เอกสารนี้นี้ได้รับการอัพเดตแล้ว
คำแปลเป็น ภาษาไทย ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ภาษาอังกฤษที่อัพเดต: 6 มี.ค.

ขีดจำกัดอัตรา

ขีดจำกัดอัตราคือจำนวนการเรียกใช้ API ที่แอพหรือผู้ใช้สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากเกินขีดจำกัดนี้หรือเกินขีดจำกัดของ CPU หรือเวลาโดยรวม แอพหรือผู้ใช้อาจถูกจำกัดผลลัพธ์ และการส่งคำขอ API จากผู้ใช้หรือแอพที่ถูกจำกัดผลลัพธ์จะไม่สำเร็จ

คำขอ API ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตรา ส่วนคำขอ API กราฟและ Instagram Basic Display API จะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์ม ในขณะที่คำขอ API การตลาดและ API กราฟของ Instagram จะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตราของกรณีการใช้งานทางธุรกิจ (BUC)

คำขอ API เพจจะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์มหรือของ BUC ตามโทเค็นที่ใช้ในคำขอ โดยคำขอด้วยแอพพลิเคชั่นหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้จะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์ม ในขณะที่คำขอด้วยโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบหรือโทเค็นการเข้าถึงเพจจะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตราของกรณีการใช้งานทางธุรกิจ

สถิติการใช้งานขีดจำกัดอัตราแบบเรียลไทม์มีอธิบายไว้ในส่วนหัวที่อยู่ในการตอบกลับจาก API ส่วนใหญ่ เมื่อมีการเรียกใช้ไปยังปลายทางมากพอ และเรายังแสดงสถิติการใช้งานขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์มไว้ในแดชบอร์ดของแอพอีกด้วย เมื่อถึงขีดจำกัดอัตรา คำขอใดก็ตามที่ส่งจากแอพของคุณในภายหลังจะไม่สำเร็จ และ API จะส่งคืนรหัสข้อผิดพลาดจนกว่าเวลาจะผ่านไปมากพอที่จะทำให้จำนวนการเรียกใช้ลดลงต่ำกว่าขีดจำกัด

หากทั้งขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์มและกรณีการใช้งานทางธุรกิจสามารถใช้ได้กับคำขอได้ จะมีการนำขีดจำกัดอัตรา BUC มาใช้

ขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์ม

ระบบจะติดตามขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์มในแต่ละแอพพลิเคชั่นหรือระดับผู้ใช้ โดยขึ้นอยู่กับประเภทของโทเค็นที่ใช้ในคำขอ

แอพพลิเคชั่น

คำขอ API กราฟที่ส่งด้วยโทเค็นการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นจะนับรวมอยู่ในขีดจำกัดอัตราของแอพนั้น จำนวนการเรียกใช้ของแอพ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

Calls within one hour = 200 * Number of Users

Number of Users จะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งานแอพต่อวันที่มีไม่ซ้ำกัน ในกรณีที่มีช่วงเวลาการใช้งานต่อวันน้อย เช่น หากแอพของคุณมีกิจกรรมสูงในช่วงสุดสัปดาห์ แต่มีกิจกรรมต่ำในช่วงวันธรรมดา ผู้ใช้งานต่อสัปดาห์และต่อเดือนจะถูกนำมาใช้ในการคำนวณจำนวนผู้ใช้แอพของคุณ แอพที่มีการมีส่วนร่วมต่อวันสูงจะมีขีดจำกัดอัตราสูงกว่าแอพที่มีการมีส่วนร่วมต่อวันต่ำ ไม่ว่าจำนวนที่แท้จริงของการติดตั้งแอพจะเป็นเท่าใดก็ตาม

โปรดทราบว่าขีดจำกัดนี้ไม่ใช่การจำกัดต่อผู้ใช้ แต่เป็นการจำกัดการเรียกใช้จากแอพของคุณ ผู้ใช้แต่ละรายสามารถเรียกใช้ได้มากกว่า 200 ครั้งต่อชั่วโมงโดยใช้แอพของคุณ ตราบใดที่การเรียกใช้โดยรวมจากแอพของคุณยังไม่เกินจำนวนครั้งสูงสุดของแอพ ตัวอย่างเช่น หากแอพของคุณมีผู้ใช้ 100 ราย แอพจะสามารถเรียกใช้ได้ 20,000 ครั้งต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมมากที่สุด 10 อันดับสูงสุดของคุณจะสามารถเรียกใช้ได้ 19,000 ครั้งจากการเรียกใช้ดังกล่าว

ผู้ใช้

คำขอ API กราฟที่ส่งด้วยโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้จะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ของผู้ใช้รายนั้น จำนวนการเรียกใช้ของผู้ใช้ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่ผู้ใช้สามารถทำได้ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง และเนื่องจากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เราจึงไม่เปิดเผยค่าจำนวนการเรียกใช้ที่แท้จริงสำหรับผู้ใช้

