รายการบันทึกการเปลี่ยนแปลงแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ในลักษณะต่อไปนี้:
คุณสมบัติใหม่การเปลี่ยนแปลง และรายการที่เลิกใช้แล้วจะส่งผลต่อเวอร์ชั่นนี้เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน 90 วัน จะส่งผลต่อทุกเวอร์ชั่น
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะไม่รวมอยู่ในที่นี้ เนื่องจากไม่ขึ้นอยู่กับการออกเวอร์ชั่นใดโดยเฉพาะ
ออกเมื่อ 1 พฤษภาคม 2018 | ใช้ได้ถึง 28 กรกฎาคม 2020 | บล็อกโพสต์
subscribed_domains_phishing
ใหม่ของ API ใบรับรองความโปร่งใสเพื่อสมัครรับการแจ้งเตือนเรื่องการหลอกลวงสำหรับโดเมนgroups_access_member_info
และ publish_to_groups
วันหมดอายุของโทเค็นการเข้าถึง โทเค็นการเข้าถึงจะไม่สามารถใช้ได้ หากผู้ใช้ไม่มีส่วนร่วมกับแอพภายภายใน 90 วันที่ผ่านมา
id
first_name
last_name
middle_name
name
name_format
picture
short_name
age_range
context
cover
currency
devices
gender
link
locale
timezone
updated_time
verified
เราได้เลิกใช้งานสิทธิ์การอนุญาต rsvp_event
และ user_managed_groups
แล้ว โดยสิทธิ์การอนุญาต user_managed_groups
จะยังคงใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ในการทดสอบได้ แต่จะไม่สามารถส่งเข้ารับการตรวจสอบการเข้าสู่ระบบได้
groups_access_member_info
- สำหรับการรับข้อมูลสมาชิกที่เกี่ยวกับเนื้อหาของกลุ่ม
publish_to_groups
- สำหรับการโพสต์เนื้อหาลงในกลุ่มในนามของผู้ใช้
user_age_range
- สำหรับการเข้าถึงข้อมูลช่วงอายุของบุคคล
user_gender
- สำหรับการเข้าถึงข้อมูลเพศของบุคคล
user_link
- สำหรับการเข้าถึง URL โปรไฟล์ Facebook สำหรับผู้ใช้คนอื่นของแอพ
ไม่มีรายการที่เลิกใช้สำหรับเวอร์ชั่นนี้
ระบบจะส่งกลับค่าที่ไม่เป็นศูนย์เท่านั้นสำหรับเกณฑ์ชี้วัดข้อมูลแยกย่อยของข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเพจ
เกณฑ์ชี้วัดการมีส่วนร่วมในเรื่องราวของเพจและโพสต์ ซึ่งรวมถึง metric
ที่ใช้กับช่องเกณฑ์ชี้วัด ได้เปลี่ยนชื่อจาก stories
เป็น activity
เกณฑ์ชี้วัดการมีส่วนร่วมของการใช้งานโพสต์ในเพจ ประกอบด้วย metric
ที่ใช้กับช่องเกณฑ์ชี้วัด ซึ่งเปลี่ยนชื่อจาก post_consumption*
เป็น post_clicks*
GET /{page-id}/insights/{metric}
- เกณฑ์ชี้วัดต่อไปนี้จะถูกลบออกภายใน 90 วัน:
page_story_adds
page_story_adds_by_age_gender_unique
page_story_adds_by_city_unique
page_story_adds_by_country_unique
page_views
page_views_unique
page_views_login
page_views_login_unique
GET /{post-id}/insights/{metric}
- เกณฑ์ชี้วัดต่อไปนี้จะถูกลบออกภายใน 90 วัน:
post_story_adds_by_action_type
post_story_adds_by_action_type_unique
post_story_adds_unique
post_story_adds
post_fan_reach
post_interests_impressions
post_interests_impressions_unique
post_interests_consumptions
post_interests_consumptions_unique
