ปลั๊กอินความคิดเห็นช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงความคิดเห็นต่อเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณได้โดยใช้บัญชี Facebook ของตน ผู้ใช้สามารถเลือกที่จะแชร์การแสดงความคิดเห็นของตนกับเพื่อน (และเพื่อนของเพื่อน) บน Facebook ได้เช่นกัน ปลั๊กอินความคิดเห็นยังประกอบด้วยเครื่องมือควบคุมในตัวด้วย
คุณอาจพบการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับโซเชียลปลั๊กอินเนื่องจากมีการอัพเดตข้อความแจ้งขอการยินยอมของคุกกี้ ซึ่งจะแสดงต่อผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Facebook ในภูมิภาคยุโรป สำหรับผู้ใช้ในภูมิภาคยุโรป โซเชียลปลั๊กอิน 'ถูกใจ' และ 'แสดงความคิดเห็น' จะไม่ได้รับการรองรับอีกต่อไป นอกจากว่าผู้ใช้จะ 1) เข้าสู่ระบบบัญชี Facebook ของตน พร้อมกับ 2) ได้ยินยอมให้มีการควบคุม "คุกกี้บนแอพและเว็บไซต์" หากปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งสองนี้ ผู้ใช้จะเห็นและโต้ตอบกับปลั๊กอิน เช่น ปุ่ม "ถูกใจ" หรือ ปุ่ม "แสดงความคิดเห็น" ได้ หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ผู้ใช้จะไม่เห็นปลั๊กอินใดๆ เลย
สหภาพยุโรป (EU): ออสเตรีย, เบลเยียม, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, สาธารณรัฐไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, โปรตุเกส, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, สเปน และสวีเดน
ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรป แต่อยู่ในเฉพาะเขตเศรษฐกิจยุโรป/สมาคมการค้าเสรียุโรป หรือสหภาพศุลกากร: [เฉพาะเขตเศรษฐกิจยุโรป/สมาคมการค้าเสรียุโรป] ไอซ์แลนด์, ลิกเตนสไตน์ และนอร์เวย์; สวิตเซอร์แลนด์: [สหภาพศุลกากรยุโรป] เกาะแชนเนลทั้งหมด, ไอล์ออฟแมน และโมนาโก อาณาเขตอันเป็นอธิปไตยของสหราชอาณาจักรในไซปรัส [สหภาพศุลกากรยุโรป] อันดอร์รา, ซานมารีโน และนครรัฐวาติกัน
เลือก URL ของเว็บไซต์ที่คุณต้องการใช้กับปลั๊กอินความคิดเห็น
คัดลอกและวาง URL ลงในตัวกำหนดค่าโค้ดด้านล่าง คุณสามารถปรับการตั้งค่าได้ เช่น width
ของปลั๊กอินความคิดเห็น หรือจำนวนโพสต์ที่ต้องการแสดงตามค่าเริ่มต้น (num_posts
) คลิกปุ่มรับโค้ดเพื่อสร้างโค้ดสำหรับปลั๊กอินความคิดเห็น
คัดลอกและวางส่วนย่อยของโค้ดลงใน HTML ของเว็บไซต์หรือเว็บเพจที่คุณต้องการใช้งานความคิดเห็น
ตัวกำหนดค่าโค้ดข้างต้นจะใช้เฉพาะส่วนย่อยจากการตั้งค่าทั้งหมดที่สามารถทำได้สำหรับปลั๊กอินความคิดเห็นของคุณเท่านั้น และคุณยังสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าต่อไปนี้ได้อีกด้วย:
การตั้งค่า | แอตทริบิวต์ HTML5 | คำอธิบาย | ค่าเริ่มต้น |
---|---|---|---|
|
| รูปแบบสีที่ปลั๊กอินความคิดเห็นดังกล่าวนำมาใช้ โดยอาจเป็น "light" หรือ "dark" ก็ได้ | "light" |
|
| URL ที่สมบูรณ์ซึ่งจะเชื่อมโยงกับความคิดเห็นที่โพสต์ในปลั๊กอินอย่างถาวร เรื่องราวทั้งหมดที่แชร์บน Facebook เกี่ยวกับความคิดเห็นที่โพสต์โดยใช้ปลั๊กอินความคิดเห็นจะเชื่อมโยงไปยัง URL นี้ | URL ปัจจุบัน |
|
|
|
|
|
| ค่าบูลีนที่ระบุว่าจะแสดงเวอร์ชั่นที่ปรับให้เหมาะสมกับอุปกรณ์มือถือหรือไม่ | ตรวจจับโดยอัตโนมัติ |
|
| จำนวนความคิดเห็นที่แสดงตามค่าเริ่มต้น ค่าต่ำสุดคือ 1 | 10 |
|
| ลำดับที่ใช้เมื่อแสดงความคิดเห็น อาจเป็น "reverse_time" หรือ "time" ก็ได้ ประเภทลำดับแบบต่างๆ มีอธิบายอยู่ในส่วนการเรียงลำดับความคิดเห็น | "reverse-time" |
|
| ความกว้างของปลั๊กอินความคิดเห็นบนเว็บเพจ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งค่าพิกเซลหรือเปอร์เซ็นต์ (เช่น 100%) สำหรับความกว้างแบบไม่ตายตัว ปลั๊กอินความคิดเห็นที่เป็นเวอร์ชั่นสำหรับอุปกรณ์มือถือจะไม่ตอบสนองต่อพารามิเตอร์ความกว้าง และจะใช้ความกว้างแบบไม่ตายตัวที่ 100% แทน ความกว้างต่ำสุดที่ปลั๊กอินความคิดเห็นรองรับคือ 320 พิกเซล | 550 |
ผู้ใช้สามารถเรียงลำดับความคิดเห็นตามเวลาได้โดยใช้เมนูที่อยู่ด้านบนขวาของปลั๊กอินความคิดเห็น
คุณสามารถกำหนดการจัดลำดับที่เป็นค่าเริ่มต้นได้โดยใช้แอตทริบิวต์ data-order-by
และค่าใดค่าหนึ่งต่อไปนี้:
reverse_time
(ค่าเริ่มต้น)ความคิดเห็นจะแสดงในลำดับตรงกันข้ามกับเวลาที่โพสต์ โดยรายการที่ใหม่ที่สุดจะอยู่ด้านบนและรายการที่เก่าที่สุดจะอยู่ด้านล่าง
time
ความคิดเห็นจะแสดงตามลำดับที่โพสต์ โดยรายการที่เก่าที่สุดจะอยู่ด้านบนและรายการที่ใหม่ที่สุดจะอยู่ด้านล่าง
คุณสามารถเปลี่ยนภาษาของปลั๊กอินความคิดเห็นได้โดยการโหลด Facebook SDK for Javascript เวอร์ชั่นที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น เมื่อคุณโหลด SDK ดังกล่าว ให้เปลี่ยนค่าของ src
เพื่อใช้รูปแบบภาษาของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยน en_US
เป็นรูปแบบภาษาของคุณได้ เช่น fr_FR
สำหรับภาษาฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส):
src="https://connect.facebook.net/fr_FR/sdk.js#xfbml=1"
คุณอาจจำเป็นต้องปรับความกว้างของโซเชียลปลั๊กอินเพื่อให้รองรับภาษาต่างๆ โปรดเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นและการแปลภาษา
ปลั๊กอินความคิดเห็นมาพร้อมเครื่องมือควบคุมที่มีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ช่วยให้ทีมจัดการชุมชนของคุณสามารถควบคุมความคิดเห็นหลายๆ รายการได้ในคราวเดียวอย่างง่ายดายและรวดเร็ว
