ย้อนกลับไปที่ "ข่าวสำหรับผู้พัฒนา"

โอเพนซอร์สของ Meta: สรุปช่วงเวลาสำคัญในรอบปี 2022

ปีที่ผ่านมานี้ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ใครหลายๆ คนทั่วโลกได้กลับมาสานสัมพันธ์และก่อตัวเป็นชุมชนขึ้นมาอีกครั้ง ปรากฏการณ์เดียวกันนี้ก็เกิดขึ้นกับงานของ Meta ในส่วนโอเพนซอร์สเช่นกัน เนื่องจากเหล่าผู้มีส่วนร่วม ผู้ใช้ และองค์กรต่างร่วมมือกันเพื่อช่วยแผ่ขยายศักยภาพให้กับโอเพนซอร์สด้วย

โปรเจ็กต์ที่ Meta เผยแพร่สู่สาธารณะมุ่งตอบโจทย์ความต้องการและความท้าทายต่างๆ สำหรับผู้พัฒนา ตั้งแต่การขับเคลื่อนให้เกิด AI รุ่นใหม่ๆ ไปจนถึงการสร้างเว็บแอพและประสบการณ์ที่ทันสมัยและใช้งานได้ง่าย ในขณะเดียวกัน ชุมชนโอเพนซอร์สก็ช่วยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแบ่งปันเทคโนโลยี และต่อยอดจากเทคโนโลยีเหล่านั้นร่วมกัน

โพสต์นี้จะไล่เรียงประเด็นสำคัญจากโอเพนซอร์สของ Meta และวิธีที่ Meta ช่วยสร้างชุมชนโอเพนซอร์สในปี 2022 และยังกล่าวถึงข้อมูลอัพเดตเกี่ยวกับเครื่องมือและโค้ดที่ Meta และวิศวกรของบริษัทได้นำมาแชร์ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาครั้งใหญ่สำหรับ PyTorch, การเปิดตัว React 18, การแนะนำไคลเอ็นต์การควบคุมการปรับปรุงแก้ไขของ Sapling และอื่นๆ

สำรวจข้อมูลส่วนต่างๆ:

ย้ายสู่มูลนิธิ: การขยายการเปิดกว้าง ความร่วมมือ และการเข้าถึง

มุมมองและความร่วมมือจากผู้คนที่มีความหลากหลายจะเสริมสร้างโอเพนซอร์สให้แข็งแกร่ง ซึ่ง Meta เองก็คอยมองหาโอกาสที่จะร่วมงานกับมูลนิธิต่างๆ ที่มีอยู่แล้วเพื่อบรรลุเป้าหมายที่มีร่วมกันอยู่ตลอด ด้วยเหตุนี้ Meta จึงได้ย้ายโปรเจ็กต์จำนวนมากไปให้แก่มูลนิธิหนึ่งในปีที่ผ่านมานี้เพื่อเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลโอเพนซอร์สที่ตนให้บริการให้ทั่วถึงและขยายการควบคุมดูแลให้กว้างขึ้น

ในเดือนกันยายน เฟรมเวิร์ก PyTorch สำหรับ AI ได้ร่วมมือกับ Linux Foundation โดยจัดตั้งเป็น PyTorch Foundation ใหม่ขึ้นมา โดยมีความตั้งใจให้คณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วยผู้นำอุตสาหกรรมต่างๆ ขยายตัวขึ้นไปตามกาลเวลา และทำหน้าที่สนับสนุนความพยายามในการขยายบริการ รวมถึงสนับสนุนการดำเนินธุรกิจและการทำการตลาดด้านเทคโนโลยีให้กับผลิตภัณฑ์

กราฟิกนี้แสดงให้เห็นว่า Meta มีโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สซึ่งดำเนินการอยู่และไม่ได้อยู่ในคลังจัดเก็บถาวรถึง 1,034 โปรเจ็กต์ ณ ปี 2022

Jest เริ่มย้ายไปยัง OpenJS Foundation ในปีที่ผ่านมา โปรเจ็กต์โอเพนซอร์สเป็นหนึ่งในเฟรมเวิร์กการทดสอบ JavaScript ที่ใช้งานกันแพร่หลายที่สุด เป้าหมายสำหรับองค์กรนี้คือการช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าถึงโปรเจ็กต์ได้มากขึ้นและเป็นการพัฒนาฟีเจอร์ๆ ใหม่ด้วย

