คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูล

In response to the upcoming changes to ATT enforcement, we made changes to the iOS SDK and the SDK no longer provides valid user access tokens in scenarios where the user opts out of ATT. The access token validation or Graph API requests may throw errors like OAuthException - “Invalid OAuth access token - Cannot parse access token”. Our recommendation is that users integrate Limited Login following the official documentation:

• Limited Login for iOS
• Limited Login for Unity

When users opt out of ATT, all Facebook Login traffic will be performed on the Limited Login domain. Limited Login does not support business permissions. Our recommendation is that developers integrate Limited Login following the official documentation. See limited login supported permissions in this document.

When users opt out of ATT, all Facebook Login traffic will be performed on the limited login domain via the in-app browser. Limited Login does not support fast app switch (that is, redirecting to fb app to login). See limitations section of the Limited Login for iOS document.

Please see the official documentation, Validating the Limited Login OIDC Token.

Please see key considerations for user_friends with Limited Login in the Permissions in Limited Login document.

We made changes both to the iOS SDK and our core login systems to support the privacy manifest requirements based on the upcoming App Transparency Tracking enforcement so that iOS users who have opted out of ATT are able to use FBLogin. As a result, we do not plan to release the privacy manifest as part of a minor update.

เมื่อเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูล ระบบจะยืนยันตัวตนผู้ใช้ของคุณและสร้างอินสแตนซ์ที่ใช้ร่วมกันของโทเค็นการยืนยันตัวตน ข้อมูลเพิ่มเติมจากการเรียกใช้การยืนยันตัวตนจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างอินสแตนซ์โปรไฟล์ผู้ใช้ที่ใช้ร่วมกันที่มาพร้อมช่องกรอกข้อมูลพื้นฐาน

คำขอกราฟจะล้มเหลวเพราะไม่มีโทเค็นการเข้าถึง ในการรับโทเค็นการเข้าถึง ให้ใช้วิธีการเข้าสู่ระบบแบบดั้งเดิม (ตั้งค่าเริ่มต้นของการติดตามให้เป็นเปิดใช้งาน) ซ้ำ หรือเรียก FBSDKLoginManagerlogInFromViewController:configuration:completion: ที่มีการกำหนดค่าซึ่งระบุว่าเปิดใช้งานการติดตามแล้ว โปรดทราบว่าเมื่อคุณดำเนินการดังกล่าว ผู้ใช้จะได้รับการติดตาม

คุณจำเป็นต้องมีโทเค็นการเข้าถึง โดยให้ใช้วิธีการเข้าสู่ระบบแบบดั้งเดิมซ้ำ (ตั้งค่าเริ่มต้นของการติดตามให้เป็นเปิดใช้งาน) หรือเรียก FBSDKLoginManagerlogInFromViewController:configuration:completion: ที่มีการกำหนดค่าซึ่งระบุว่าเปิดใช้งานการติดตามแล้ว ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณได้รับโทเค็นการเข้าถึงที่สามารถใช้ในการเรียก API กราฟได้ โปรดทราบว่าเมื่อคุณดำเนินการดังกล่าว ผู้ใช้จะได้รับการติดตาม

When you use Limited Login to request user_friends from a user, we provide you with a list of app scoped IDs (ASIDs) associated with the friends of the authorizing user, if the friends have also granted your app the user_friends permission. Depending on how you have implemented Limited Login, some of the ASIDs on this list may represent other users that have connected to your app using Limited Login. To ensure that Limited Login safeguards are maintained for such users, do not make Graph API calls using their ASIDs. Instead, continue to rely on Limited Login for these users.