โปรดทราบว่าจำนวนการเรียกใช้ของผู้ใช้สามารถกระจายไปหลายแอพได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ X ครั้งผ่าน App1 และเรียกใช้ Y ครั้งผ่าน App2 ได้ หาก X+Y เกินจำนวนการเรียกใช้ของผู้ใช้ ผู้ใช้รายนั้นจะถูกจำกัดอัตรา ซึ่งไม่จำเป็นต้องหมายความว่ามีแอพกำลังเกิดข้อผิดพลาด แต่อาจเป็นไปได้ว่าผู้ใช้กำลังใช้หลายแอพ หรือกำลังใช้ API ในทางที่ผิด

ส่วนหัว

ปลายทางที่ได้รับคำขอมากพอจากแอพของคุณจะรวมส่วนหัวของ HTTP X-App-Usage หรือ X-Ad-Account-Usage (สำหรับเวอร์ชั่น 3.3 และการเรียกใช้ API โฆษณาที่เก่ากว่า) ไว้ในการตอบกลับ โดยส่วนหัวจะมีสตริงรูปแบบ JSON ที่อธิบายการใช้งานขีดจำกัดอัตราของแอพพลิเคชั่นในปัจจุบัน

เนื้อหาของส่วนหัว


คีย์คำอธิบายค่า

call_count

จำนวนเต็มที่แสดงเปอร์เซ็นต์การเรียกใช้จากแอพของคุณตลอดช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง

total_cputime

จำนวนเต็มที่แสดงเปอร์เซ็นต์ของเวลา CPU ซึ่งจัดสรรไว้สำหรับการประมวลผลการสืบค้น

total_time

จำนวนเต็มที่แสดงเปอร์เซ็นต์ของเวลาโดยรวม ซึ่งจัดสรรไว้สำหรับการประมวลผลการสืบค้น

เนื้อหาของหัวเรื่องการใช้บัญชีโฆษณา X

คีย์คำอธิบายค่า

acc_id_util_pct

เปอร์เซ็นต์ของการเรียกใช้ที่ดำเนินการสำหรับบัญชีโฆษณานี้ก่อนถึงขีดจำกัดอัตรา

reset_time_duration

ระยะเวลา (เป็นวินาที) ที่ใช้เพื่อรีเซ็ตขีดจำกัดอัตราเป็น 0

ads_api_access_tier

ระดับจะเป็นตัวระบุสิทธิ์ของแอพในการเข้าใช้งาน API การตลาด ตามค่าเริ่มเต้นแล้ว แอพจะอยู่ในระดับ development_access โดย Standard_access จะให้การจำกัดอัตราที่ต่ำกว่า หากต้องการขีดจำกัดอัตราที่สูงขึ้นและขึ้นถึงระดับมาตรฐาน คุณต้องสมัครรับ "สิทธิ์การเข้าถึงระดับสูง" กับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา

เวลา CPU โดยรวม

จำนวนเวลา CPU ที่คำขอใช้ในการประมวลผล เมื่อ total_cputime ถึง 100 การเรียกใช้อาจถูกจำกัดผลลัพธ์

เวลาโดยรวม

ระยะเวลาที่คำขอใช้ในการประมวลผล เมื่อ total_time ถึง 100 การเรียกใช้อาจถูกจำกัดผลลัพธ์

ตัวอย่างค่าส่วนหัว X-App-Usage

x-app-usage: {
    "call_count": 28,         //Percentage of calls made 
    "total_time": 25,         //Percentage of total time
    "total_cputime": 25       //Percentage of total CPU time
}

ตัวอย่างค่าส่วนหัว X-Ad-Account-Usage

x-ad-account-usage: {
    "acc_id_util_pct": 9.67,   //Percentage of calls made for this ad account.
    "reset_time_duration": 100,   //Time duration (in seconds) it takes to reset the current rate limit score.
    "ads_api_access_tier": 'standard_access'   //Tiers allows your app to access the Marketing API. standard_access enables lower rate limiting.
}

แดชบอร์ด

แดชบอร์ดของแอพจะแสดงจำนวนผู้ใช้แอพที่จำกัดอัตรา เปอร์เซ็นต์การใช้งานขีดจำกัดอัตราของแอพพลิเคชั่นในปัจจุบันของแอพ และแสดงกิจกรรมโดยเฉลี่ยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ในการ์ดขีดจำกัดอัตราของแอพพลิเคชั่น ให้คลิก "ดูรายละเอียด" แล้ววางเมาส์เหนือจุดใดก็ได้บนกราฟ เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานในช่วงเวลานั้นโดยเฉพาะ และเนื่องจากการใช้งานขึ้นอยู่กับปริมาณการเรียกใช้ กราฟนี้จึงอาจไม่แสดงเต็มทั้ง 7 วัน โดยแอพที่มีปริมาณการเรียกใช้สูงกว่าจะแสดงจำนวนวันมากกว่า

รหัสข้อผิดพลาด

เมื่อแอพหรือผู้ใช้ได้ถึงขีดจำกัดอัตราแล้ว จะมีการกรอกคำขอที่ส่งมาจากแอพหรือผู้ใช้นั้น และ API จะตอบกลับด้วยรหัสข้อผิดพลาด

