การผสานการทำงานระหว่างการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook กับ API การรายงานของ Audience Network เวอร์ชั่น 2

การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook เป็นวิธีการใหม่ที่ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูล API การรายงานของ Audience Network ได้ โดยจะมีการนำแนวทางนี้มาใช้แทนโทเค็นของผู้ใช้ระบบแบบคัดลอกและวางรูปแบบเก่าจากอินเทอร์เฟซตัวจัดการการสร้างรายได้ แนวทางนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าในการให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลของคุณ เนื่องจากโทเค็นของตัวจัดการการสร้างรายได้มีความเสี่ยงที่จะถูกเปิดเผยนอกธุรกิจ

เอกสารฉบับนี้มุ่งเน้นให้คำแนะนำสำหรับการผสานการทำงานกับ API การรายงานโดยตรง, พาร์ทเนอร์ด้านการวัดผลบนอุปกรณ์มือถือ, พาร์ทเนอร์ด้านสื่อกลางโฆษณา และพาร์ทเนอร์อื่นๆ ของ Facebook ที่ต้องการจะเข้าถึงข้อมูล API การรายงานในนามผู้เผยแพร่

ฉันใช้พาร์ทเนอร์จากภายนอกในการรับข้อมูล API การรายงาน

หากคุณใช้พาร์ทเนอร์ที่มีอยู่แล้ว (พาร์ทเนอร์ด้านการวัดผลบนอุปกรณ์มือถือหรือพาร์ทเนอร์สื่อกลางโฆษณา) คุณไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดเพิ่มเติม ทั้งนี้ควรตรวจสอบว่าพาร์ทเนอร์ของคุณได้ผสานการทำงานของขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ไว้แล้ว คุณจะต้องคลิกที่ตัวเลือก "การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook" และเลือกคุณสมบัติที่ต้องการให้สิทธิ์การเข้าถึงด้วยโทเค็นที่คุณจะสร้างขึ้น

หากคุณเลือกคุณสมบัติ "ทั้งหมด" โทเค็นจะให้สิทธิ์การเข้าถึงคุณสมบัติทั้งหมดภายในธุรกิจ ตราบเท่าที่ผู้ใช้ที่สร้างโทเค็นดังกล่าวมีสิทธิ์การเข้าถึงคุณสมบัติในตัวจัดการธุรกิจได้

สิทธิ์การอนุญาต

หากคุณจำเป็นต้องใช้ API การรายงานโดยตรง ก่อนอื่นคุณต้องสร้างแอพ Facebook และขอรับสิทธิ์การอนุญาตที่จำเป็น แอพของคุณต้องใช้สิทธิ์การอนุญาต read_audience_network_insights เพื่อที่จะเข้าถึงข้อมูล API การรายงานของ Audience Network ในการรับสิทธิ์การอนุญาตนี้สำหรับแอพของคุณ ธุรกิจจำเป็นต้องเริ่มต้นใช้งานใน Audience Network แล้ว

• เมื่อเริ่มต้นใช้งานในตัวจัดการการสร้างรายได้แล้ว ให้ไปที่เพจผู้พัฒนา Facebook และเริ่มสร้างแอพพลิเคชั่นธุรกิจใหม่

• เลือกธุรกิจที่คุณเพิ่งสร้างจากช่องบัญชีธุรกิจ

หลังจากสร้างแอพแล้ว คุณจะต้องลิงก์แอพดังกล่าวกับบัญชีตัวจัดการการสร้างรายได้ โดยเลือก "Audience Network" แล้วคลิกปุ่ม "ตั้งค่า" คุณจะต้องเลือกบัญชีตัวจัดการการสร้างรายได้ที่ต้องการลิงก์

นอกจากนี้ คุณสามารถลิงก์โดยไปที่ developers.facebook.com/apps แล้วเลือกแอพที่คุณเพิ่งสร้างได้เช่นกัน

ตอนนี้แอพพลิเคชั่นของคุณได้เริ่มต้นใช้งานใน Audience Network และสามารถใช้สิทธิ์การอนุญาต read_audience_network_insights ได้แล้ว หากคุณไม่เห็น read_audience_network_insights ให้ตรวจสอบว่าแอพมีสิทธิ์เข้าถึงบัญชีธุรกิจตัวจัดการการสร้างรายได้ของคุณ

หากคุณได้รับ read_insights permission กับการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook มาก่อนหน้านี้ สิทธิ์การอนุญาตดังกล่าวจะยังคงใช้งานได้ แต่เราขอแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้สิทธิ์การอนุญาต read_audience_network_insights แทน

วิธีการที่คุณเข้าถึง API การรายงานจะแตกต่างกันไปตามประเภทของการผสานการทำงานที่คุณมีอยู่ โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำที่เหมาะกับกรณีของคุณ ดังนี้

• การผสานการทำงานกับ API โดยตรงโดยไม่มีอินเทอร์เฟซ UI
• การผสานการทำงานกับ API โดยตรงโดยมีอินเทอร์เฟซ UI

การผสานการทำงานกับ API โดยตรงโดยไม่มีอินเทอร์เฟซ UI

หากคุณมีการผสานการทำงานกับ API การรายงานแบบกำหนดเอง (โดยตรง) โดยไม่มีอินเทอร์เฟซส่วนหน้า/UI และคุณใช้เพื่อสืบค้นข้อมูลสำหรับธุรกิจของคุณเท่านั้น คุณสามารถใช้คำแนะนำต่อไปนี้เพื่อเข้าถึง API การรายงานได้

