เมื่อเดือนมิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา Apple ได้ประกาศเกี่ยวกับกรอบการทำงาน AppTrackingTransparency แบบใหม่บน iOS 14 ที่กำหนดให้แอพต่างๆ ต้องแสดงพร้อมต์เพื่อขออนุญาต ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อธุรกิจที่ลงโฆษณาบนอุปกรณ์มือถือและในทุกๆ ส่วนของเว็บ เราไม่เห็นด้วยกับแนวทางและวิธีการแก้ไขปัญหาที่ Apple เลือกใช้ เราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงจากทาง Apple นั้นอาจส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของคุณต้องหยุดชะงักลง และเราก็มุ่งมั่นที่จะช่วยให้คุณผ่านพ้นปัญหานี้ไปให้ได้
ในช่วงต้นปี 2021 นี้ Facebook จะเริ่มแสดงพร้อมต์ App Tracking Transparency (ATT) ของ Apple ทั้งนี้ เมื่อ Facebook และ Instagram เริ่มแสดงพร้อมต์ ATT ของ Apple แล้ว ธุรกิจที่ใช้เครื่องมือธุรกิจใดๆ ของเราในการปรับให้เหมาะสม กำหนดเป้าหมาย และ/หรือรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ในเว็บบนมือถือก็จะได้รับผลกระทบ เนื่องจาก Apple ได้กำหนดขีดจำกัดในการแชร์ข้อมูล
เพื่อเป็นการบรรเทาการหยุดชะงักที่จะเกิดขึ้น เราจึงขอแจ้งข้อมูลอัพเดตให้คุณทราบในวันนี้เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขของเรา โดยจะมีการดำเนินการที่จำเป็นซึ่งคุณทำได้ทันที และการดำเนินการที่คุณต้องวางแผนไว้สำหรับช่วงต้นปี 2021
การวัดผลเหตุการณ์ในรูปแบบผลรวม: Facebook จะเริ่มนำการวัดผลเหตุการณ์ในรูปแบบผลรวมเข้ามาใช้ เพื่อช่วยสนับสนุนการวัดผลเหตุการณ์ในเว็บจากผู้ใช้ iOS 14 เมื่อ Apple กำหนดให้แสดงพร้อมต์ ATT แนวทางนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยคุณวัดประสิทธิภาพของแคมเปญในลักษณะที่สอดคล้องกับการตัดสินใจของลูกค้าเกี่ยวกับข้อมูลของตน
ขีดจำกัดของเหตุการณ์: เราจะจำกัดให้คุณใช้เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นได้ 8 รายการต่อ 1 โดเมน (กล่าวคือ <พิกเซล, เหตุการณ์> หรือ <คอนเวอร์ชั่นแบบกำหนดเอง> 8 รายการต่อ 1 โดเมน) ทั้งนี้ คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงพิกเซลหรือการใช้งาน API คอนเวอร์ชั่นของคุณแต่อย่างใด เพราะนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 การเลือกเหตุการณ์จะดำเนินการในตัวจัดการเหตุการณ์
การยืนยันโดเมนในตัวจัดการธุรกิจ: เราขอให้คุณตรวจสอบยืนยันโดเมนโดยทำตามขั้นตอนที่เราได้ระบุไว้ในศูนย์ช่วยเหลือของ Facebook การดำเนินการนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีพิกเซลซึ่งใช้งานโดยตัวจัดการธุรกิจหรือบัญชีโฆษณาส่วนตัวหลายรายการ การยืนยันโดเมนจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าความสามารถในการกำหนดค่าเหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นจะไม่หยุดชะงัก ไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคต
หมายเหตุ: คุณจะต้องดำเนินการยืนยันโดเมนที่โดเมนระดับบนสุดที่ใช้งานได้บวกด้วยหนึ่ง (eTLD+1) ตัวอย่างเช่น โดเมน eTLD+1 สำหรับ www.books.jasper.com, books.jasper.com และ jasper.com จะเป็น jasper.com
วางแผนใช้เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่น 8 รายการต่อ 1 โดเมน: หากคุณใช้เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่นมากกว่า 8 รายการต่อ 1 โดเมนในการปรับให้เหมาะสมหรือการรายงาน ให้เตรียมแผนดำเนินการเพื่อปรับมาใช้เหตุการณ์คอนเวอร์ชั่น 8 รายการต่อ 1 โดเมนแทน โดยอิงตามลำดับความสำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงพิกเซลหรือการใช้งาน API คอนเวอร์ชั่นแต่อย่างใด เพราะการกำหนดค่าเหตุการณ์จะดำเนินการในตัวจัดการเหตุการณ์