รหัสข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการจำกัดผลลัพธ์


รหัสข้อผิดพลาดคำอธิบาย

4

ระบุว่าแอพที่มีการใช้โทเค็นในคำขอได้ถึงขีดจำกัดอัตราแล้ว

17

ระบุว่าผู้ใช้ที่มีการใช้โทเค็นในคำขอได้ถึงขีดจำกัดอัตราแล้ว

17 with subcode 2446079

ระบุว่าโทเค็นที่ใช้ในคำขอ API โฆษณาเวอร์ชั่น 3.3 หรือเก่ากว่าได้ถึงขีดจำกัดอัตราแล้ว

32

ระบุว่าผู้ใช้หรือแอพที่มีการใช้โทเค็นในคำขอ API เพจได้ถึงขีดจำกัดอัตราแล้ว

613

ระบุว่าได้ถึงขีดจำกัดอัตราที่กำหนดเองแล้ว ให้ไปที่เอกสารประกอบสำหรับ API ที่เฉพาะเจาะจงที่คุณกำลังเรียกใช้อยู่เพื่อดูขีดจำกัดอัตราที่กำหนดเอง เพื่อช่วยแก้ไขประเด็นปัญหานี้

613 with subcode 1996

ระบุว่าเราได้สังเกตพบพฤติกรรมที่ขัดแย้งกันในปริมาณคำขอ API จากแอพของคุณ หากคุณดำเนินการเปลี่ยนแปลงล่าสุดที่ส่งผลต่อจำนวนคำขอ API คุณอาจพบข้อผิดพลาดนี้

ตัวอย่างการตอบกลับ

{
  "error": {
    "message": "(#32) Page request limit reached",
    "type": "OAuthException",
    "code": 32,
    "fbtrace_id": "Fz54k3GZrio"
  }
}

รหัสการจำกัดผลลัพธ์ด้านความเสถียรของ Facebook


รหัสข้อผิดพลาดคำอธิบาย

throttled

การสืบค้นถูกจำกัดผลลัพธ์หรือไม่ โดยมีค่าเป็น True, False

backend_qps

ปัจจัยแรกในการจำกัดผลลัพธ์ backend_qps ค่าที่รองรับ ได้แก่

  • actual_scorebackend_qps ที่แท้จริงของแอพนี้ โดยมีค่าเป็น 8
  • limit—ขีดจำกัด backend_qps ของแอพนี้ โดยมีค่าเป็น 5
  • more_info—การสืบค้นต้องการคำขอแบ็กเอนด์จำนวนมากเพื่อจัดการ เราขอแนะนำให้ส่งการสืบค้นน้อยลง หรือลดความซับซ้อนของการสืบค้นด้วยช่วงเวลาที่แคบลง, ID อ็อบเจ็กต์ที่น้อยลง เป็นต้น

complexity_score

ปัจจัยที่สองในการจำกัดผลลัพธ์ complexity_score ค่าที่รองรับ ได้แก่

  • actual_scorecomplexity_score ที่แท้จริงของแอพนี้ โดยมีค่าเป็น 0.1
  • limit—ขีดจำกัด complexity_score ของแอพนี้ โดยมีค่าเป็น 0.01
  • more_infocomplexity_score สูงหมายความว่าการสืบค้นของคุณซับซ้อนมากและส่งคำขอข้อมูลจำนวนมาก เราขอแนะนำให้ลดความซับซ้อนของการสืบค้นด้วยช่วงเวลาที่สั้นลง, ID อ็อบเจ็กต์, เกณฑ์ชี้วัดหรือข้อมูลแยกย่อยที่น้อยลง เป็นต้น รวมถึงแบ่งการสืบค้นขนาดใหญ่และซับซ้อนออกเป็นการสืบค้นที่มีขนาดเล็กลงหลายๆ รายการและกระจายออกจากกัน

หลักปฏิบัติที่ดีที่สุด

  • เมื่อถึงขีดจำกัดแล้ว ให้หยุดการเรียกใช้ API การดำเนินการเรียกใช้ต่อไปจะเพิ่มจำนวนการเรียกใช้ของคุณต่อไปด้วย ซึ่งจะเพิ่มเวลาก่อนที่การเรียกใช้จะสำเร็จอีกครั้ง
  • กระจายการสืบค้นให้เท่าๆ กันเพื่อหลีกเลี่ยงจำนวนการรับส่งข้อมูลที่พุ่งสูงขึ้นฉับพลัน
  • ใช้ตัวกรองเพื่อจำกัดขนาดการตอบกลับข้อมูล และหลีกเลี่ยงการเรียกใช้ซึ่งส่งคำขอข้อมูลที่ซ้อนทับกัน
  • ตรวจสอบส่วนหัวของ HTTP X-App-Usage เพื่อดูว่าแอพของคุณใกล้ถึงขีดจำกัดมากน้อยเพียงใด และเมื่อใดจะสามารถดำเนินการเรียกใช้ต่อได้หากถึงขีดจำกัดแล้ว
  • หากผู้ใช้ถูกจำกัดผลลัพธ์ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอพของคุณไม่ใช่สาเหตุ และลดการเรียกใช้ของผู้ใช้หรือกระจายการเรียกใช้ของผู้ใช้ให้เท่าๆ กันมากยิ่งขึ้นเมื่อนานวันไป

