คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโซเชียลปลั๊กอิน

คำถามทั่วไป

ปุ่มถูกใจ ปุ่มแชร์ และปุ่มส่งสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บ, iOS และ Android ในขณะที่โพสต์แบบฝังและเพจปลั๊กอินจะสามารถใช้งานได้บนเว็บเท่านั้น

  • เว็บ: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินบนเว็บ คุณจะต้องมีบัญชีผู้พัฒนา Facebook เพื่อรับ ID ของแอพ
  • iOS/Android: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินภายในแอพ iOS หรือ Android คุณจะต้องมีบัญชีผู้พัฒนา Facebook เพื่อรับ ID ของแอพ
  • เว็บ: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินบนเว็บ คุณจะต้องมีบัญชีผู้พัฒนา Facebook เพื่อรับ ID ของแอพ
  • iOS/Android: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินภายในแอพ iOS หรือ Android คุณจะต้องมีบัญชีผู้พัฒนา Facebook เพื่อรับ ID ของแอพ
  • เว็บ: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินบนเว็บ คุณจะไม่จำเป็นต้องส่งการผสานการทำงานเพื่อรับการตรวจสอบ คุณสามารถใช้โซเชียลปลั๊กอินใดๆ ได้ในทันที
  • iOS/Android: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินภายในแอพ iOS หรือ Android คุณจะต้องส่งการผสานการทำงานของปุ่มถูกใจเพื่อรับตรวจสอบผ่านแท็บ "การตรวจสอบแอพ" ในแดชบอร์ดของแอพ

หากมีคนเข้ามายัง Facebook และเข้าชมเว็บไซต์ของคุณด้วยโซเชียลปลั๊กอิน เบราว์เซอร์จะส่งข้อมูลให้กับเราเพื่อโหลดเนื้อหา Facebook บนเพจนั้นๆ ข้อมูลที่เราได้รับอาจมีข้อมูลต่างๆ เช่น ID ผู้ใช้ของบุคคลนั้น เว็บไซต์ที่บุคคลนั้นเข้าชม วันที่และเวลา รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบราว์เซอร์ เราจะบันทึกข้อมูลนี้ไว้บางส่วนและอาจใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของเรา รวมถึงใช้เพื่อให้ผู้คนได้รับชมโฆษณาที่น่าสนใจและมีประโยชน์มากขึ้น

หากคุณใช้เวอร์ชั่น HTML5 หรือ XFBML คุณควรใส่รหัสภาษาในตอนที่สร้างอินสแตนซ์ของไลบรารี

เมื่อคุณโหลด SDK ให้เปลี่ยนค่าของ js.src เพื่อใช้รูปแบบภาษาของคุณ โดยให้แทนที่ en_US ด้วยรูปแบบภาษาของคุณ เช่น fr_FR สำหรับภาษาฝรั่งเศส (ประเทศฝรั่งเศส):

// Example 1:
'https://connect.facebook.net/fr_FR/sdk.js';

// Example 2:
js.src = "https://connect.facebook.net/fr_FR/sdk.js#xfbml=1&version=v2.6"; 

รูปแบบภาษาที่รองรับจะได้รับการอ้างอิงถึงในไฟล์ XML รูปแบบภาษาของ Facebook

คุณอาจจำเป็นต้องปรับความกว้างของโซเชียลปลั๊กอินเพื่อให้รองรับภาษาต่างๆ โดยดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าการแปลเป็นภาษาท้องถิ่นและการแปลภาษาของเรา

  • เว็บ: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินบนเว็บ คุณจะไม่จำเป็นต้องส่งการผสานการทำงานเพื่อรับการตรวจสอบ คุณสามารถใช้โซเชียลปลั๊กอินใดๆ ได้ในทันที
  • iOS/Android: หากคุณใช้โซเชียลปลั๊กอินภายในแอพ iOS หรือ Android คุณจะต้องส่งการผสานการทำงานของปุ่มถูกใจเพื่อรับตรวจสอบผ่านแท็บ "การตรวจสอบแอพ" ในแดชบอร์ดของแอพ

