เมื่อสิ้นสุดกระบวนการเข้าสู่ระบบ ระบบจะสร้างโทเค็นการเข้าถึงขึ้นมา โทเค็นการเข้าถึงนี้จะส่งไปพร้อมกับการเรียกใช้ API ทุกครั้งเพื่อเป็นหลักฐานว่าการเรียกใช้นี้สร้างโดยผู้ใช้คนใดและมาจากแอพใด
Facebook SDK for Javascript จะจัดการเก็บโทเค็นการเข้าถึงและติดตามสถานะการเข้าสู่ระบบในเบราว์เซอร์โดยอัตโนมัติ คุณจึงไม่ต้องดำเนินการจัดเก็บโทเค็นการเข้าถึงในเบราว์เซอร์เอง
อย่างไรก็ตาม วิธีทั่วไปคือการรับโทเค็นการเข้าถึงและส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ และเซิร์ฟเวอร์จะเรียกใช้ในนามของบุคคลนั้น คุณสามารถใช้อ็อบเจ็กต์ response
ที่ส่งคืนผ่าน FB.getLoginStatus()
เพื่อรับโทเค็นจากเบราว์เซอร์ได้:
FB.getLoginStatus(function(response) { if (response.status === 'connected') { console.log(response.authResponse.accessToken); } });
โทเค็นเป็นสตริงแบบทึบที่ปรับเปลี่ยนความยาวได้
โปรดทราบว่าโทเค็นการเข้าถึงที่สร้างขึ้นในเบราว์เซอร์มักจะหมดอายุภายในสองสามชั่วโมง และจะรีเฟรชโดยอัตโนมัติด้วย JavaScript SDK หากคุณทำการเรียกใช้จากเซิร์ฟเวอร์ คุณจะต้องสร้างโทเค็นระยะยาว ซึ่งอธิบายรายละเอียดไว้ในเอกสารประกอบเกี่ยวกับโทเค็นการเข้าถึงของเรา
แอพมักจะต้องยืนยันว่าการตอบกลับจากกล่องการเข้าสู่ระบบมาจากบุคคลเดียวกันกับที่เริ่มต้นกระบวนการ หากคุณใช้งาน JavaScript SDK ของ Facebook การตรวจสอบนี้จะดำเนินการโดยอัตโนมัติ คุณจึงไม่ต้องดำเนินการใดๆ หากคุณทำการเรียกใช้จากเบราว์เซอร์เท่านั้น
หากคุณเลือกที่จะส่งโทเค็นกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ยืนยันโทเค็นการเข้าถึงอีกครั้งเมื่อส่งไปถึงเซิร์ฟเวอร์แล้ว รายละเอียดเกี่ยวกับการยืนยันโทเค็นอีกครั้งมีอยู่ในเอกสารประกอบของเราในหัวข้อการสร้างขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยตัวเอง คุณจะต้องยืนยันว่า app_id
และ user_id
ตรงกับค่าที่คุณคาดว่าจะได้รับจากตำแหน่งข้อมูลการแก้ไขจุดบกพร่องของโทเค็นการเข้าถึง
เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นตอนนี้ บุคคลจะได้รับการยืนยันตัวตนและเข้าสู่ระบบแล้ว และแอพของคุณก็พร้อมจะทำการเรียกใช้ API จากเบราว์เซอร์ในนามของบุคคลนั้น วิธีดำเนินการในเบราว์เซอร์ที่ง่ายที่สุดคือการเรียกใช้ FB.api()
เนื่องจาก FB.api()
จะเพิ่มโทเค็นการเข้าถึงให้กับการเรียกใช้โดยอัตโนมัติ
โค้ดนี้:
FB.api('/me', function(response) { console.log(JSON.stringify(response)); });
จะส่งคืนอาร์เรย์ที่มี ID และชื่อ:
{ "id":"101540562372987329832845483", "name":"Bob Smith" }
หากคุณเรียกใช้ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ด้วยโทเค็นการเข้าถึง คุณจะสามารถใช้ SDK บนเซิร์ฟเวอร์เพื่อเรียกใช้ในลักษณะคล้ายกันนี้ได้ หลายคนก็เลือกใช้ PHP เพื่อสร้างแอพพลิเคชั่นบนเว็บ คุณสามารถดูตัวอย่างการเรียกใช้ API ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ได้ในเอกสารประกอบเกี่ยวกับ PHP SDK ของเรา
ผู้คนสามารถถอนการติดตั้งแอพผ่าน Facebook.com โดยไม่ต้องโต้ตอบกับตัวแอพได้ เราจึงช่วยให้แอพได้ตรวจจับการถอนการติดตั้ง โดยอนุญาตให้แอพระบุ URL การเรียกกลับเพื่อเลิกให้อนุญาตซึ่งจะได้รับข้อมูลทุกครั้งที่มีการถอนการติดตั้ง
คุณสามารถเปิดใช้งานการเรียกกลับเพื่อเลิกให้อนุญาตได้ผ่านทางแดชบอร์ดของแอพ