ขีดจำกัดอัตราของกรณีการใช้งานทางธุรกิจ

คำขอ API การตลาดและคำขอ API เพจทั้งหมดที่ส่งด้วยระบบหรือโทเค็นการเข้าถึงเพจจะมีขีดจำกัดอัตราของกรณีการใช้งานทางธุรกิจ (BUC) และจะขึ้นอยู่กับปลายทางที่คุณกำลังสืบค้น

สำหรับ API การตลาด ขีดจำกัดอัตราจะใช้กับบัญชีโฆษณาในกรณีการใช้งานทางธุรกิจเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ตำแหน่งข้อมูลทั้งหมดที่มีกรณีการใช้งานทางธุรกิจสำหรับการจัดการโฆษณา จะใช้โควต้ารวมเดียวกันในบัญชีโฆษณาเดียวกัน หากตำแหน่งข้อมูลใดส่งคำขอ API มากและทำให้เกิดภาวะคอขวด ตำแหน่งข้อมูลอื่นที่กำหนดค่าด้วยกรณีการใช้งานทางธุรกิจเดียวกันจะได้รับข้อผิดพลาดด้านการจำกัดอัตราด้วยเช่นกัน โควต้าจะขึ้นอยู่กับระดับสิทธิ์การเข้าถึง API การตลาดของแอพ ระดับ API การตลาดที่มีสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานจะมีโควต้ามากกว่าระดับ API การตลาดที่มีสิทธิ์การเข้าถึงสำหรับการพัฒนา โดยค่าเริ่มต้นแล้ว แอพใหม่จะอยู่ในระดับการพัฒนา หากคุณต้องการอัพเกรดเพื่อรับโควต้าขีดจำกัดอัตราที่มากขึ้น ให้อัพเกรดสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณาเป็นสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงในส่วนการตรวจสอบแอพ

ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา

คำขอที่แอพของคุณส่งให้กับ API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณาจะนับรวมในเกณฑ์ขีดจำกัดอัตราของแอพเช่นกัน เช่น จำนวนการเรียก เวลา CPU รวม และเวลาโดยรวม จำนวนการเรียกใช้ของแอพคือจำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

สำหรับแอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา:

Calls within one hour = 600 + 400 * Number of Active ads - 0.001 * User Errors

สำหรับแอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงสำหรับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา:

Calls within one hour = 190000 + 400 * Number of Active ads - 0.001 * User Errors

Number of Active ads คือจำนวนโฆษณาที่กำลังเผยแพร่อยู่ในขณะนี้ต่อบัญชีโฆษณา User Errors คือจำนวนข้อผิดพลาดที่ได้รับเมื่อเรียกใช้ API หากต้องการมีขีดจำกัดอัตราที่สูงขึ้น คุณสามารถสมัครใช้ฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณาได้

การจำกัดอัตราอาจขึ้นอยู่กับเวลา CPU รวมและเวลารวมตามจริงในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ตรวจสอบส่วนหัว HTTP total_time ในส่วน X-Business-Use-Case และ total_cputime

หากคุณได้รับข้อผิดพลาดในการจำกัดอัตรา คุณยังสามารถดู estimated_time_to_regain_access ในส่วนหัว X-Business-Use-Case เพื่อดูเวลาปิดกั้นโดยประมาณได้ด้วย

การจัดการโฆษณา

คำขอที่แอพของคุณส่งให้กับ API การจัดการโฆษณาจะนับรวมในเกณฑ์ขีดจำกัดอัตราของแอพเช่นกัน เช่น จำนวนการเรียก เวลา CPU รวม และเวลาโดยรวม จำนวนการเรียกใช้ของแอพคือจำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

สำหรับแอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา:

Calls within one hour = 300 + 40 * Number of Active ads

สำหรับแอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงสำหรับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา:

Calls within one hour = 100000 + 40 * Number of Active ads

Number of Active Ads คือจำนวนโฆษณาของแต่ละบัญชีโฆษณา

การจำกัดอัตราอาจขึ้นอยู่กับเวลา CPU รวมและเวลารวมตามจริงในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ตรวจสอบส่วนหัว HTTP total_time ในส่วน X-Business-Use-Case และ total_cputime

หากคุณได้รับข้อผิดพลาดในการจำกัดอัตรา คุณยังสามารถดู estimated_time_to_regain_access ในส่วนหัว X-Business-Use-Case เพื่อดูเวลาปิดกั้นโดยประมาณได้ด้วย

แค็ตตาล็อก

แบตช์แค็ตตาล็อก

คำขอที่แอพของคุณส่งจะนับรวมอยู่ในเกณฑ์ขีดจำกัดอัตราด้วย เช่น จำนวนการเรียก, เวลา CPU รวม และเวลาโดยรวมที่แอพของคุณจะส่งคำขอได้ในระยะเวลา 1 ชั่วโมงติดต่อกันในแต่ละ ID แค็ตตาล็อก และระบบจะคำนวณดังนี้

Calls within one hour = 200 + 200 * log2(unique users)

Unique users คือจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันของธุรกิจ (ในทุกแค็ตตาล็อก) ที่มีความประสงค์ภายในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ยิ่งผู้ใช้เห็นสินค้าจากแค็ตตาล็อกของคุณมากเท่าใด โควต้าการเรียกใช้ที่ระบบจัดสรรให้ก็จะยิ่งมากขึ้น