post_interests_consumptions_by_type
post_interests_consumptions_by_type_unique
post_interests_action_by_type
post_interests_action_by_type_unique
/photos
- พารามิเตอร์ type
สำหรับจุดเชื่อมโยง /photos
(ซึ่งใช้งานได้ในโหนดหลายรายการ) จะไม่รองรับ uploaded
เป็นค่าสำหรับการดำเนินการ GET
(GET /object/photos?type=uploaded
) อีกต่อไปGET /user
- มีการเลิกใช้ช่อง third_party_id
แล้ว แอพที่ใช้ API เวอร์ชั่นเก่าจะยังรับช่องนี้ได้จนถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2018 แอพที่ติดตั้งโดยผู้ใช้หลังจากหรือในวันที่ 1 พฤษภาคม 2018 จะไม่สามารถรับช่องนี้ได้ ไม่ว่าจะใช้ API เวอร์ชั่นใดก็ตามออกเมื่อ 1 พฤษภาคม 2018 | ใช้ได้ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2019 | บล็อกโพสต์
bid_strategy
เราได้เปิดตัวช่อง bid_strategy
ที่เพิ่มเข้ามาใหม่สำหรับ {account-id}/adsets
ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกกลยุทธ์การประมูลโฆษณาตามเป้าหมายทางธุรกิจของคุณได้ แต่ละกลยุทธ์มีข้อดีและข้อเสีย ตัวเลือกประกอบด้วย:
LOWEST_COST
- รับผลลัพธ์ที่มากที่สุดตามงบประมาณชุดโฆษณาของคุณและ optimization_goal
ของการแสดงโฆษณา Facebook จะเสนอราคาประมูลเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติตามความจำเป็น เพื่อใช้จ่ายงบประมาณของคุณ คุณจะระบุค่าสูงสุดสำหรับราคาประมูลหรือระบุไม่จำกัดก็ได้ด้วยตัวเลือกนี้
TARGET_COST
- ให้ต้นทุนเฉลี่ยที่เสถียรสำหรับโฆษณาของคุณ เมื่อคุณเพิ่มงบประมาณชุดโฆษณาของคุณ
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในการซื้อโฆษณาและการปรับให้เหมาะสม, กลยุทธ์การประมูล
API ใหม่สำหรับการสร้างโฆษณาคอลเลกชั่น - ในอดีต Facebook จะสร้างแคนวาสไว้เบื้องหลังในแต่ละครั้งที่คุณสร้างโฆษณาคอลเลกชั่น ซึ่งทำให้การเข้าถึงแคนวาสที่อยู่เบื้องหลังของคุณถูกจำกัด กล่าวคือ คุณจะไม่สามารถใช้โฆษณานี้เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายซ้ำด้วยกลุ่มเป้าหมายการมีส่วนร่วมของแคนวาสได้ แต่ในตอนนี้ เมื่อคุณสร้างโฆษณาคอลเลกชั่นจากชุดสินค้าแล้ว คุณจะต้องสร้างแคนวาสโดยชัดแจ้งด้วยองค์ประกอบที่ถูกต้องด้วย เมื่อคุณใช้แคนวาสนี้ในโฆษณาคอลเลกชั่น Facebook จะสร้างโฆษณาคอลเลกชั่นโดยอัตโนมัติ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในโฆษณาคอลเลกชั่นจากชุดสินค้า
การไม่อนุญาตให้ใช้คอลัมน์ด้านขวา - เราจะไม่อนุญาตให้ใช้โฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเป็นตำแหน่งของ Facebook เท่านั้น นั่นคือ right_hand_column
ที่มีวัตถุประสงค์ไม่ถูกต้องสำหรับ right_hand_column
บน {ad_account_id}/adsets
ในขณะนี้ เรารองรับตำแหน่งการจัดวางด้านขวาเท่านั้นสำหรับรูปแบบโฆษณาที่รองรับโดยมีวัตถุประสงค์ต่างๆ ได้แก่ จำนวนผู้เข้าชม คอนเวอร์ชั่น และยอดขายตามแค็ตตาล็อกสินค้า
เราได้เลิกใช้ is_autobid