Meta มุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมในโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สที่ตนได้บริจาคให้แก่มูลนิธิต่างๆ โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา Meta ได้กระชับความร่วมมือกับ Presto Foundation ซึ่งทำให้ระดับการเป็นสมาชิกมูลนิธิของ Meta ขยับขึ้นจนถึงระดับสูงสุด อีกทั้ง Meta ยังสนับสนุนการจัดงานประชุมในสถานที่จริงเป็นครั้งแรกของมูลนิธิอย่าง PrestoCon Day และ PrestoCon อีกด้วย

การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านการขยายบริการโอเพนซอร์ส

สมาชิกทีมโอเพนซอร์สของ Meta ถ่ายรูปทีมร่วมกันในงานประชุม All Things Open เมื่อเดือนตุลาคม 2022

คำบรรยาย: เหล่านักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมและสมาชิกทีมโอเพนซอร์สคนอื่นๆ ของ Meta ในงาน All Things Open เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ตลอดปีที่ผ่านมานี้ เหล่านักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมและวิศวกรของ Meta มองหาโอกาสที่จะให้ผลลัพธ์ได้ดีเพื่อขยายบริการ และได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและองค์กรต่างๆ ทั่วชุมชนพร้อมทั้งแบ่งปันความรู้ที่ได้จากโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สที่เปิดตัวที่ Meta ด้วย

สำรวจเนื้อหาที่สร้างโดยนักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมของ Meta

นักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมและสมาชิกทีมโอเพนซอร์สที่ Meta เข้าร่วมงานครบรอบ 10 ปีของ All Things Open ในฐานะทีมโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สของ Meta โดยก่อนวันงานดังกล่าวนั้น Killian Murphy ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมได้แบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีที่ Meta พยายามทลายกำแพงที่กั้นระหว่างผู้มีส่วนร่วมในโอเพนซอร์สแต่ละรายและมุ่งขยายโอเพนซอร์สให้พร้อมใช้ได้สำหรับทุกคน Meta มุ่งสร้างมาตรฐานระดับสูงในการเปิดกว้างให้แก่ทุกคนที่ต้องการใช้และมีส่วนร่วมในเทคโนโลยีที่จัดทำไว้เป็นโอเพนซอร์ส

ข้อความในภาพกล่าวว่า "เมื่อชุมชนโอเพนซอร์ใหญ่ขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา Meta ก็เชื่อมั่นว่าโอเพนซอร์สจะสามารถครอบคลุมผู้คนได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และนั่นจะทำให้ศักยภาพเพิ่มขึ้นตามไปด้วย" Killian Murphy ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม

ทีมโอเพนซอร์สของ Meta ยังเปิดบูธที่งาน All Things Open เพื่อเผยแพร่โปรเจ็กต์จาก Meta ให้ผู้ร่วมงานได้รู้จักและพบปะผู้พัฒนาที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นในกลุ่มงานวิจัยและอุตสาหกรรม นักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมและวิศวกรยังร่วมบรรยายในงานด้วย

สำรวจการพูดคุยจากทีมนักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมที่งาน All Things Open ปี 2022:

บล็อกโพสต์จากทีมเคอร์เนล Linux ของ Meta หยิบยกการศึกษาวิจัยและพัฒนาที่กำลังดำเนินการอยู่ของตนมาบอกเล่า โพสต์ดังกล่าวครอบคลุมวิธีเข้าร่วมชุมชน Linux ด้วย สมาชิกจำนวน 11 คนของทีมเคอร์เนลของ Meta ร่วมพูดคุยสนทนาที่งานประชุม Linux Plumbers ปี 2022 คุณสามารถดูลิสต์การพูดคุยทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์งานกิจกรรม ทีมยังเปิดตัวซีรีส์ Meet the Developers ที่จะแนะนำวิศวกรจาก Meta หลายคนที่ได้ร่วมพรีเซนต์ในงานประชุม ซึ่งจะพูดถึงหัวข้อต่างๆ เช่น overview of the BPF networking hooks and user experience in Meta (ภาพรวมของ BPF networking hooks และประสบการณ์ผู้ใช้ใน Meta), kernel live patching at scale (การแพตช์เคอร์เนลในสภาพแวดล้อมจริงในวงกว้าง) และอื่นๆ อีกมากมาย