ประเภทการเรียกใช้ ตำแหน่งข้อมูล

POST

/{catalog_id}/items_batch

POST

/{catalog_id}/localized_items_batch

POST

/{catalog_id}/batch

การจัดการแค็ตตาล็อก

คำขอที่ส่งจากแอพของคุณจะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ที่แอพของคุณสามารถทำได้ในระยะเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่องต่อ ID แค็ตตาล็อกแต่ละรายการ และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

Calls within one hour = 20,000 + 20,000 * log2(unique users)

Unique users คือจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันของธุรกิจ (ในทุกแค็ตตาล็อก) ที่มีความประสงค์ภายในช่วง 28 วันที่ผ่านมา ยิ่งผู้ใช้เห็นสินค้าจากแค็ตตาล็อกของคุณมากเท่าใด โควต้าการเรียกใช้ที่ระบบจัดสรรให้ก็จะยิ่งมากขึ้น

สูตรนี้จะใช้กับตำแหน่งข้อมูลแค็ตตาล็อกต่างๆ

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเรียกดูการใช้งานอัตราในปัจจุบันของคุณที่ส่วนหัว

การจำกัดอัตราอาจขึ้นอยู่กับเวลา CPU รวมและเวลารวมตามจริงในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ตรวจสอบส่วนหัว HTTP total_time ในส่วน X-Business-Use-Case และ total_cputime

หากคุณได้รับข้อผิดพลาดในการจำกัดอัตรา คุณยังสามารถดู estimated_time_to_regain_access ในส่วนหัว X-Business-Use-Case เพื่อดูเวลาปิดกั้นโดยประมาณได้ด้วย

กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง

คำขอที่แอพของคุณส่งให้กับ API กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจะนับรวมในเกณฑ์ขีดจำกัดอัตราของแอพเช่นกัน เช่น จำนวนการเรียก เวลา CPU รวม และเวลาโดยรวม จำนวนการเรียกใช้ของแอพ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้ แต่จะไม่เกิน 700,000

สำหรับแอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา:

Calls within one hour = 5000 + 40 * Number of Active Custom Audiences

สำหรับแอพที่มีสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงสำหรับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา:

Calls within one hour = 190000 + 40 * Number of Active Custom Audiences

Number of Active Custom Audiences คือจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่กำลังใช้งานอยู่สำหรับแต่ละบัญชีโฆษณา

การจำกัดอัตราอาจขึ้นอยู่กับเวลา CPU รวมและเวลารวมตามจริงในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ให้ตรวจสอบส่วนหัว HTTP total_time ในส่วน X-Business-Use-Case และ total_cputime

หากคุณได้รับข้อผิดพลาดในการจำกัดอัตรา คุณยังสามารถดู estimated_time_to_regain_access ในส่วนหัว X-Business-Use-Case เพื่อดูเวลาปิดกั้นโดยประมาณได้ด้วย

API กราฟของ Instagram

การเรียกใช้ไปยัง API กราฟของ Instagram จะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ของแอพที่เรียกใช้ จำนวนการเรียกใช้ของแอพจะไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละแอพและคู่ผู้ใช้แอพ รวมถึงเป็นจำนวนการเรียกใช้ที่แอพทำได้ในระยะเวลาภายใน 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง โดยมีการคำนวณดังต่อไปนี้

Calls within 24 hours = 4800 * Number of Impressions

Number of Impressions คือจำนวนครั้งที่เนื้อหาใดก็ตามจากบัญชี Instagram ของผู้ใช้แอพถูกป้อนเข้าสู่หน้าจอของบุคคลหนึ่งภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หมายเหตุ

การรวบรวมข้อมูลลูกค้า

คำขอที่ส่งจากแอพของคุณไปยัง API การรวบรวมข้อมูลลูกค้าจะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ของแอพ จำนวนการเรียกใช้ของแอพ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

Calls within 24 hours = 4800 * Leads Generated

จำนวนของ "Leads Generated" คือ จำนวนข้อมูลลูกค้าที่รวบรวมได้ต่อเพจสำหรับบัญชีโฆษณานี้ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา

แพลตฟอร์ม Messenger

ขีดจำกัดอัตราสำหรับแพลตฟอร์ม Messenger จะขึ้นอยู่กับ API ที่ใช้ และในบางกรณีก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาข้อความ

Messenger API

คำขอที่ส่งจากแอพของคุณจะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ที่แอพทำได้ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

จำนวนการเรียกใช้ภายใน 24 ชั่วโมง = 200 * จำนวนผู้ใช้ที่มีส่วนร่วม

จำนวนผู้ใช้ที่มีส่วนร่วม คือ จำนวนผู้ใช้ที่ธุรกิจสามารถส่งข้อความถึงได้ผ่านทาง Messenger

Messenger API สำหรับ Instagram

คำขอที่ส่งจากแอพของคุณจะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ที่แอพทำได้ต่อบัญชีมืออาชีพบน Instagram และ API ที่ใช้