สร้างโทเค็นของผู้ใช้ผ่าน Graph API Explorer

1. หากคุณใช้งาน "API การตลาด" ในแอพของคุณเองอยู่ก่อนแล้ว ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป แต่หากไม่ได้ใช้งาน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการรับสิทธิ์การอนุญาต read_audience_network_insights
2. ไปที่ Graph API explorer
3. เลือกแอพของคุณ
4. เลือกสิทธิ์การอนุญาต "read_audience_network_insights" (ซึ่งอยู่ในสิทธิ์การอนุญาต > หน้ากลุ่มเหตุการณ์) และคลิก “สร้างโทเค็นการเข้าถึง”
1. ตอนนี้คุณก็สามารถเข้าถึงข้อมูล API การรายงานของ Audience Network ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ด้วยโทเค็นนี้ แทนที่จะใช้โทเค็นจากตัวจัดการการสร้างรายได้
2. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: โทเค็นนี้จะหมดอายุใน 2 ชั่วโมง คุณจะต้องเปลี่ยนไปเป็นโทเค็นการเข้าถึงระยะยาวโดยปฏิบัติตามคำแนะนำด้านล่าง

เปลี่ยนโทเค็นนี้ให้เป็นโทเค็นการเข้าถึงที่มีอายุการใช้งานระยะยาว

1. ไปที่ตัวแก้ไขจุดบกพร่องของโทเค็นการเข้าถึง
2. แทรกโทเค็นแล้วกด “แก้ไขจุดบกพร่อง”
3. เลื่อนไปที่ด้านล่างสุดของตารางที่มีข้อมูลโทเค็นทั้งหมดอยู่ คลิกที่ปุ่ม “ขยายระยะเวลาของโทเค็นการเข้าถึง”

4. คัดลอกโทเค็นที่ได้มา

ตอนนี้คุณก็สามารถเข้าถึงข้อมูล API การรายงานของ Audience Network ได้ด้วยโทเค็นนี้

การผสานการทำงานกับ API โดยตรงโดยมีอินเทอร์เฟซ UI

คำแนะนำต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เผยแพร่และพาร์ทเนอร์ที่มีอินเทอร์เฟซ UI ของตนเองซึ่งสามารถวางปุ่มเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้ คำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เผยแพร่ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลของตนเอง รวมถึงพาร์ทเนอร์ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลการสร้างรายได้ของผู้เผยแพร่รายอื่นโดยใช้สิทธิ์การอนุญาตของตนเอง

คุณยังสามารถดูวิดีโอสาธิตแบบครบวงจรสำหรับคำแนะนำต่อไปนี้ รวมถึงขั้นตอนการอนุญาตได้จากด้านบน

เกิดข้อผิดพลาดขึ้น

เรากำลังประสบปัญหาในการเล่นวิดีโอนี้

เรียนรู้เพิ่มเติม

• ในพอร์ทัลผู้พัฒนา ให้เลือกแอพธุรกิจที่คุณสร้างขึ้นใหม่จากขั้นตอนก่อนหน้า
• เพิ่มผลิตภัณฑ์ "การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook" ใหม่ลงในแอพนี้

• เลือกตัวเลือก “เว็บ” แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนการผสานการทำงาน

• แทรก URL ของเว็บไซต์ที่คุณจะแสดงการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ดังกล่าวรองรับโปรโตคอล HTTPS

• ในตอนท้ายของขั้นตอนการผสานการทำงาน คุณจะได้รับโค้ดตัวอย่างเพื่อผสานการทำงานของการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ไว้บนเว็บไซต์ของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถคัดลอกโค้ดนี้ได้โดยใช้สิทธิ์การอนุญาต “read_audience_network_insights” ที่เพิ่งเข้าถึง แทนสิทธิ์การอนุญาต “public_profile,email” ที่แนะนำ เมื่อใช้สิทธิ์การอนุญาตที่อัพเดตใหม่นี้แล้ว โค้ดสำหรับปุ่มของคุณควรมีลักษณะดังนี้

<fb:login-button 
  scope="read_audience_network_insights"
  onlogin="checkLoginState();">
</fb:login-button>

• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเปิดใช้งาน JavaScript SDK ในการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ในหน้าการตั้งค่าผลิตภัณฑ์สำหรับแอพของคุณแล้ว

• ตอนนี้ผู้ใช้สามารถดำเนินการตามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ในเพจของคุณเพื่อสร้างโทเค็นการเข้าถึงได้แล้ว
• ระบบจะส่งคืนโทเค็นการเข้าถึงโดยเป็นส่วนหนึ่งของอาร์กิวเมนต์ที่ส่งผ่านไปยังเมธอด JavaScript statusChangeCallback จากขั้นตอนข้างต้น

• ตามค่าเริ่มต้นแล้ว โทเค็นนี้จะหมดอายุในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
• ผู้พัฒนาสามารถส่งคำขอขยายระยะเวลาของโทเค็นนี้ให้เป็นโทเค็นการเข้าถึงที่มีอายุการใช้งานระยะยาวได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้เพิ่มเติม

  • โทเค็นที่มีอายุการใช้งานระยะยาวจะรีเฟรชวันละครั้ง เมื่อมีการส่งคำขอ API การรายงานไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Facebook หากไม่มีการส่งคำขอ โทเค็นจะหมดอายุหลังจากผ่านไปประมาณ 60 วัน และผู้ใช้จะต้องสร้างโทเค็นใหม่
• โปรดทราบว่าข้อมูลที่ได้จากโทเค็นนี้จะขึ้นอยู่กับผู้ที่ผ่านขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook และขึ้นอยู่กับข้อมูลที่บุคคลดังกล่าวยินยอมที่จะแชร์ ดังนั้น หากพนักงานของธุรกิจกำลังดำเนินการผ่านขั้นตอนนี้ โทเค็นการเข้าถึงที่ได้จะมีสิทธิ์การอนุญาตเดียวกันกับพนักงานคนนี้

การแก้ไขปัญหา