รูปภาพแสดงให้เห็นว่ามีโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สและคลังรายการใหม่ๆ ถึง 252 รายการที่ Meta เผยแพร่ในปี 2022

ทีมเคอร์เนล Linux ที่ Meta ช่วยสนับสนุนทิศทางของระบบเคอร์เนลด้วยวิธีที่จะปรับปรุงการใช้งานระบบเคอร์เนลที่ Meta และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับชุมชนที่แผ่กว้างขึ้นได้ ทีมทำงานร่วมกับชุมชนเคอร์เนลของ Linux ตั้งแต่เริ่มต้นอย่างใกล้ชิด เพื่อรับรองว่าโปรเจ็กต์ต่างๆ จะได้รับการออกแบบมาเพื่อความครอบคลุมและคำนึงถึงเคอร์เนลเป็นหลักตั้งแต่ต้นทาง

ในบล็อกโอเพนซอร์สของ Meta เรื่องราวของผู้มีส่วนร่วมจากบทความ Hasher-Matcher-Actioner (นักแฮช-นักแมตช์-นักลงมือ) จะหยิบยกงานของผู้ที่ได้รับโอกาสฝึกงานในโปรแกรม MLH Fellowship อย่าง Franklin Phan และ Samyak Mehta มากล่าวถึง ซึ่ง Meta เองก็ได้ให้การสนับสนุนโปรแกรมฝึกงานเช่นนี้ร่วมกับ GitHub และ Major League Hacking อย่างต่อเนื่อง

ซีรีส์เรื่องราวของผู้มีส่วนร่วมของ Meta จะแบ่งปันความสำเร็จและความท้าทายในการมีส่วนร่วมกับโอเพนซอร์ส รวมถึงหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชุมชน ดูบล็อกโพสต์ปี 2022:

การสร้างแรงกระตุ้นในชุมชนโอเพนซอร์สสำหรับ VR/AR

เมตาเวิร์สได้รับการออกแบบมาโดยหวังให้เป็นพื้นที่ให้ผู้คนได้รวมตัวและโต้ตอบกับผู้อื่นด้วยวิธีที่สดใหม่และสร้างสรรค์ ในการจะสร้างเมตาเวิร์สให้บรรลุผลสำเร็จได้สำหรับทุกคนนั้น เราต้องสร้างโดยมีชุมชนที่เข้มแข็งเป็นรากฐานและโอบรับไอเดียที่แตกต่างหลากหลาย

นักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมจาก Meta กล่าวไว้ในการพูดคุยว่า ชุมชนโอเพนซอร์สเป็นชุมชนที่มีแนวคิดของการ "สร้างร่วมกัน" มาตั้งแต่ต้น ชุมชนนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดบทสนทนาที่สำคัญซึ่งจะกำหนดทิศทางของเมตาเวิร์สได้ Navyata Bawa สานต่อซีรีส์ “Fostering Inclusivity in VR” (บ่มเพาะการครอบคลุมความหลากหลายใน VR) ในงานการประชุม Global Women in Tech Network (ผู้หญิงทั่วโลกในเครือข่ายเทคโนโลยี) ในเดือนมิถุนายน โดยเธอได้พูดถึงการสร้างแอพพลิเคชั่น VR ให้รองรับการเข้าถึงและครอบคลุมกลุ่มคนที่หลากหลายควบคู่ไปกับงานในส่วน VR/AR ที่เติบโตขึ้นต่อไป

ในพ็อดแคสต์ Stack Overflow ตอน “Here’s what it’s like to develop VR at Meta” (การพัฒนา VR ที่ Meta ทำได้เช่นนี้) ผู้จัดการกลุ่มนักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมอย่าง Cami Williams ได้บอกเล่าถึงวิธีที่ Reality Labs จะสามารถเรียนรู้และสานสัมพันธ์กับชุมชน React รวมถึงเครื่องมือและทรัพยากรต่างๆ บางส่วนเพื่อเริ่มต้นพัฒนาสำหรับระบบ VR

ข้อความในภาพกล่าวว่า "สร้างความหลากหลายจากภายใน ไม่เพียงกับผู้ใช้และผู้ทดลองเล่น แต่กับผู้พัฒนาด้วยเช่นกัน วิธีนี้เท่านั้นที่จะช่วยให้เราสามารถออกแบบแอพพลิเคชั่นที่นำเสนอและรองรับกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ได้อย่างถูกต้อง นั่นคือเราต้องเรียนรู้จากประสบการณ์การใช้งานจริงที่หลากหลาย" Navyata Bawa นักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมจาก Reality Labs