API คอนเวอร์ชั่น

  • แอพของคุณสามารถเรียกใช้ได้ 2 ครั้งต่อวินาทีต่อบัญชีมืออาชีพบน Instagram

API การส่ง

  • แอพของคุณสามารถเรียกใช้ได้ 100 ครั้งต่อวินาทีต่อบัญชีมืออาชีพบน Instagram สำหรับข้อความที่มีตัวอักษร, ลิงก์, ความรู้สึก และสติกเกอร์
  • แอพของคุณสามารถเรียกใช้ได้ 10 ครั้งต่อวินาทีต่อบัญชีมืออาชีพบน Instagram สำหรับข้อความที่มีเนื้อหาเสียงหรือวิดีโอ

API ข้อความตอบกลับแบบส่วนตัว

  • แอพของคุณสามารถเรียกใช้ได้ 100 ครั้งต่อวินาทีต่อบัญชีมืออาชีพบน Instagram สำหรับข้อความตอบกลับแบบส่วนตัวไปยังความคิดเห็นบน Instagram Live
  • แอพของคุณสามารถเรียกใช้ได้ 750 ครั้งต่อชั่วโมงต่อบัญชีมืออาชีพบน Instagram สำหรับข้อความตอบกลับแบบส่วนตัวไปยังความคิดเห็นบนโพสต์และคลิป Reels บน Instagram

เพจ

ขีดจำกัดอัตราของเพจอาจใช้ตรรกะขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์มหรือของ BUC โดยขึ้นอยู่กับประเภทของโทเค็นที่ใช้ การเรียกใช้ API เพจใดก็ตามที่ดำเนินการโดยใช้เพจหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบจะใช้การคำนวณขีดจำกัดอัตราด้านล่าง การเรียกใช้ใดก็ตามที่ดำเนินการด้วยแอพพลิเคชั่นหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้จะขึ้นอยู่กับขีดจำกัดอัตราของแอพพลิเคชั่นหรือของผู้ใช้

คำขอที่แอพของคุณส่งไปยัง API เพจโดยใช้โทเค็นการเข้าถึงเพจหรือโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบจะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ของแอพ จำนวนการเรียกใช้ของแอพ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

Calls within 24 hours = 4800 * Number of Engaged Users

Number of Engaged Users คือจำนวนผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมกับเพจต่อ 24 ชั่วโมง

คำขอที่ส่งจากแอพของคุณไปยัง API เพจโดยใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้หรือโทเค็นการเข้าถึงแอพจะเป็นไปตามตรรกะขีดจำกัดอัตราของแพลตฟอร์ม

เราขอแนะนำให้ใช้โทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้ระบบ เพื่อหลีกเลี่ยงประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการจำกัดอัตราเมื่อใช้ฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงเนื้อหาแบบสาธารณะของเพจ

การจัดการเอ็ฟเฟ็กต์การค้าของ Spark AR

คำขอที่แอพของคุณส่งไปยังตำแหน่งข้อมูลการค้าใดก็ตามจะนับรวมอยู่ในจำนวนการเรียกใช้ของแอพ จำนวนการเรียกใช้ของแอพ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง และมีการคำนวณดังต่อไปนี้

Calls within one hour = 200 + 40 * Number of Catalogs

"Number of Catalogs" คือจำนวนรวมของแค็ตตาล็อกในทุกบัญชีการค้าที่แอพของคุณจัดการอยู่

API การจัดการ WhatsApp Business

คำขอที่ส่งจากแอพของคุณไปยัง API การจัดการ WhatsApp Business จะนับรวมอยู่ในจำนวนของแอพ จำนวนการเรียกใช้ของแอพ คือ จำนวนการเรียกใช้ที่แอพสามารถทำได้ในระยะเวลา 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในกรณีของ API การจัดการ WhatsApp Business ดังต่อไปนี้ แอพของคุณสามารถเรียกใช้ได้ 200 ครั้งต่อชั่วโมง ต่อแอพ ต่อบัญชี WhatsApp Business (WABA) โดยค่าเริ่มต้น ส่วนในกรณีของ WABA ที่ใช้งานอยู่และมีหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้อย่างน้อย 1 หมายเลข แอพของคุณจะเรียกใช้ได้ 5,000 ครั้งต่อชั่วโมง ต่อแอพ ต่อ WABA ที่ใช้งานอยู่
ประเภทการเรียกใช้ ตำแหน่งข้อมูล

GET

/{whatsapp-business-account-id}

GET, POST และ DELETE

/{whatsapp-business-account-id}/assigned_users

GET

/{whatsapp-business-account-id}/phone_numbers

GET, POST และ DELETE

/{whatsapp-business-account-id}/message_templates

GET, POST และ DELETE

/{whatsapp-business-account-id}/subscribed_apps

GET

/{whatsapp-business-account-to-number-current-status-id}

ในกรณีของ API วงเงินเครดิตต่อไปนี้ แอพของคุณจะเรียกใช้ได้ 5,000 ครั้งต่อชั่วโมง ต่อแอพ
ประเภทการเรียกใช้ ตำแหน่งข้อมูล

