคอนเวอร์ชั่นบนเว็บไซต์

เรียนรู้เพิ่มเติม

  • เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตามคอนเวอร์ชั่นกับ Blueprint