คุณอาจต้องใช้เวอร์ชั่นแยกกันสำหรับมือถือ แท็บเล็ต หรือเดสก์ท็อป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโซเชียลปลั๊กอินดังกล่าว โปรดดูคำถามที่พบบ่อยหรือเอกสาร "เริ่มต้นใช้งาน" สำหรับปลั๊กอินที่คุณต้องการใช้ หมายเหตุ: ไม่แนะนำให้ใช้มีเดียคิวรี CSS เพื่อปรับขนาดของโซเชียลปลั๊กอิน

ฉันจำเป็นต้องย้ายเพจไปยัง URL อื่น คุณจะไม่สามารถย้ายการกดถูกใจ การแชร์ หรือความคิดเห็นไปยัง URL ใหม่โดยตรงได้ แต่คุณสามารถใช้ URL เก่าเป็นต้นทางแบบบัญญัติสำหรับจำนวนการกดถูกใจหรือการแชร์ที่ URL ใหม่ได้ เราจะให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีดำเนินการไว้ด้านล่าง

ข้อมูลพื้นฐาน

ในระหว่างกำหนดว่าควรระบุที่มาของการกดถูกใจหรือแชร์จาก URL ใด Facebook จะใช้กระบวนการในการกำหนด URL แบบบัญญัติสำหรับ URL ได้ที่โหลดไว้ เมื่อโหลด URL แล้ว ครอว์เลอร์จะมองหาสิ่งต่อไปนี้:

  1. การเปลี่ยนเส้นทาง HTTP 301 หรือ 302
  2. การใช้แท็ก Open Graph og:url ในเพจ
  3. การใช้ rel=canonical ตามที่อธิบายไว้ใน RFC 6596 (ครอว์เลอร์ของ Facebook จะรองรับเฉพาะเนื้อหาเท่านั้น โดยจะไม่รองรับส่วนหัว HTTP)

หากวิธีใดๆ เหล่านี้ส่งผลให้เกิด URL ที่แตกต่างไปจาก URL ที่โหลดไว้ในตอนแรก ระบบจะถือว่า URL ที่ระบุไว้เป็น "URL แบบบัญญัติ" สำหรับ URL เดิม หากจำเป็น ครอว์เลอร์จะยังติดตามเครือข่ายการเปลี่ยนเส้นทางเพื่อค้นหา URL แบบบัญญัติอีกด้วย

ระบบจะระบุให้การกดถูกใจและการแชร์ทั้งหมดมีที่มาจาก URL แบบบัญญัติ แทนที่จะเป็น URL ที่โหลดไว้

ตัวอย่าง

เคล็ดลับ: ใช้ตัวแก้ไขจุดบกพร่องของเราเพื่อดูว่า Facebook เห็นอะไรบ้างในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลเพจของคุณ

การควบคุม URL แบบบัญญัติจะทำให้คุณย้ายเนื้อหาจาก URL หนึ่งไปยังอีก URL หนึ่ง และรักษาจำนวนการกดถูกใจและการแชร์ไว้ได้ ตราบเท่าที่คุณอนุญาตให้ Facebook นำทาง URL ใหม่ไปยัง URL เก่าต่อไป ซึ่งสามารถดำเนินการได้ด้วยหนึ่งในสองวิธีดังนี้:

เพิ่มแท็ก og:url ไปยัง URL ใหม่ซึ่งนำทางไปยัง URL เก่า (แนะนำ)

ใน URL ใหม่ของคุณ คุณควรเพิ่มลิงก์ไปยัง URL เก่า ตัวอย่างเช่น หาก URL ใหม่ของคุณคือ https://example.com/new-url และ URL เก่าคือ https://example.com/old-url คุณควรเพิ่มส่วนย่อยนี้ลงใน new-url:

<meta property="og:url" content="https://example.com/old-url" />

การใช้วิธีนี้จะบอกให้ครอว์เลอร์ทราบว่า URL แบบบัญญัตินั้นอยู่ที่ตำแหน่งที่ตั้งเก่า และจะใช้ URL ดังกล่าวเพื่อสร้างจำนวนการกดถูกใจและการแชร์บนเพจ การกดถูกใจและการแชร์ใหม่ๆ จะยังคงรวมอยู่ใน URL เก่าเช่นกัน