GET

/{business-id}/extendedcredits

POST

/{extended-credit-id}/whatsapp_credit_sharing_and_attach

GET และ DELETE

/{allocation-config-id}

GET

/{extended-credit-id}/owning_credit_allocation_configs

ในการหลีกเลี่ยงไม่ให้ถึงขีดจำกัดอัตรา เราขอแนะนำให้ใช้ Webhooks เพื่อคอยติดตามการอัพเดตสถานะสำหรับเทมเพลตข้อความ หมายเลขโทรศัพท์ และ WABA

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเรียกดูการใช้อัตราในปัจจุบันของคุณที่ส่วนหัว

ส่วนหัว

การตอบกลับ API ทั้งหมดซึ่งดำเนินการโดยแอพของคุณที่ถูกจำกัดอัตราจากการใช้ตรรกะ BUC ประกอบด้วย X-Business-Use-Case-Usage (สำหรับการเรียกใช้ API โฆษณาเวอร์ชั่น 3.3 และเก่ากว่า) ส่วนหัวของ HTTP ที่มีสตริงรูปแบบ JSON ที่อธิบายการใช้งานขีดจำกัดอัตราของแอพพลิเคชั่นในปัจจุบัน โดยส่วนหัวนี้สามารถส่งคืนอ็อบเจ็กต์ได้สูงสุด 32 รายการในการเรียกใช้หนึ่งครั้ง

เนื้อหาของส่วนหัว X-Business-Use-Case Usage

รหัสข้อผิดพลาดคำอธิบายค่า

business-id

ID ของธุรกิจที่เชื่อมโยงกับโทเค็นที่ดำเนินการเรียกใช้ API

call_count

จำนวนเต็มที่แสดงเปอร์เซ็นต์การเรียกใช้ที่อนุญาตจากแอพของคุณในระยะเวลาภายใน 1 ชั่วโมงต่อเนื่อง

estimated_time_to_regain_access

เวลาในหน่วยนาทีที่จนกว่าการเรียกใช้จะไม่ถูกจำกัดผลลัพธ์อีกต่อไป

total_cputime

จำนวนเต็มที่แสดงเปอร์เซ็นต์ของเวลา CPU ซึ่งจัดสรรไว้สำหรับการประมวลผลการสืบค้น

total_time

จำนวนเต็มที่แสดงเปอร์เซ็นต์ของเวลาโดยรวม ซึ่งจัดสรรไว้สำหรับการประมวลผลการสืบค้น

type

ประเภทของขีดจำกัดอัตราที่ใช้ โดยค่าสามารถเป็นค่าใดค่าหนึ่งดังต่อไปนี้ ads_insights, ads_management, custom_audience, instagram, leadgen, messenger หรือ pages

ads_api_access_tier

สำหรับประเภท ads_insights และ ads_management เท่านั้น ระดับจะเป็นตัวระบุสิทธิ์ของแอพในการเข้าใช้งาน API การตลาด ตามค่าเริ่มเต้นแล้ว แอพจะอยู่ในระดับ development_access โดย Standard_access จะให้การจำกัดอัตราที่ต่ำกว่า หากต้องการขีดจำกัดอัตราที่สูงขึ้นและขึ้นถึงระดับมาตรฐาน คุณต้องสมัครรับ "สิทธิ์การเข้าถึงระดับสูง" กับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา

เวลา CPU โดยรวม

จำนวนเวลา CPU ที่คำขอใช้ในการประมวลผล เมื่อ total_cputime ถึง 100 การเรียกใช้อาจถูกจำกัดผลลัพธ์

เวลาโดยรวม

ระยะเวลาที่คำขอใช้ในการประมวลผล เมื่อ total_time ถึง 100 การเรียกใช้อาจถูกจำกัดผลลัพธ์

ระดับการเข้าถึง API โฆษณา

สำหรับประเภท ads_insights และ ads_management เท่านั้น ระดับจะเป็นตัวระบุสิทธิ์ของแอพในการเข้าใช้งาน API การตลาด ตามค่าเริ่มเต้นแล้ว แอพจะอยู่ในระดับ development_access โดย Standard_access จะให้การจำกัดอัตราที่ต่ำกว่า หากต้องการขีดจำกัดอัตราที่สูงขึ้นและขึ้นถึงระดับมาตรฐาน คุณต้องสมัครรับ "สิทธิ์การเข้าถึงระดับสูง" กับฟีเจอร์สิทธิ์การเข้าถึงแบบมาตรฐานสำหรับการจัดการโฆษณา

ตัวอย่างค่าของส่วนหัว X-Business-Use-Case-Usage

x-business-use-case-usage: {
    "{business-object-id}": [
        {
            "type": "{rate-limit-type}",           //Type of BUC rate limit logic being applied.
            "call_count": 100,                     //Percentage of calls made. 
            "total_cputime": 25,                   //Percentage of the total CPU time that has been used.
            "total_time": 25,                      //Percentage of the total time that has been used.   
            "estimated_time_to_regain_access": 19,  //Time in minutes to regain access.
            "ads_api_access_tier": "standard_access"  //Tiers allows your app to access the Marketing API. standard_access enables lower rate limiting.
        }
    ],      
    "66782684": [
        {
            "type": "ads_management",
            "call_count": 95,
            "total_cputime": 20,
            "total_time": 20,
            "estimated_time_to_regain_access": 0,
            "ads_api_access_tier": "development_access" 
        }
    ],
    "10153848260347724": [
        {
            "type": "ads_insights",
            "call_count": 97,
            "total_cputime": 23,
            "total_time": 23,
            "estimated_time_to_regain_access": 0,
            "ads_api_access_tier": "development_access"
        }
    ],
    "10153848260347724": [
        {
            "type": "pages",
            "call_count": 97,
            "total_cputime": 23,
            "total_time": 23,
            "estimated_time_to_regain_access": 0
        }
    ],
...
}