หากต้องการใช้เครื่องมือควบคุมความคิดเห็นนี้ คุณจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่าการควบคุมให้ครบถ้วน
คำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่าการควบคุมโปรดทราบว่าคุณไม่สามารถใช้ API กราฟเพื่อตอบกลับความคิดเห็นที่แสดงผ่านปลั๊กอินความคิดเห็นได้
การเข้าใช้งานเครื่องมือควบคุมมีอยู่ 2 วิธี ดังนี้:
1. มุมมองการควบคุมโดยใช้แอพ: ไปที่ developers.facebook.com/tools/comments คุณจะเห็นรายการแอพ Facebook ของคุณทั้งหมด ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุมความคิดเห็นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับแต่ละแอพได้ หากคุณไม่ได้ใช้แอพ Facebook กับปลั๊กอินความคิดเห็น คุณจะไม่สามารถใช้มุมมองนี้ได้
2. มุมมองการควบคุมโดยใช้เพจ: คลิกที่ลิงก์เครื่องมือควบคุมที่อยู่ถัดจากช่องแสดงความคิดเห็น (โปรดดูภาพหน้าจอด้านล่าง) มุมมองดังกล่าวจะแสดงเฉพาะความคิดเห็นที่โพสต์ไปยังเว็บเพจ (URL) นี้
เราจะแสดงมุมมองการควบคุมทั้งสองแบบในภาพหน้าจอด้านล่าง หากใช้มุมมองการควบคุมโดยใช้แอพ คุณจะสามารถใช้เมนูเพื่อสลับระหว่างแอพต่างๆ ได้
ในตารางการควบคุม คุณสามารถอนุมัติหรือซ่อนความคิดเห็นได้โดยขึ้นอยู่กับสถานะของความคิดเห็นนั้นๆ หากต้องการเปลี่ยนสถานะของความคิดเห็นหลายรายการ ให้ใช้กล่องกาเครื่องหมายในคอลัมน์ด้านซ้าย
1. มุมมองการควบคุมโดยใช้เพจ
2. มุมมองการควบคุมโดยใช้แอพ
3. คิวที่มีการรายงานปัญหา
คุณสามารถกำหนดให้แต่ละแอพมีการตั้งค่าในแบบของคุณเองได้ ใช้ปุ่มการตั้งค่า (ด้านบนขวาของเครื่องมือ) เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบการตั้งค่า
คุณสามารถแต่งตั้งให้ผู้อื่นเป็นผู้ควบคุมความคิดเห็นของคุณได้ โดยเริ่มพิมพ์ชื่อของเพื่อนในกล่องป้อนข้อมูล แล้ว Typeahead จะช่วยคุณเลือกบุคคลที่คุณต้องการกำหนดให้เป็นผู้ควบคุม
คุณสามารถควบคุมวิธีการเรียงลำดับความคิดเห็นได้ด้วย โปรดเรียนรู้เพิ่มเติมในการเรียงลำดับความคิดเห็น
คุณสามารถเปลี่ยนค่าการมองเห็นเริ่มต้นสำหรับความคิดเห็นใหม่ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องอนุมัติความคิดเห็นใหม่ๆ ทั้งหมด หากความคิดเห็นไม่ได้รับการอนุมัติ ความคิดเห็นนั้นจะปรากฏแก่ผู้แสดงความคิดเห็นเพียงผู้เดียวจนกว่าผู้ควบคุมจะอนุมัติความคิดเห็นดังกล่าว
โหมดการควบคุมมีอยู่ 3 โหมดที่แตกต่างกันดังนี้:
ความคิดเห็นทั้งหมดจะเป็นสาธารณะ และปรากฏขึ้นในแท็บ "ตรวจสอบ"
ความคิดเห็นทั้งหมดจะถูกซ่อนไว้