มี ซึ่งคือคุณสมบัติสาธารณะเพิ่มเติม 2 คุณสมบัติดังนี้:

• loginTracking ซึ่งสามารถใช้รับหรือกำหนดลักษณะการติดตามที่ต้องการเพื่อใช้ในการเข้าสู่ระบบ โดยมีค่าเริ่มต้นเป็น .enabled

• nonce ซึ่งสามารถใช้รับหรือกำหนดรหัสผ่านเสริมเพื่อใช้ในการเข้าสู่ระบบ รหัสผ่านที่ถูกต้องจะต้องเป็นสตริงเต็มที่ไม่มีช่องว่าง หมายเหตุ: คุณจะไม่สามารถตั้งรหัสผ่านที่ไม่ถูกต้องได้ โดยรหัสผ่านเริ่มต้นที่แตกต่างจะถูกใช้แทนสำหรับการพยายามเข้าสู่ระบบในกรณีนั้น

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในมุมของผู้ใช้ โดยจะมีการกำหนด AuthenticationToken, AccessToken และ Profile ปัจจุบันเป็นค่าว่างที่เบื้องหลัง

การเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูลยังใช้ไม่ได้กับ tvOS ในขณะนี้

ไม่ได้ เราไม่ได้พัฒนาการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูลสำหรับ React Native SDK เนื่องจากได้ถูกยกเลิกใช้งานแล้วใน SDK เวอร์ชั่น 9.0 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเอกสารประกอบ React Native

ผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบแล้วที่มีอยู่จะยังคงได้รับการแมปไปยังโหมดการเข้าสู่ระบบแบบดั้งเดิมตามค่าเริ่มต้น มีเพียงผู้ใช้ใหม่หรือผู้ใช้ที่ออกจากระบบเท่านั้นที่สามารถเริ่มใช้โหมดการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูลได้

ไม่ใช่ การแจ้งถึงการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูลจะใช้กับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งเท่านั้น

คุณสามารถเชื่อมผู้ใช้ได้ผ่านอีเมลและ/หรือ ASID

ไม่ fb_login_id จะยังคงมีอยู่ในโหมดการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูล โดยเป็นโทเค็นการเข้าถึงของผู้ใช้ (เอนทิตี้แยก) ซึ่งเปลี่ยนเป็นโทเค็น OIDC ในโหมดการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูล

โหมดการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูลรองรับเฉพาะสิทธิ์การอนุญาตโปรไฟล์พื้นฐาน (ชื่อและรูปภาพ) และสิทธิ์การอนุญาตอีเมลเท่านั้น หากแอพของคุณจำเป็นต้องใช้สิทธิ์การอนุญาตสำหรับธุรกิจ คุณจะไม่สามารถใช้การเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูลเพื่อขอสิทธิ์นั้นได้ แต่ผู้ใช้ของคุณสามารถให้สิทธิ์การอนุญาตสำหรับธุรกิจในการเข้าสู่ระบบแบบดั้งเดิมได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้:

• การเข้าสู่ระบบแอพของคุณผ่านเว็บไซต์
• การเข้าสู่ระบบแอพของคุณผ่าน iOS ในโหมดการเข้าสู่ระบบแบบดั้งเดิม
• การเข้าสู่ระบบแอพของคุณผ่าน Android

Yes, but this will require the use of an app access token to request the token_for_business field on the User node. Limited Login safeguards are not supported in this context. For apps that are associated with your business by means of Business Manager, you can use the app-scoped ID (ASID) included in the OIDC token returned after a successful login to get a unique string for a user. Using your app's app access token, request the token_for_business field on the User node and pass in the user's app-scoped ID. This call returns a string which is the same for this user across all the apps managed by the same Business Manager.

GET /ASID?fields=token_for_business

This returns the values.

{
  "id": "1234567890"
  "token_for_business": "weg23ro87gfewblwjef"
}

Usage notes:

• The person being queried must have logged into this app.
• If the owning business changes, the value of token_for_business will also change
• If you request the token_for_business field and the app is not associated with a Business Manager, the call returns an error.
• The value returned by token_for_business is a token, not an ID - it cannot be used directly against the Graph API to access a person's information. You should still store the ID in your database.