โฆษณาแบบไดนามิกสำหรับการกำหนดเป้าหมายซ้ำไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่เฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด ทั้งนี้ คุณอาจพบว่าประสิทธิภาพการทำงานและขนาดของกลุ่มเป้าหมายนั้นลดน้อยลง โดยเราหวังว่าจะเกิดผลกระทบต่อคุณน้อยที่สุดในการใช้โฆษณาแบบไดนามิกเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง
การเลือกช่วงการระบุที่มา: เราจะเปลี่ยนช่วงการระบุที่มาในระดับบัญชีเป็นการตั้งค่าการระบุที่มาในรูปแบบใหม่ที่ระดับชุดโฆษณา โดยสามารถเข้าถึงได้ในระหว่างการสร้างแคมเปญ การตั้งค่าการระบุที่มานี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าคอนเวอร์ชั่นที่เราวัดผลนั้นเป็นคอนเวอร์ชั่นเดียวกับที่ใช้ในการแจ้งให้ทราบถึงการปรับแคมเปญให้เหมาะสม ทั้งยังช่วยให้มีการปรับขนาดให้เหมาะสมและความชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณาอีกด้วย เราจะนำพารามิเตอร์ API แบบใหม่เข้ามาใช้เพื่อช่วยให้มีการสืบค้นผลลัพธ์โดยอิงตามการตั้งค่าการระบุที่มาแบบใหม่นี้
สำหรับกฎอัตโนมัติ: ในช่วงต้นปี 2021 ระบบจะไม่รองรับการตั้งค่าช่วงการระบุที่มาสำหรับกฎอัตโนมัติที่มีอยู่แล้วและกฎอัตโนมัติที่เพิ่งสร้างขึ้นอีกต่อไป โดยระบบจะใช้ช่วงตามค่าเริ่มต้น นั่นคือ การคลิกผ่านในช่วง 7 วันสำหรับคอนเวอร์ชั่นที่ไม่ได้มาจาก iOS และใช้ช่วง SKAdNetwork สำหรับคอนเวอร์ชั่นที่มาจาก iOS
เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงช่วงการระบุที่มา (การเลิกใช้ช่วงของการคลิกผ่านในช่วง 28 วัน, การดูผ่านในช่วง 28 วัน และการดูผ่านในช่วง 7 วัน):
การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งข้อมูลหลายรายการ: ตำแหน่งข้อมูลของ API การตลาด, API ข้อมูลเชิงลึกของโฆษณา และ API การกำหนดเป้าหมายของเราจะเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ระบุไว้ในส่วนการจัดการเหตุการณ์ การแสดงโฆษณา และการวัดผลของเอกสารฉบับนี้
ดำเนินการกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่ระบุไว้ในบล็อกนี้ แล้วตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับ API ของเรา การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวยังไม่มีผลและยังใช้งานไม่ได้ในขณะนี้ แต่เราก็ต้องการแจ้งข้อมูลให้คุณทราบให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณสามารถดูบันทึกการเปลี่ยนแปลงได้ที่นี่
นำการเปลี่ยนแปลง API เข้ามาปรับใช้: เราคาดว่าการอัพเดต API จะพร้อมให้ใช้งานภายในช่วงกลางเดือนมกราคมปี 2021 ซึ่งการอัพเดตบางรายการอาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงด่วนภายในวันเดียวกันนั้น คุณสามารถดูข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง API ที่จะต้องดำเนินการในช่วงต้นปี 2021 ได้ที่เอกสารประกอบสำหรับผู้พัฒนาของเรา
โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของ iOS 14 ต่อผู้พัฒนาแอพที่บล็อกโพสต์นี้ซึ่งเราได้แยกไว้ต่างหากสำหรับผู้พัฒนา
โปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการวางแผนเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของ API การตลาดที่บันทึกการเปลี่ยนแปลงของเรา