ในขณะนี้ Audience Network มีเพียงการประมูลเท่านั้น
ขณะนี้ Audience Network ใช้เพียงการประมูลเพื่อแสดงโฆษณาในแอพ iOS และ Android เท่านั้น คุณจำเป็นจะต้องย้ายแอพของคุณจากการนำเสนอโฆษณาแบบลดหลั่นไปใช้การประมูล จึงจะสามารถสร้างรายได้ด้วย Audience Network ได้
โปรดอ่านเพิ่มเติมจากบล็อกโพสต์ Audience Network ของเรา
Meta Audience Network ช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้จากแอพ Android ของคุณด้วยโฆษณาบน Facebook ได้ โดยคู่มือนี้จะอธิบายถึงการผสานการทำงาน SDK ทุกขั้นตอนให้คุณทราบ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ติดตั้ง Android Studio แล้ว
โปรดดูคำถามที่พบบ่อยสำหรับเวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติการขั้นต่ำที่ Audience Network SDK สนับสนุน
คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ได้หากคุณมีโปรเจ็กต์ที่ต้องการผสานการทำงาน Audience Network เข้าไปอยู่แล้ว
เริ่มใช้งาน Android Studio และเลือก "Start a new Android Studio project" (เริ่มโปรเจ็กต์ Android Studio ใหม่)
ตั้งชื่อโปรเจ็กต์ของคุณและระบุโดเมนของบริษัท
"Package name" (ชื่อแพ็คเกจ) จะเป็นตัวระบุหากคุณตัดสินใจที่จะอัพโหลดแอพของคุณลงใน Google Play Store
ตั้งค่าเวอร์ชั่น Android SDK ขั้นต่ำ โดย Audience Network กำหนดให้ใช้ API 15
ขึ้นไป
แต่เราจะใช้ API 21
เพื่อประโยชน์ของตัวอย่างเหล่านี้
เพิ่ม "Empty Activity" (กิจกรรมว่างเปล่า) ลงในโปรเจ็กต์ของคุณ
ตั้งชื่อกิจกรรมเริ่มต้นและคลิก "Finish" (เสร็จสิ้น)
Audience Network SDK เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook SDK ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อดาวน์โหลดและรวมส่วนดังกล่าวไว้ในโปรเจ็กต์ของคุณ
เพิ่มคำสั่งคอมไพล์ต่อไปนี้ใน build.gradle ระดับแอพ (ไม่ใช่โปรเจ็กต์!) เพื่อใช้ Audience Network SDK ล่าสุดดังนี้
dependencies { compile 'com.facebook.android:audience-network-sdk:6.+' }
หากมีปัญหาขณะแก้ไข Audience Network SDK ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ซิงค์ไฟล์ Gradle ของคุณแล้วและลองเริ่มการทำงานของ Android Studio ใหม่อีกครั้ง
หากใช้ Intellij IDEA หรือ Eclipse ให้ดาวน์โหลดและแตกไฟล์ Audience Network SDK สำหรับ Android ในโฟลเดอร์ AudienceNetwork/bin
ให้คัดลอกไฟล์ AudienceNetwork.aar
และวางไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ /libs
ในโปรเจ็กต์ที่คุณอาจต้องสร้างไดเรกทอรีหากยังไม่มี จากนั้น เพิ่มบรรทัดต่อไปนี้ใน build.gradle ของแอพ
repositories { flatDir { dirs 'libs' } } dependencies { ... compile(name: 'AudienceNetwork', ext: 'aar') }
หากใช้ AudienceNetwork.jar
สำหรับโปรเจ็กต์ของคุณ ในโฟลเดอร์ AudienceNetwork/bin
ให้เปลี่ยนชื่อ AudienceNetwork.aar
เป็น AudienceNetwork.zip
แล้วแตกไฟล์ classes.jar
และเปลี่ยนชื่อเป็น AudienceNetwork.jar
จากนั้นวางไฟล์ AudienceNetwork.jar
ไว้ในโฟลเดอร์ /libs
ในโปรเจ็กต์ที่คุณอาจต้องสร้างไดเรกทอรีหากยังไม่มี ตรวจสอบให้แน่ใจว่า UI ของ IDE แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ หากคุณใช้ Intellij IDEA หรือ Eclipse ให้คลิกขวาที่ไฟล์ libs/AudienceNetwork.jar
และเลือก "Add as Library" (เพิ่มเป็นไลบรารี)
แม้ว่าจะไม่จำเป็น แต่เราขอแนะนำให้คุณตั้งค่าโปรเจ็กต์ของคุณให้ทำงานกับบริการ Google Play ตามที่ระบุไว้ที่นี่ วิธีนี้จะช่วยให้ Audience Network SDK สามารถดึงข้อมูล ID การโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อผสานการทำงาน Audience Network SDK คุณสามารถใช้การตั้งค่าโหมดข้อผิดพลาดในการผสานการทำงานเพื่อตรวจสอบยืนยันว่าการผสานการทำงานของคุณทำงานตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีนี้จะช่วยให้คุณควบคุมลักษณะการทำงานของ SDK ได้เมื่อมีการใช้งานไม่ถูกต้อง
INTEGRATION_ERROR_CRASH_DEBUG_MODE
: แอพจะเกิดข้อขัดข้องหากบิลด์ของคุณมี FLAG_DEBUGGABLE บน Android มิฉะนั้น ระบบจะใช้ INTEGRATION_ERROR_CALLBACK_MODE
(แนะนำเมื่อทำการทดสอบ) INTEGRATION_ERROR_CALLBACK_MODE
: แอพจะเรียกใช้การเรียกกลับ AdListener.onError(Ad, AdError)
หากพบข้อผิดพลาดในการผสานการทำงาน// Example for setting the SDK to crash when in debug mode AdSettings.setIntegrationErrorMode(INTEGRATION_ERROR_CRASH_DEBUG_MODE);
สำรวจตัวอย่างโค้ด Audience Network Android ของเราได้ใน Github นำเข้าโปรเจ็กต์ไปยัง IDE ของคุณ และใช้งานบนอุปกรณ์หรือบนตัวจำลองแบบ
เมื่อคุณพร้อมที่จะเผยแพร่สดและสร้างรายได้จากแอพของคุณแล้ว ให้ส่งแอพของคุณเพื่อการตรวจพิจารณาหลังตรวจสอบแล้วว่าเป็นไปตามนโยบาย Audience Network และมาตรฐานชุมชนของ Facebook