ปุ่มเข้าสู่ระบบเป็นวิธีง่ายๆ ในการเริ่มต้นกระบวนการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook บนเว็บไซต์หรือแอพบนเว็บของคุณ
หากผู้ใช้ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบแอพของคุณ ผู้ใช้เหล่านั้นจะเห็นปุ่มนี้ และเมื่อคลิกที่ปุ่มนี้ ระบบก็จะเปิดกล่องการเข้าสู่ระบบขึ้นมา ซึ่งเป็นการเริ่มต้นขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ ส่วนผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบอยู่แล้วจะไม่เห็นปุ่มใดๆ หรือคุณจะเลือกแสดงปุ่มออกจากระบบให้กับผู้ใช้เหล่านี้ก็ได้เช่นกัน
หากคุณแสดงปุ่มออกจากระบบ เมื่อผู้ใช้ใช้ปุ่มดังกล่าวเพื่อออกจากระบบ ผู้ใช้จะออกจากระบบทั้งแอพของคุณและจาก Facebook
ปุ่มเข้าสู่ระบบได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับ JavaScript SDK เท่านั้น หากคุณกำลังสร้างแอพมือถือหรือไม่สามารถใช้ JavaScript SDK ของเราได้ คุณควรปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการเข้าสู่ระบบสำหรับแอพประเภทนั้นๆ แทน
ปุ่มดำเนินการต่อด้วย Facebook จะเข้ามาแทนที่ปุ่มเข้าสู่ระบบเวอร์ชั่นต่างๆ ก่อนหน้านี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่การย้าย
ปุ่ม “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” จะมีข้อความว่า “ดำเนินการต่อในชื่อ {persons' name}” อยู่ และอาจจะมีรูปโปรไฟล์ของบุคคลนั้นๆ อยู่ด้วยก็ได้ หากผู้ใช้เหล่านั้นเข้าสู่ระบบ Facebook ในเบราว์เซอร์เดียวกัน หากต้องการใช้ปุ่ม “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” คุณจะต้องโหลด JavaScript SDK เสียก่อน โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการตั้งค่า JavaScript SDK ที่การเริ่มต้นใช้งานอย่างง่ายสำหรับ JavaScript SDK เปิดใช้งาน “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” โดยการเพิ่ม data-use-continue-as="true"
ลงในการตั้งค่าสำหรับปุ่มของคุณ
คุณไม่สามารถปรับแต่งความสูงของปุ่ม “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” ได้
ขนาดของปุ่ม | ความสูง | ความกว้าง | กำหนดความกว้างเองได้หรือไม่ |
---|---|---|---|
เล็ก | 20 พิกเซล | 200 พิกเซล | ไม่ได้ |
ปานกลาง | 28 พิกเซล | 200 - 320 พิกเซล | ได้ |
ใหญ่ | 40 พิกเซล | 240 - 400 พิกเซล | ได้ |
หากคุณเลือกขนาดที่เกินกว่าพารามิเตอร์สูงสุด ปุ่มดังกล่าวจะใช้ค่าเริ่มต้นเป็นความกว้างสูงสุด
ปุ่ม “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” อาจเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มจำนวนการคลิกและการมีส่วนร่วม ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเห็นรูปโปรไฟล์และชื่อบนปุ่มเข้าสู่ระบบของเราได้ และอาจช่วยให้แอพของคุณเหมาะกับแต่ละบุคคลมากยิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ อาจเป็นเรื่องน่าสับสนได้เช่นกันหากผู้ใช้ไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นชื่อและรูปโปรไฟล์ของตนในบริบทนี้ โปรดพิจารณาสิ่งต่อไปนี้เพื่อดูว่า “ดำเนินการต่อในชื่อ” เหมาะกับแอพของคุณที่สุดหรือไม่
แม้ว่า “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” จะไม่เหมาะกับแอพของคุณ แต่คุณก็ยังคงสามารถลองใช้ปุ่ม JavaScript SDK แบบใหม่ๆ ที่ระบุว่า “ดำเนินการต่อด้วย Facebook” ได้