รหัสข้อผิดพลาด

เมื่อแอพของคุณถึงขีดจำกัดอัตราของกรณีการใช้งานทางธุรกิจ คำขอที่ส่งจากแอพของคุณในภายหลังจะไม่สำเร็จ และ API จะตอบกลับด้วยรหัสข้อผิดพลาด

รหัสข้อผิดพลาดประเภทขีดจำกัดอัตรา BUC

error code 80000, error subcode 2446079

ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา

error code 80004, error subcode 2446079

การจัดการโฆษณา

error code 80003, error subcode 2446079

กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง

error code 80002

Instagram

error code 80005

การรวบรวมข้อมูลลูกค้า

error code 80006

Messenger

error code 32

การเรียกใช้เพจด้วยโทเค็นการเข้าถึงผู้ใช้

error code 80001

การเรียกใช้เพจด้วยโทเค็นการเข้าถึงเพจหรือผู้ใช้ระบบ

error code 17, error subcode 2446079

API โฆษณาเวอร์ชั่น 3.3 และเก่ากว่า ซึ่งไม่รวมข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา

error code 80008

API การจัดการ WhatsApp Business

error code 80014

แบตช์แค็ตตาล็อก

error code 80009

การจัดการแค็ตตาล็อก

ตัวอย่างข้อความรหัสข้อผิดพลาด

{   
"error": {      
    "message": "(#80001) There have been too many calls to this Page account. Wait a bit and try again. For more info, please refer to https://developers.facebook.com/docs/graph-api/overview/rate-limiting.",      
    "type": "OAuthException",      
    "code": 80001,      
    "fbtrace_id": "AmFGcW_3hwDB7qFbl_QdebZ"   
    }
}

หลักปฏิบัติที่ดีที่สุด

  • เมื่อถึงขีดจำกัดแล้ว ให้หยุดการเรียกใช้ API การดำเนินการเรียกใช้ต่อไปจะเพิ่มจำนวนการเรียกใช้ของคุณต่อไปด้วย ซึ่งจะเพิ่มเวลาก่อนที่การเรียกใช้จะสำเร็จอีกครั้ง
  • ตรวจสอบส่วนหัวของ HTTP X-Business-Use-Case-Usage เพื่อดูว่าบัญชีโฆษณาของคุณใกล้ถึงขีดจำกัดมากน้อยเพียงใด และเมื่อใดจะสามารถดำเนินการเรียกใช้ต่อได้
  • ตรวจสอบยืนยันรหัสข้อผิดพลาดและปลายทาง API เพื่อยืนยันประเภทการจำกัดผลลัพธ์
  • สลับไปใช้บัญชีโฆษณาอื่น แล้วกลับมาใช้บัญชีนี้ในภายหลัง
  • ควรสร้างโฆษณาใหม่มากกว่าเปลี่ยนโฆษณาที่มีอยู่
  • กระจายการสืบค้นให้เท่าๆ กันระหว่าง 2 ช่วงเวลา เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลที่พุ่งสูงขึ้นฉับพลัน
  • ใช้ตัวกรองเพื่อจำกัดขนาดการตอบกลับข้อมูล และหลีกเลี่ยงการเรียกใช้ซึ่งส่งคำขอข้อมูลที่ซ้อนทับกัน

คำถามที่พบบ่อย

เราคัดเลือกการเรียกใช้ API อย่างไร

จำนวนการเรียกใช้ทั้งหมดจะนับรวมกับขีดจำกัดอัตรา ไม่ใช่แค่คำขอ API เพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น คุณสามารถส่งคำขอ API เดียวโดยระบุหลาย ID ได้ แต่ ID แต่ละรายการจะนับเป็นการเรียกใช้ API หนึ่งครั้ง

ตารางต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงแนวคิดดังกล่าว

ตัวอย่างคำขอ จำนวนการเรียกใช้ API

GET https://graph.facebook.com/photos?ids=4

GET https://graph.facebook.com/photos?ids=5

GET https://graph.facebook.com/photos?ids=6

3

GET https://graph.facebook.com/photos?ids=4,5,6

3

เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ระบุหลาย ID ในคำขอ API เดียวเมื่อเป็นไปได้ เนื่องจากวิธีนี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการตอบกลับของ API

ฉันกำลังสร้างตัวดึงข้อมูล มีอะไรอีกบ้างไหมที่ฉันควรกังวล

หากคุณกำลังสร้างบริการที่ดึงข้อมูล โปรดอ่านข้อกำหนดในการดึงข้อมูลของเรา