และ is_average_price_pacing
แล้วทั้งใน GET
และ POST
เวอร์ชั่น 3.0 ขึ้นไป
รูปแบบของกฎที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง - เราได้อัพเดตโครงสร้างสำหรับกฎที่ใช้ในการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของเว็บไซต์ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของแอพมือถือ กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการมีส่วนร่วมในเพจ กลุ่มเป้าหมายการมีส่วนร่วมสำหรับโฆษณาแบบกรอกฟอร์ม กลุ่มเป้าหมายการมีส่วนร่วมสำหรับแคนวาส และกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองแบบออฟไลน์ การดำเนินการนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างกฎตามพฤติกรรมการรวม สร้างกฎจากแหล่งเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน และยกเว้นกฎต่างๆ ได้ โปรดดู:
การเข้าถึงแค็ตตาล็อกสินค้า - คุณต้องระบุหมวดหมู่แค็ตตาล็อกที่ถูกต้องจึงจะเข้าถึงรายการแค็ตตาล็อกได้ หากคำขอของคุณไม่ตรงกับหมวดหมู่ที่ถูกต้องสำหรับแค็ตตาล็อกของคุณ คุณจะได้รับข้อผิดพลาด ตัวอย่างเช่น หากคุณมีแค็ตตาล็อกอีคอมเมิร์ซ คุณควรเข้าถึงแค็ตตาล็อกดังกล่าวด้วยตำแหน่งข้อมูล /products
ที่ตรงกัน เช่น GET {catalog_id}/products
, GET {product_feed_id}/products
หรือ GET {product_set_id}/products
คุณจะเข้าถึงแค็ตตาล็อกที่มีตำแหน่งข้อมูลสำหรับหมวดหมู่อื่นๆ ไม่ได้ เช่น GET {catalog_id}/autos
, GET {product_feed_id}/hotels
หรือ GET {product_set_id}/flights
สตริงเปล่าในแท็กเทมเพลต - เราไม่อนุญาตให้ใช้สตริงว่างเป็นพารามิเตอร์อีกต่อไปสำหรับโฆษณาแบบไดนามิกและตัวเลือกแท็กเทมเพลต ตัวอย่างเช่น หากคุณส่งสตริงเปล่าให้กับ {{trip.checkin_date date_format:}}
คุณจะได้รับข้อผิดพลาด โปรดดูข้อมูลเบื้องหลังในโฆษณาแบบไดนามิก, การจัดการโฆษณา
การหมดเวลาของข้อมูลเชิงลึก - หากเราคาดว่าคำขอ API ข้อมูลเชิงลึกจะหมดเวลาก่อนที่จะเสร็จสิ้น เราจะส่งคืนข้อผิดพลาดพร้อมรหัสข้อผิดพลาด 100
และรหัสย่อย 1504033
เราจะประมาณค่านี้ตามขนาดของคำขอและความคืบหน้าในการประมวลผลที่ทำขึ้นโดยสัมพันธ์กับขีดจำกัดของการหมดเวลา หากคุณได้รับข้อผิดพลาดนี้ คุณควรสร้างคำขอ API ข้อมูลเชิงลึกแบบไม่ประสานเวลาสำหรับข้อมูลดังกล่าว โปรดดูงานแบบไม่ประสานเวลาของ API ข้อมูลเชิงลึก
ค่าติดลบในข้อมูลเหตุการณ์ - คุณจะไม่สามารถโพสต์ข้อมูลเหตุการณ์ไปยัง {data_set_id}/events
ด้วยค่าติดลบได้ โดยการดำเนินการเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อช่อง data
สำหรับ POST /{data_set_id-id}/events
ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ - ในตอนนี้ adset_budget_value
จะส่งคืน using campaign budget
เมื่อแคมเปญโฆษณาของคุณใช้การปรับให้เหมาะสมกับงบประมาณแคมเปญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งต่อไปนี้:
GET {adaccount-id}/insights
GET {campaign-id}/insights