นอกจากนี้ยังกำหนดให้ URL เก่ายังต้องแสดงเอกสารด้วยแท็ก Open Graph และส่งคืนการตอบกลับ HTTP 200 เมื่อโหลดโดยครอว์เลอร์ของ Facebook เป็นอย่างน้อย หากคุณต้องการให้ไคลเอ็นต์อื่นเปลี่ยนเส้นทางเมื่อเข้าชม URL คุณจะต้องส่งการตอบกลับ HTTP 301 ของคุณไปยังทุกไคลเอ็นต์ของครอว์เลอร์ที่ไม่ใช่ครอว์เลอร์ Facebook URL เก่าควรมีแท็ก og:url ซึ่งนำทางมาที่ตัวเอง

คุณสามารถเรียนรู้วิธีระบุครอว์เลอร์ของ Facebook ได้ที่คู่มือหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดในการแชร์

วิธีการนี้จะใช้ได้กับ rel=canonical เช่นกัน แต่ขอแนะนำให้ใช้ og:url จะดีกว่า

เปลี่ยนเส้นทางครอว์เลอร์ของ Facebook ไปยัง URL เก่า

อีกวิธีหนึ่งในการดำเนินการดังกล่าวคือการเปลี่ยนเส้นทางครอว์เลอร์ของ Facebook ไปยัง URL เก่าทุกครั้งที่ครอว์เลอร์เข้าชม URL ใหม่ ทั้งนี้ URL เก่าจะต้องเป็นเอกสารที่ถูกต้องที่มีส่วนหัว Open Graph เช่นเดียวกับวิธีการที่อธิบายไว้ข้างต้น และหากคุณต้องการเพิ่มการเปลี่ยนเส้นทางที่ URL เก่า ครอว์เลอร์ของ Facebook จะต้องไม่เปลี่ยนเส้นทางเมื่อเข้าชม URL เก่า

เนื้อหาจะต้องเป็นสาธารณะเท่านั้นจึงจะสามารถฝังได้ โพสต์ เพจ หรือ URL จะไม่สามารถฝังได้ หากมีการจำกัดความเป็นส่วนตัวประเภทใดๆ โดยจะมีผลกับปุ่มถูกใจ เพจปลั๊กอิน รวมถึงโพสต์และวิดีโอแบบฝัง

วิธีการที่รวดเร็วอย่างหนึ่งในการทดสอบว่าเนื้อหาชิ้นหนึ่งๆ สามารถฝังได้หรือไม่คือการลองโหลดเนื้อหาดังกล่าวโดยใช้ฟีเจอร์ "ไม่ระบุตัวตน" หรือ "ส่วนตัว" ของเบราว์เซอร์

การกดถูกใจ การแชร์ และการส่ง - คำถามที่พบบ่อยโดยทั่วไป

คุณสามารถปรับแต่งเรื่องราวที่สร้างขึ้นจากการกดถูกใจ แชร์ หรือส่งเพจของคุณให้ดีขึ้นได้โดยการใช้แท็กเมตาเพื่อเปลี่ยนหน้า HTML ธรรมดาให้กลายเป็นอ็อบเจ็กต์ Open Graph

หากคุณวางแผนที่จะใช้ปุ่มถูกใจ ปุ่มแชร์ หรือปุ่มส่งบนหน้าใดๆ บนเว็บไซต์ของคุณ คุณควรอ่านคู่มือหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องราวที่เผยแพร่นั้นจะดูดีบน Facebook และมีการกระจายต่อออกไปมากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เราขอแนะนำให้คุณเพิ่มปุ่มทั้งหมดไว้บนแอพหรือเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้ผู้คนเลือกวิธีที่ต้องการแชร์เนื้อหาของคุณได้

การตั้งค่า ref จะทำให้ระบบเพิ่มพารามิเตอร์ 2 ตัวไปยัง URL ของผู้อ้างอิงเมื่อมีคนคลิกลิงก์จากเรื่องราวสตรีมเกี่ยวกับลิงก์ที่แชร์:

  • fb_ref - พารามิเตอร์ ref
  • fb_source - กดถูกใจ/แชร์: ประเภทของสตรีม (home, profile, search, ticker, tickerdialog หรือ other) ซึ่งมีการคลิกเกิดขึ้นและประเภทของเรื่องราว (oneline หรือ multiline) โดยเชื่อมด้วยเครื่องหมายขีดล่าง ส่ง: ประเภทของเรื่องราว (message) ซึ่งมีการคลิกเกิดขึ้น

ตัวอย่างเช่น:

http://www.facebook.com/l.php?fb_ref=top_left&fb_source=profile_oneline

คุณสามารถติดตามพารามิเตอร์เหล่านี้ได้โดยใช้ซอฟต์แวร์การวิเคราะห์ของคุณ

หากปุ่มถูกใจ ปุ่มแชร์ หรือปุ่มส่งอยู่ใกล้กับจุดเชื่อมโยงขององค์ประกอบ HTML โดยที่คุณสมบัติ overflow ของ CSS ได้รับการตั้งไว้เป็น hidden แถบลอยอาจถูกตัดหรือซ่อนไว้โดยสมบูรณ์เมื่อมีการคลิกปุ่ม ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการตั้งค่าคุณสมบัติ overflow ให้เป็นค่าอื่นที่ไม่ใช่ hidden เช่น visible, scroll หรือ auto

Facebook จำเป็นต้องดึงแยกลิงก์ที่แชร์กับ Facebook เพื่อให้ทราบว่าจะต้องเชื่อมโยงข้อมูลการแสดงตัวอย่างกับลิงก์ใดเพื่อแสดงบน Facebook.com หรือบน Facebook สำหรับ iOS และ Android การดำเนินการนี้จะเกิดขึ้นทุกๆ 30 วันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสมบัติต่างๆ เป็นปัจจุบัน นอกจากนี้ ระบบยังจะดึงแยกข้อมูลเพจที่เชื่อมโยงไว้เมื่อมีการป้อน URL เข้าไปในเครื่องมือตัวแก้ไขจุดบกพร่องอีกด้วย

Facebook จะสังเกตส่วนหัวของแคชบน URL ของคุณ โดยจะดูที่ Expires และ Cache-Control ตามลำดับการตั้งค่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะระบุเวลาให้นานขึ้น แต่ Facebook ก็จะดึงแยกข้อมูลเพจของคุณทุกๆ 30 วันอยู่ดี

ในบางกรณี คุณอาจต้องการแสดงเพจให้กับตัวดึงแยกข้อมูลของเรา (ที่มีเมตาดาต้า Open Graph มากขึ้น) ในเวอร์ชั่นที่ต่างไปจากเวอร์ชั่นที่คุณแสดงให้กับผู้คนที่เข้ามาดูเพจ ในกรณีเช่นนี้ คุณสามารถกำหนดเป้าหมายเป็นตัวแทนเบราว์เซอร์ที่ตัวดึงแยกข้อมูลใช้ได้:

facebookexternalhit/1.1 (+http://www.facebook.com/externalhit_uatext.php)

ได้ เพียงระบุ URL ของเพจ Facebook ของคุณในการตั้งค่า href ของปุ่ม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปุ่มถูกใจ

โซเชียลปลั๊กอินมาพร้อมการป้องกันเพื่อรักษาความครบถ้วนสมบูรณ์และป้องกันสแปม และปุ่มดังกล่าวนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันเหล่านี้ หากคุณทดสอบปุ่มถูกใจอย่างมากก่อนที่จะเปิดใช้งาน คุณอาจทริกเกอร์การป้องกันเหล่านี้โดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ บางโดเมนบนอินเทอร์เน็ตยังมีแนวโน้มที่จะมีสแปมอีกด้วย คุณจึงเห็นขั้นตอนการยืนยันบ่อยขึ้น

การยืนยันนี้จะเพิ่มอีกขั้นตอนหนึ่งเข้าไปในกระบวนการของปุ่มถูกใจ แต่เมื่อผู้ใช้หลายๆ รายต่างยืนยันการกดถูกใจ ขั้นตอนนี้ก็จะไม่ปรากฏอีกต่อไป และจะปรากฏขึ้นมาเฉพาะปุ่มถูกใจตามปกติเท่านั้น

ตัวเลขที่แสดงคือผลรวมของสิ่งต่อไปนี้:

  • จำนวนการกดถูกใจ URL ของคุณ
  • จำนวนการแชร์ URL ของคุณ (รวมถึงการคัดลอก/วางลิงก์กลับไปยัง Facebook)
  • จำนวนการกดถูกใจและความคิดเห็นบนเรื่องราวใน Facebook เกี่ยวกับ URL ของคุณ

หากต้องการรับโค้ดเพื่อแสดงปุ่มแชร์เพียงอย่างเดียว โปรดดูที่เอกสารเกี่ยวกับปุ่มแชร์ของเรา

มีตัวเลือกดังต่อไปนี้:

เค้าโครง ขนาดเริ่มต้น

standard

ความกว้างต่ำสุด: 225 พิกเซล
ความกว้างเริ่มต้น: 450 พิกเซล
ความสูง: 35 พิกเซล (ไม่มีรูปภาพ) หรือ 80 พิกเซล (มีรูปภาพ)

box_count

ความกว้างต่ำสุด: 55 พิกเซล
ความกว้างเริ่มต้น: 55 พิกเซล
ความสูง: 65 พิกเซล

button_count

ความกว้างต่ำสุด: 90 พิกเซล
ความกว้างเริ่มต้น: 90 พิกเซล
ความสูง: 20 พิกเซล

button

ความกว้างต่ำสุด: 47 พิกเซล
ความกว้างเริ่มต้น: 47 พิกเซล
ความสูง: 20 พิกเซล

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปุ่มแชร์

ตัวเลขที่แสดงคือผลรวมของสิ่งต่อไปนี้:

  • จำนวนการกดถูกใจ URL ของคุณ
  • จำนวนการแชร์ URL ของคุณ (รวมถึงการคัดลอก/วางลิงก์กลับไปยัง Facebook)
  • จำนวนการกดถูกใจและความคิดเห็นบนเรื่องราวใน Facebook เกี่ยวกับ URL ของคุณ

หากต้องการรับโค้ดเพื่อแสดงปุ่มแชร์เพียงอย่างเดียว โปรดดูที่เอกสารเกี่ยวกับปุ่มแชร์ของเรา

ได้ แม้ว่าเราจะแนะนำให้ใช้ปุ่มแชร์เพื่อมอบประสบการณ์ที่เรียบง่ายและมีความสม่ำเสมอมากที่สุดแก่ผู้ที่ใช้เว็บไซต์ของคุณ แต่เราก็มีกล่องโต้ตอบแบบสแตนด์อโลนที่สามารถเรียกใช้งานได้ด้วย JavaScript SDK หรือลิงก์ URL อ่านคู่มือในการใช้กล่องการแชร์ของเรา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปลั๊กอินความคิดเห็น

  • เพิ่มเครื่องหมายวรรคตอน (เช่น จุดเมื่อจบประโยค)
  • ตัดช่องว่างที่เกินมาออก
  • เปลี่ยนคำสแลงเป็นคำเต็ม (เช่น plz เป็น please)
  • เพิ่มวรรคหลังเครื่องหมายวรรคตอน (เช่น Hi,Cat เป็น Hi, Cat)
  • แก้ไขข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์ทั่วๆ ไป (เช่น ‘dont’ เป็น ‘don’t’)

คุณสามารถเปิดใช้งานตัวกรองไวยากรณ์จากส่วนการตั้งค่าบนปลั๊กอินได้

คุณสามารถเข้าดูความคิดเห็นสำหรับทุก URL ผ่าน API กราฟได้ เพียงส่งคำขอ HTTP GET ไปยัง:

https://graph.facebook.com/v2.6/?fields=og_object{comments}
  &id=<YOUR_URL>
  &access_token=<YOUR_TOKEN>

โปรดดูคำแนะนำโดยละเอียดจากคู่มือการควบคุมความคิดเห็น หากคุณไม่สามารถตั้งค่ารายการผู้ควบคุมโดยใช้คุณสมบัติเมตา fb:admins ได้ คุณสามารถตั้งค่า fb:app_id และอัพเดตรายการผู้ควบคุมในการตั้งค่าเครื่องมือควบคุมสำหรับแอพนี้ได้