ผู้ควบคุมสามารถค้นหาผู้ใช้ที่ถูกแบนได้ในแท็บ "ผู้ใช้ที่ถูกแบน" หากความคิดเห็นใหม่ได้รับการเผยแพร่โดยผู้ใช้ที่ถูกแบน ระบบจะจำกัดการมองเห็นความคิดเห็นนี้และจะแสดงความคิดเห็นดังกล่าวในแท็บ "ตรวจสอบ" โดยอัตโนมัติ
คุณสามารถปิดเธรดความคิดเห็นบน URL ใดก็ได้ที่คุณกำลังใช้งานปลั๊กอินความคิดเห็น การทำเช่นนี้จะส่งผลให้ผู้ใช้ไม่สามารถเพิ่มความคิดเห็นใหม่ๆ ไปยังการพูดคุยในเว็บเพจนั้นได้ คุณสามารถปิดเธรดได้ในเมนูการตั้งค่า URL
หากคุณเปิดใช้งานการปิดอัตโนมัติแล้ว คุณจะสามารถยกเลิกเธรดที่ถูกปิดไปแล้วได้ ซึ่งจะเป็นการเปิดให้เธรดรับความคิดเห็นได้อีกครั้ง หากต้องการดำเนินการดังกล่าวนี้ ให้ไปที่การตั้งค่า URL และเปิดยกเลิกการปิดอัตโนมัติ จากนั้นตั้งค่าสถานะการปิดที่ต้องการสำหรับ URL ที่คุณกำลังควบคุมอยู่
หากต้องการใช้เครื่องมือควบคุม คุณจะต้องเชื่อมต่อบัญชี Facebook หรือแอพ Facebook กับการใช้งานปลั๊กอินความคิดเห็น
หากเว็บไซต์ของคุณมีช่องแสดงความคิดเห็นหลายช่อง เราขอแนะนำให้คุณระบุ ID ของแอพ Facebook ให้เป็นเอนทิตี้ที่ทำหน้าที่จัดการ ซึ่งหมายความว่าผู้ดูแลแอพทุกคนจะสามารถควบคุมความคิดเห็นได้ การดำเนินการเช่นนี้จะเปิดใช้งานอินเทอร์เฟซผู้ควบคุมบน Facebook ซึ่งความคิดเห็นจากปลั๊กอินทั้งหมดที่ได้รับการจัดการโดย ID ของแอพจะสามารถควบคุมร่วมกันได้ง่าย
<meta property="fb:app_id" content="{YOUR_APP_ID}" />
นอกเหนือจากผู้ใช้ที่คุณเพิ่มโดยใช้การตั้งค่าผู้ควบคุมแล้ว ผู้ดูแลทั้งหมดของแอพก็สามารถควบคุมความคิดเห็นได้เช่นกัน แต่จะมีเฉพาะผู้ควบคุมเท่านั้นที่จะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีความคิดเห็นใหม่ๆ ในกรณีที่คุณได้เปิดการแจ้งเตือนแล้ว
เมื่อคุณใช้งานช่องแสดงความคิดเห็นหลายช่องบนเว็บไซต์ของคุณและเชื่อมต่อไปยังแอพโดยการระบุ ID ของแอพ การตั้งค่าการควบคุมที่คุณเลือกจะมีผลกับช่องแสดงความคิดเห็นทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการควบคุมเป็นจำกัดการมองเห็นจะส่งผลต่อช่องแสดงความคิดเห็นทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ ID ของแอพเดียวกัน หากคุณจำเป็นต้องใช้การตั้งค่าการควบคุมที่แตกต่างกันในส่วนต่างๆ บนเว็บไซต์ คุณควรใช้ ID ของแอพอย่างน้อย 2 รายการ จากนั้นคุณจะสามารถใช้การตั้งค่าการควบคุมที่แตกต่างกันสำหรับกลุ่มช่องแสดงความคิดเห็นแต่ละกลุ่มได้
คุณสามารถระบุ fb:app_id
หรือ fb:admins
ได้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
หากต้องการกำหนดบัญชี Facebook เป็นผู้ดูแลการใช้งานปลั๊กอินความคิดเห็น ให้ใส่องค์ประกอบเมตาดังต่อไปนี้ในส่วน <head>
ของทุกเว็บเพจที่คุณใช้ปลั๊กอินความคิดเห็น:
<meta property="fb:admins" content="{YOUR_FACEBOOK_USER_ID}"/>
หากต้องการเพิ่มผู้ควบคุมหลายคน ให้เพิ่มองค์ประกอบมากกว่า 1 รายการ โดยให้แต่ละรายการมี 1 Facebook ID:
<meta property="fb:admins" content="{YOUR_FACEBOOK_USER_ID_1}"/> <meta property="fb:admins" content="{YOUR_FACEBOOK_USER_ID_2}"/>
การใช้ค่า fb:comments-count
จะแสดงจำนวนความคิดเห็นบน URL ที่กำหนดในองค์ประกอบ <span>
บนเว็บเพจของคุณ โดยคุณสามารถใช้งาน CSS เพื่อกำหนดรูปแบบองค์ประกอบ <span>
นี้ให้สอดคล้องกับส่วนที่เหลือของเว็บไซต์ได้ หมายเหตุ: ในขณะนี้ ฟีเจอร์นี้ยังไม่พร้อมให้ใช้งานใน HTML5
ตัวอย่างเช่น หากต้องการแสดงจำนวนความคิดเห็นใน example.com ให้ใช้โค้ดนี้:
<span class="fb-comments-count" data-href="https://example.com/"></span> awesome comments
ซึ่งการแสดงผลจะเป็นดังนี้:
69391 awesome comments
คุณสามารถดูจำนวนความคิดเห็นที่แสดงบน URL ที่กำหนดไว้ได้โดยใช้ API กราฟ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถดูจำนวนความคิดเห็นใน example.com ได้โดยใช้คุณสมบัติ comment_count
ในช่อง share
ของโหนด URL:
https://graph.facebook.com/v2.4/?fields=share{comment_count}&id=<YOUR_URL>
คุณสามารถตั้งค่า Webhooks เพื่อให้สคริปต์บนเซิร์ฟเวอร์ของคุณได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการโพสต์ความคิดเห็นใหม่ได้ วิธีเริ่มต้นใช้งาน:
https://example.org/mywebhook.php
แต่ก่อนนั้น ให้ดูเอกสารประกอบเกี่ยวกับ Webhooks เพื่อศึกษารายละเอียดทั้งหมดที่เกี่ยวกับวิธีการใช้สคริปต์
นี่คือตัวอย่างแบบคร่าวๆ ที่แสดงให้เห็นว่า mywebhook.php
อย่างง่ายใน PHP มีลักษณะเป็นอย่างไร
เริ่มจากการตรวจสอบยืนยัน:
<?php if ($_GET['hub_verify_token'] === 'make-up-a-token') { echo $_GET['hub_challenge']; }
make-up-a-token
นี้เป็นสตริงเดียวกับที่คุณป้อนในขั้นตอนที่ 7 ข้างต้น
จากนั้นก็บันทึกความคิดเห็นทั้งหมดเมื่อมีการโพสต์ได้เลย:
file_put_contents( 'log.txt', "\n" . file_get_contents('php://input'), FILE_APPEND ); ?>
โปรดทราบว่า $_POST
จะไม่ทำงานใน PHP คุณจึงต้องระบุ file_get_contents('php://input')
เมื่อตรวจสอบยืนยัน Webhook แล้ว คุณจะเห็น "plugin_comment" และ "plugin_comment_reply" ในส่วน Webhooks ของแดชบอร์ดของแอพ
คลิก "ทดสอบ" เพื่อตรวจสอบการนำไปใช้อีกครั้งด้วยตัวอย่างการตอบกลับ จากนั้นจึง "สมัครรับข้อมูล" เพื่อเริ่มเผยแพร่
คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตอบกลับได้ในเอกสารข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับ Webhooks