GET {adset-id}/insights
GET {ad-id}/insights
POST {adaccount-id}/insights
POST {campaign-id}/insights
POST {adset-id}/insights
POST {ad-id}/insights
การเรียงลำดับตามค่าเริ่มต้นสำหรับพิกเซล - หากคุณเรียกจุดเชื่อมโยง GET {account_id}/adspixel
ในบัญชีธุรกิจหรือบัญชีโฆษณาอย่างใดอย่างหนึ่ง เราจะส่งคืนผลลัพธ์ซึ่งมีการเรียงลำดับตามชื่อพิกเซลโดยค่าเริ่มต้น แทนที่จะใช้เวลาส่งสัญญาณของพิกเซลครั้งสุดท้าย
เปลี่ยนชื่อช่องสถิติพิกเซล - เราได้เปลี่ยนชื่อช่อง timestamp
ในจุดเชื่อมโยงสถิติพิกเซลเป็น start_time
ซึ่งแสดงถึงเวลาเริ่มต้นเมื่อเราเริ่มรวบรวมข้อมูลรายชั่วโมงเกี่ยวกับการส่งสัญญาณของพิกเซล ในปัจจุบัน เราจะส่งคืนค่านี้ในรูปแบบ ISO 8601 และรวมออฟเซ็ตโซนเวลาไว้ด้วย ซึ่งจะแก้ไขปัญหากรณีที่เราส่งคืนการประทับเวลาของ Unix ที่ไม่ถูกต้อง โดยตำแหน่งข้อมูลที่จะได้รับผลกระทบก็คือ GET {ads-pixel-id}/stats
เลิกใช้ตำแหน่งข้อมูล POST {pixel-id}/shared_agencies
แล้ว โปรดใช้ UI ตัวจัดการธุรกิจเพื่อแชร์พิกเซลโฆษณากับบริษัทโฆษณา
kpi_custom_conversion_id
, kpi_type
และ kpi_results
จาก /{ad_campaign_id}
และ /ad_account_ID/campaigns
แล้วPOST {ad-id}/
POST {adset-id}/
POST act_{ad-account-id}
POST act_{ad-account-id}/ads
POST act_{ad-account-id}/adsets
เลิกใช้ช่อง zipbytes
จาก POST act_{ad-account-id}/adimages
และนำความสามารถในการอัพโหลดไฟล์ ZIP ที่จุดเชื่อมโยงดังกล่าวออกแล้ว โปรดใช้รูปภาพที่มีนามสกุลต่างๆ ได้แก่ jpg
, jpeg
, gif
, bmp
, png
, tiff
หรือ tif
เลิกใช้วิธีปัจจุบันในการสร้างโฆษณาคอลเลกชั่น ซึ่งใช้การเรียกใช้ API ครั้งเดียวโดยใช้องค์ประกอบที่จำเป็นทั้งหมดเป็นพารามิเตอร์ โดยปัจจุบัน คุณจะต้องสร้างแคนวาสก่อน แล้วจึงใช้ลิงก์แคนวาสเพื่อสร้างโฆษณาคอลเลกชั่นแทน ซึ่งทำให้คุณสามารถเข้าถึงอ็อบเจ็กต์แคนวาสที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายซ้ำได้ เป็นต้น ดูโฆษณาคอลเลกชั่น
เลิกใช้รูปแบบโฆษณาแบบภาพสไลด์สำหรับโฆษณาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการมีส่วนร่วมในโพสต์บนเพจ รูปแบบผสมผสานนี้ใช้ไม่ได้อีกแล้ว โปรดดูการตรวจสอบความถูกต้องในส่วนวัตถุประสงค์และชิ้นงานโฆษณา
is_autobid
และ is_average_price_pacing
จากตำแหน่งข้อมูลต่างๆ ได้แก่ POST {ad-account-id}/adsets
และ POST {adset-id}
โดยได้เปลี่ยนมาใช้ช่อง bid_strategy
ใหม่แทนเพื่อระบุกลยุทธ์การประมูลเฉพาะสำหรับชุดโฆษณา โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมในการประมูลและการปรับให้เหมาะสมเลิกใช้ช่องภายใต้ delivery_estimate
สำหรับโฆษณาและบัญชีโฆษณา ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามความต้องการของผู้ลงโฆษณา นอกจากนี้ ผู้ลงโฆษณาหลายรายยังมีเป้าหมายทางธุรกิจต่างๆ ที่อาจไม่ได้บรรลุอย่างเต็มที่ด้วยจำนวนราคาประมูลที่ Facebook แนะนำ ช่องและพารามิเตอร์ที่เลิกใช้แล้วประกอบด้วย:
ช่อง bid_estimate
พารามิเตอร์ currency
พารามิเตอร์ daily_budget
พารามิเตอร์ optimize_for
เราขอแนะนำให้คุณใช้ค่าธุรกิจภายในที่แท้จริงซึ่งคุณได้รับจากโฆษณาและการประมูลบน Facebook ตามค่าดังกล่าวนี้ หากคุณยังไม่ทราบค่านี้ เราขอแนะนำให้ใช้ราคาประมูลอัตโนมัติ โปรดดูข้อมูลเบื้องหลังในศูนย์ช่วยเหลือด้านโฆษณาในเรื่องการประมูลโฆษณาและการซื้อโฆษณาและการปรับให้เหมาะสม
เลิกใช้ค่าที่ส่งคืนจากช่อง curve_budget_reach
ที่ GET /{rf-prediction-id}
ในขณะนี้ เราจะส่งคืนแผนที่ และเลิกใช้ค่าที่ส่งคืนสตริงที่เรียงลำดับของ JSON ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ GET /{rf-prediction-id}
เลิกใช้จุดเชื่อมโยง GET /{ad-account-id}/ratecard
แล้ว
เลิกใช้หลายช่องที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงินใน /ad_accounts
ซึ่งรวมถึงรายการต่อไปนี้:
next_bill_date
active_billing_date_preference
pending_billing_date_preference
active_asl_schedule
salesforce_invoice_group_id
transactions
adspaymentcycle
show_checkout_experience
pixel_id
และ external_event_source
จาก GET /customaudience
แล้วเลิกใช้ matched_unique_users
ใน OFFLINE_EVENT_SET_ID
ที่ส่งคืนโดย GET /{data-set-id}
และ GET /{data-set-upload-id}
โปรดดู API คอนเวอร์ชั่นแบบออฟไลน์
เลิกใช้จุดเชื่อมโยง attributed_events
และช่อง attribute_stats
ใน GET /{data_set_id} API
ใช้ API GET /{data_set_id}/stats
เพื่อรับสถิติเหตุการณ์ที่ได้รับการระบุที่มา
เลิกใช้ช่อง matched_unique_users
ใน OFFLINE_EVENT_SET_ID
ที่ส่งคืนโดย GET /{data-set-id}
และ GET /{data-set-upload-id}
เลิกใช้ค่าที่ส่งคืนตามค่าเริ่มต้นที่ GET {data_set_upload_id}
ช่องต่อไปนี้จะไม่ได้รับการส่งคืนตามค่าเริ่มต้นอีกต่อไป ได้แก่ first_upload_time
, last_upload_time
, api_calls
, valid_entries
, matched_entries
, duplicate_entries
, event_time_min
, event_time_max
, event_stats
และ matched_unique_users
เลิกใช้ค่าที่ส่งคืนตามค่าเริ่มต้นที่ GET {data_set_id}/stats
ในปัจจุบันจะมีการส่งคืนเฉพาะสถิติจำนวนตามค่าเริ่มต้นเท่านั้น หากต้องการระบุว่าควรจะส่งคืนสถิติใด ให้ใช้พารามิเตอร์ fields
หรือพารามิเตอร์ summary
สำหรับสถิติสะสม เช่น average_upload_delay
เลิกใช้ค่าที่ส่งคืนตามค่าเริ่มต้นสำหรับ GET {data_set_id}
ช่องต่อไปนี้จะไม่ได้รับการส่งคืนตามค่าเริ่มต้นอีกต่อไป ได้แก่ attribute_stats
, duplicate_entries
, event_stats
, event_time_max
, event_time_min
, matched_entries
, matched_unique_users
, usage
และ valid_entries
เลิกใช้จุดเชื่อมโยง GET {data-set-upload-id}/stats
แล้ว โปรดใช้ช่อง valid_entries
หรือ matched_entries
จาก GET {data-set-upload-id}
แทน
เลิกใช้ canvas_component_avg_pct_view
จาก API ข้อมูลเชิงลึก