เราได้ทำการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งข้อมูลสำหรับการเข้าสู่ระบบแบบจำกัดข้อมูล โดยคุณสามารถเข้าถึงได้จาก limited.facebook.com
เมื่อเข้าสู่ระบบแอพของคุณด้วย Facebook ผู้ใช้จะสามารถให้สิทธิ์การอนุญาตแก่แอพเพื่อให้คุณดึงข้อมูลหรือดำเนินการต่างๆ บน Facebook แทนผู้ใช้ได้
ขั้นตอนต่อไปนี้มีไว้เพื่อเพิ่มการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ให้กับโปรเจ็กต์ iOS ของคุณ
ตั้งค่าสภาพแวดล้อมในการพัฒนาของคุณก่อนใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook สำหรับ iOS
การใช้โปรแกรมจัดการแพ็คเกจ Swift (SPM)ลงทะเบียนและกำหนดค่าแอพของคุณเพื่อให้สามารถใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ได้โดยเพิ่มตัวระบุชุดของคุณ
Info.plist
ด้วยข้อมูลโค้ด XML ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับแอพของคุณ หลังจากใช้การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook เหตุการณ์ในแอพบางเหตุการณ์จะได้รับการลงบันทึกและเก็บรวบรวมไว้สำหรับตัวจัดการเหตุการณ์โดยอัตโนมัติ เว้นแต่คุณจะปิดใช้งานการลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพอัตโนมัติ โปรดดูรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่จะได้รับการเก็บรวบรวมและวิธีปิดใช้งานการลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพอัตโนมัติที่การลงบันทึกเหตุการณ์ในแอพอัตโนมัติ
Info.plist
และเลือก Open As ▸ Source Code<dict>...</dict>
) <array><string>
ในคีย์ [CFBundleURLSchemes]
ให้แทนที่ APP-ID ด้วย ID ของแอพคุณ<string>
ในคีย์ FacebookAppID
ให้แทนที่ APP-ID ด้วย ID ของแอพคุณ<string>
ในคีย์ FacebookClientToken
ให้แทนที่ CLIENT-TOKEN ด้วยค่าที่พบได้ใน การตั้งค่า > ขั้นสูง > โทเค็นของไคลเอ็นต์ ในแดชบอร์ดของแอพคุณ<string>
ในคีย์ FacebookDisplayName
ให้แทนที่ APP-NAME ด้วยชื่อแอพของคุณInfo.plist
ของแอพพลิเคชั่นของคุณจำเป็นต้องมีสิ่งต่อไปนี้ด้วย คุณสามารถกำหนดการรวบรวมเหตุการณ์ในแอพอัตโนมัติให้เป็น “true” หรือ “false” ได้โดยตรง โดยเพิ่ม FacebookAutoLogAppEventsEnabled
เป็นคีย์ใน Info.plist
AppDelegate.swift
ด้วยโค้ดต่อไปนี้ โค้ดนี้จะส่งผลให้ SDK เริ่มทำงานเมื่อมีการเปิดใช้แอพ และช่วยให้ SDK รองรับการเข้าสู่ระบบและการแชร์จากแอพ Facebook แบบเนทีฟได้ เมื่อคุณเข้าสู่ระบบหรือทำการแชร์ มิฉะนั้น ผู้ใช้จะต้องเข้าสู่ระบบ Facebook เพื่อใช้เบราว์เซอร์ในแอพในการเข้าสู่ระบบ // AppDelegate.swift import UIKit import FacebookCore @UIApplicationMain class AppDelegate: UIResponder, UIApplicationDelegate { func application( _ application: UIApplication, didFinishLaunchingWithOptions launchOptions: [UIApplication.LaunchOptionsKey: Any]? ) -> Bool { ApplicationDelegate.shared.application( application, didFinishLaunchingWithOptions: launchOptions ) return true } func application( _ app: UIApplication, open url: URL, options: [UIApplication.OpenURLOptionsKey : Any] = [:] ) -> Bool { ApplicationDelegate.shared.application( app, open: url, sourceApplication: options[UIApplication.OpenURLOptionsKey.sourceApplication] as? String, annotation: options[UIApplication.OpenURLOptionsKey.annotation] ) } }
SceneDelegate
หากคุณใช้งาน iOS 13 อยู่ ให้เพิ่มเมธอดต่อไปนี้ให้กับ SceneDelegate
เพื่อให้การทำงานต่างๆ เช่น ฟังก์ชั่นการเข้าระบบหรือการแชร์ เป็นไปตามที่คาดหวัง // SceneDelegate.swift import FacebookCore ... func scene(_ scene: UIScene, openURLContexts URLContexts: Set<UIOpenURLContext>) { guard let url = URLContexts.first?.url else { return } ApplicationDelegate.shared.application( UIApplication.shared, open: url, sourceApplication: nil, annotation: [UIApplication.OpenURLOptionsKey.annotation] ) }
ใช้ปุ่มการเข้าสู่ระบบด้วย Facebook ในแอพ iOS ของคุณ
// Add this to the header of your file, e.g. in ViewController.swift import FacebookLogin // Add this to the body class ViewController: UIViewController { override func viewDidLoad() { super.viewDidLoad() let loginButton = FBLoginButton() loginButton.center = view.center view.addSubview(loginButton) } }
AccessToken.current
LoginManager
จะกำหนดโทเค็นนี้ให้กับคุณ และเมื่อตั้งค่า AccessToken.current
ระบบก็จะเขียนข้อมูลดังกล่าวลงในการจับเก็บคีย์เชนโดยอัตโนมัติ AccessToken
จะมี userID
อยู่ ซึ่งคุณสามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของผู้ใช้ได้ permissions
บนอ็อบเจ็กต์ FBLoginButton