เราให้บริการแก่ฐานผู้ใช้ทั่วโลก และภูมิภาคต่างๆ ก็มีความคาดหวังของผู้ใช้ที่แตกต่างกันไป ให้คำนึงถึงความคาดหวังเหล่านั้นอยู่เสมอเวลาที่ใช้ปุ่มนี้
แอพของคุณเป็นแอพโซเชียล:
เมื่อผู้คนใช้แอพโซเชียล ผู้ใช้เหล่านี้จะคาดหวังว่าจะได้เชื่อมต่อกับคนอื่นๆ เราได้เห็นแล้วว่า “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” มีประสิทธิภาพดีในกรณีเหล่านี้
ผู้คนในตลาดเป้าหมายใช้โทรศัพท์ร่วมกัน:
เมื่อมีคนหลายคนใช้โทรศัพท์เดียวกัน “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” จะช่วยเน้นย้ำให้บุคคลเหล่านี้มั่นใจได้ว่ากำลังใช้บัญชีที่ถูกต้องอยู่
แอพของคุณเป็นแอพใหม่:
หากแอพของคุณเพิ่งเข้ามาในตลาด ผู้ใช้ของคุณอาจมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเกิดความสับสนว่าเหตุใดชื่อและรูปโปรไฟล์ของตนจึงแสดงขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยเปรียบเทียบกับแอพซึ่งเป็นที่รู้จักหรือคุ้นเคยที่ผู้ใช้วางแผนที่จะใช้เป็นประจำ
ผู้คนในตลาดเป้าหมายมีความกังวลในเรื่องความเป็นส่วนตัว:
ในหลายประเทศ รูปโปรไฟล์ถือเป็นข้อมูลที่มีความเป็นส่วนตัวมาก คุณอาจต้องหลีกเลี่ยงโดยใช้ “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}” ในกรณีนี้ เนื่องจากระบบจะแสดงรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบแล้ว
โปรดปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วไปสำหรับการใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook การปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ดีที่สุด 2 ประการเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้ “ดำเนินการต่อในชื่อ {Name}”
หลักปฏิบัติที่ดีที่สุดอื่นๆ บางส่วนที่เป็นไปได้มีดังนี้
<script> var finished_rendering = function() { console.log("finished rendering plugins"); var spinner = document.getElementById("spinner"); spinner.removeAttribute("style"); spinner.removeChild(spinner.childNodes[0]); } FB.Event.subscribe('xfbml.render', finished_rendering); </script> <div id="spinner" style=" background: #4267b2; border-radius: 5px; color: white; height: 40px; text-align: center; width: 250px;"> Loading <div class="fb-login-button" data-max-rows="1" data-size="large" data-button-type="continue_with" data-use-continue-as="true" ></div> </div>
นอกเหนือจากการตั้งค่าข้างต้นแล้ว คุณยังสามารถเปลี่ยนรายการต่อไปนี้ได้
การตั้งค่า | แอตทริบิวต์ HTML5 | คำอธิบาย | ตัวเลือก |
---|---|---|---|
|
| หากเปิดใช้งาน ปุ่มนี้จะเปลี่ยนเป็นปุ่มออกจากระบบเมื่อผู้ใช้เข้าสู่ระบบแล้ว |
|
|
| ฟังก์ชั่น JavaScript ที่จะเริ่มทำงานเมื่อกระบวนการเข้าสู่ระบบเสร็จสมบูรณ์ |
|
|
| รายการสิทธิ์การอนุญาตที่จะร้องขอในระหว่างการเข้าสู่ระบบ |
|
|
| เลือกตัวเลือกขนาดมา 1 ตัวเลือกสำหรับปุ่มนั้นๆ |
|
|
| กำหนดว่าจะเลือกกลุ่มเป้าหมายใดโดยค่าเริ่มต้น เมื่อร้องขอสิทธิ์ในการเขียน |
|
ระบบจะย้ายปุ่มแบบเก่าไปใช้ปุ่มแบบใหม่แทน ตารางต่อไปนี้จะแสดงการจับคู่
ปุ่มแบบเก่า | ความสูงเก่า | ปุ่มแบบใหม่ | ความสูงใหม่ |
---|---|---|---|
ไอคอน | 18 พิกเซล | เลิกใช้แล้ว | เลิกใช้แล้ว |
เล็ก | 18 พิกเซล | เล็ก | 20 พิกเซล |
ปานกลาง | 22 พิกเซล | เล็ก | 20 พิกเซล |
ใหญ่ | 25 พิกเซล | เล็ก | 20 พิกเซล |
ใหญ่พิเศษ | 39 พิกเซล | เล็ก | 20 พิกเซล |
ปุ่ม “Continue as {Name}” แบบใหม่นี้จะมีพารามิเตอร์ที่เรียกว่า button_type
ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับปุ่มแบบเก่า พารามิเตอร์นี้เป็นวิธีที่คุณใช้ระบุถึงปุ่ม “ดำเนินการต่อด้วย Facebook” หรือ “เข้าสู่ระบบด้วย Facebook” หากคุณไม่ได้ระบุประเภทของปุ่ม ระบบจะแสดงปุ่มเป็นปุ่มใหม่ขนาดเล็กๆ โดยขนาดนี้จะอยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับปุ่มแบบเก่า ทั้งนี้ ในกรณีของ x-large
ปุ่มจะย่อขนาดลงเล็กน้อย แต่หากคุณระบุพารามิเตอร์ button_type
ไว้ ปุ่มของคุณก็จะปรากฏตามที่ระบุ
คุณสามารถทำให้ปุ่มโหลดเร็วขึ้นได้โดยการเปิดใช้ JavaScript SDK โดยเร็วที่สุด แต่ระบบไม่สามารถโหลดปุ่มได้จนกว่าเว็บเพจและ JavaScript จะโหลดเสร็จ จากนั้นจึงจะสามารถสร้าง iframe และโหลดทรัพยากรต่างๆ ในการแสดงปุ่มได้
<div class="fb-login-button" data-max-rows="1" data-size="<medium, large>" data-button-type="continue_with" data-width="<100% or px>" data-scope="<comma separated list of permissions, e.g. public_profile, email>" ></div> }
การโหลดปุ่มเป็นรูปแบบภาษาอื่นจำเป็นต้องใช้ JavaScript SDK จึงจะโหลดรูปแบบภาษานั้นๆ ได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปล JavaScript SDK เป็นภาษาท้องถิ่นที่การแปลเป็นภาษาท้องถิ่นด้วยโซเชียลปลั๊กอินและ JavaScript SDK
ทันทีที่มีคนคลิกที่ปุ่มเข้าสู่ระบบและยอมรับกล่องการเข้าสู่ระบบ (กล่าวคือ ทำตามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบจนเสร็จสมบูรณ์) แอพของคุณก็จะสามารถใช้ Facebook SDK สำหรับ JavaScript เพื่อเรียกใช้ API ในนามของบุคคลนั้นๆ ได้เลย
คุณไม่จำเป็นต้องตั้งค่าใดๆ เพิ่มเติมในส่วนนี้ แต่คุณสามารถใช้การตั้งค่า onlogin
ในปุ่มเพื่อเริ่มใช้งานฟังก์ชั่น JavaScript ของคุณเอง ซึ่งจะทำงานเมื่อมีการเข้าสู่ระบบ
ใช้ได้ แต่คุณยังจำเป็นต้องใช้ JavaScript SDK ในบางส่วน ทันทีที่กระบวนการเข้าสู่ระบบที่เริ่มต้นจากการคลิกปุ่มเสร็จสิ้นลงแล้ว SDK จะมีสิทธิ์เข้าถึงอ็อบเจ็กต์ authResponse
โดยใช้ FB.getLoginStatus()
คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้เพื่อส่งอ็อบเจ็กต์การตอบกลับไปยังโค้ดฝั่งเซิร์ฟเวอร์ของคุณได้ เพื่อทำการลงทะเบียนที่มีอยู่นั้นให้เสร็จสมบูรณ์
ปุ่มเข้าสู่ระบบไม่รองรับการส่งคำขออีกครั้ง เนื่องจากการร้องขอสิทธิ์การอนุญาตที่ถูกปฏิเสธไม่ได้สอดคล้องกับถ้อยคำที่อยู่บนปุ่ม หากคุณจำเป็นต้องร้องขอสิทธิ์การอนุญาตอีกครั้ง ให้ตั้งค่าปุ่มที่กำหนดเองและใช้ FB.login()
ตามที่อธิบายไว้ในเอกสารประกอบเรื่องการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับเว็บ
ระบบจะแปลงแท็ก <div>
เป็นปุ่มที่แสดงขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า XFBML ซึ่งอาศัย JavaScript ใน SDK ในการแยกวิเคราะห์หน้าและทำการแทนที่ต่างๆ หากคุณเปลี่ยนแปลงเนื้อหาบนหน้าอยู่ตลอด เพื่อเพิ่ม div
เหล่านี้หลังจากที่เมธอด init
ของ SDK ได้รันไปแล้ว (เช่น ในกล่องโต้ตอบที่สร้างขึ้นแบบไดนามิก) คุณจำเป็นต้องเรียกใช้ FB.XFBML.parse() อีกครั้ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนั้นแสดงผล