ในฐานะที่ Meta มีความมุ่งมั่นที่จะขยายการมีอยู่ของชุมชนและมอบเครื่องมือในการสร้างสรรค์ภายในระบบนิเวศ VR จึงได้เผยแพร่ฟีเจอร์โชว์เคสบน Quest ในเวอร์ชั่นตัวอย่างบน GitHub และเพื่อดึงดูดให้คนสนใจเครื่องมือเหล่านี้ Bawa จึงจัดทำซีรีส์ “Building Your Multiplayer VR Experience” (การสร้างประสบการณ์ VR แบบหลายผู้เล่นสำหรับคุณ) สำหรับ Oculus Platform SDK และ Unity SharedSpaces ในเวอร์ชั่นตัวอย่าง รวมถึงจัดทำบทแนะนำการใช้งาน “Building Intuitive Interactions for VR” (การสร้างการโต้ตอบอย่างเป็นธรรมชาติสำหรับ VR) สำหรับ Interaction SDK และFirst Hand ในเวอร์ชั่นตัวอย่าง

บล็อกโพสต์ “Summer of Open Source: Moving Virtual Reality Forward” (ฤดูร้อนแห่งการเรียนรู้โอเพนซอร์ส) ครอบคลุมนวัตกรรมล่าสุดส่วนหนึ่งในเทคโนโลยีนี้จาก Meta และหยิบยกบทสัมภาษณ์วิศวกรซอฟต์แวร์อย่าง Eric Le Saux ใน The Diff ตอนที่14 ดูเพลย์ลิสต์ AR และ VR เพื่อเลือกรับฟังการสนทนาพูดคุยกับผู้พัฒนาของ Meta, บทแนะนำการใช้งาน และแหล่งข้อมูลอื่นๆ ในส่วนนี้

ความก้าวหน้าใน AI/ML

ปี 2022 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับ PyTorch และผลิตภัณฑ์โมเดลใหม่ๆ จาก Meta AI ที่ออกแบบมาเพิ่มศักยภาพให้แก่ทุกคนตั้งแต่นักวิจัยไปจนถึงครีเอเตอร์ ต่อไปนี้เป็นวิธีบางส่วนที่ Meta ใช้พัฒนาการฝึกฝน การปรับให้เหมาะสม และการเปิดใช้โมเดล AI

อัพเดตเกี่ยวกับ PyTorch

หลังจากย้ายไปยัง PyTorch Foundation แล้ว (ภายใต้ Linux Foundation) PyTorch 2.0 ก็ได้รับการเปิดตัวที่งาน PyTorch Conference ที่จัดขึ้นในเมืองนิวออร์ลีนส์เมื่อเดือนธันวาคม ตัวเลขที่นำมาแชร์ในงานได้แสดงให้เห็นว่า PyTorch และชุมชนของตนเติบโตขึ้นมากเท่าไหร่ในปี 2022 โดยที่การปรับใช้การศึกษาวิจัย AI ถึง 63 เปอร์เซ็นต์เลือกใช้ PyTorch ในขณะที่ข้อมูลจาก GitHub ระบุว่า จำนวนคลังของ GitHub ที่ใช้ PyTorch เพิ่มสูงขึ้นถึง 45 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว

PyTorch 2.0 รวบรวมงานวิจัยระยะเวลาหลายปีมาใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพคอมไพเลอร์ของตนให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์ PyTorch ที่ผู้ใช้ชื่นชอบและคุ้นเคยไว้ได้ การอัพเดตประกอบไปด้วยการเร่งขั้นตอน 1 บรรทัดด้วย torch.compile, ความเข้ากันได้แบบย้อนกลับ 100 เปอร์เซ็นต์ และคอมไพเลอร์ที่ใช้ Python เพียงอย่างเดียว

สำรวจเนื้อหา PyTorch ปี 2022 เพิ่มเติมโดยนักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมของ Meta และบรรดาผู้มีส่วนร่วม:

โมเดล Meta AI ประสบความสำเร็จไปอีกขั้น

เฟรมเวิร์กการฝึกฝนและการปรับโมเดลให้เหมาะสมช่วยสร้างโมเดล AI ที่รองรับงานในชีวิตจริงได้ในลักษณะที่เป็นการส่งเสริมทักษะให้ผู้คน ลักษณะการเอื้อต่อกันเช่นนี้พบเห็นได้ในการแปลภาษา ซึ่งโมเดล AI จะเรียนรู้ภาษาได้หลายร้อยภาษาแม้จะเป็นภาษาที่มีคนใช้อยู่ไม่มากก็ตาม ในปี 2022 ที่ผ่านมา Meta AI เปิดตัวโมเดล AI อย่าง No Language Left Behind (ไม่มีภาษาใดจะถูกลืม) ซึ่งเป็นโมเดลที่จะแปลภาษาต่างๆ ถึง 200 ภาษาออกมาเป็นผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ โดยมาพร้อมกับชุดข้อมูลการประเมินและโค้ดโอเพนซอร์สที่สอดคล้องกัน ความพยายามในด้านโอเพนซอร์สเช่นนี้จะช่วยพัฒนาโมเดลที่จะใช้แปลเอกสารสำคัญ และอนุรักษ์ภาษาที่มีแหล่งข้อมูลให้ศึกษาน้อยได้ด้วย

รูปภาพแสดงให้เห็นว่ามีการร่วมให้ข้อมูลในคลังสาธารณะของ Meta กว่า 186,210 ครั้งในปี 2022 โดยที่ 159,723 ครั้งมาจากผู้ให้ข้อมูลภายในและ 26,487 ครั้งมาจากภายนอก

CICERO แบบโอเพนซอร์สของ Meta เป็นเจ้าหน้าที่ AI ตัวแรกที่สามารถเล่นเกมวางกลยุทธ์ภาษาธรรมชาติที่ซับซ้อนอย่าง Diplomacy* ได้ในระดับเทียบเท่าคนจริงๆ เล่น การผสานรวมรูปแบบภาษาเข้ากับอัลกอริทึมการวางแผนและการเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก (Reinforcement Learning) ทำให้ CICERO สามารถให้เหตุผลและวางกลยุทธ์ตามแรงจูงใจของผู้เล่นได้ จากนั้นก็จะใช้ภาษาเพื่อบรรลุข้อตกลงให้ได้ตามวัตถุประสงค์ที่มีร่วมกัน รวมถึงเพื่อสร้างพันธมิตรและดำเนินการตามแผน ยังมีปรากฏการณ์อื่นๆ เกี่ยวกับ AI และโอเพนซอร์สอีกมากที่ไม่ได้พูดถึงในที่นี้ โดยคุณสามารถอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ AI ได้ที่บล็อก Meta AI

สำรวจความก้าวหน้าอื่นๆ จาก Meta AI ในปี 2022:

* Hasbor, Inc. เป็นผู้ถือสิทธิ์ทั้งหมดใน Diplomacy

React 18 และอัพเดตอื่นๆ ในเว็บ/มือถือ

นอกจาก Jest จะเริ่มต้นย้ายไปยัง OpenJS Foundation แล้วนั้น ก็ยังเปิดตัว Jest 29 ในเดือนสิงหาคมด้วย โปรเจ็กต์ได้รับดาวสูงเกิน 40,000 ดวงบน GitHub แล้วในครึ่งปีหลัง ปรากฏการณ์สำคัญอีกหนึ่งอย่างในด้านเว็บและมือถือคือการเปิดตัว React 18 โดยได้รับความช่วยเหลือจาก React 18 Working Group ที่เป็นสาธารณะ ซึ่งรวมถึงการอัพเดตการแสดงการทำงานพร้อมกันโดยมีฟีเจอร์และ API ที่รองรับเพิ่มเติมเข้ามา ดูความพยายามในการอัพเดต React Docs Beta รวมถึงการเปิดตัวที่ประกอบไปด้วยเอกสารประกอบเกี่ยวกับเอ็ฟเฟ็กต์และคู่มือเริ่มต้นอย่างง่าย

ในเดือนกันยายน ทีมเทคโนโลยี React ของ Meta ได้เข้าร่วมงานประชุมสุดยอด React Native Core Contributor Summit ร่วมกับผู้มีส่วนร่วมหลักและผู้ดูแลรักษาคลังต่างๆ สิ่งที่พูดคุยในการประชุมสุดยอดนี้ครอบคลุมถึงระบบนิเวศของ React Native และ Metro ในปัจจุบันและอนาคต รวมถึงโครงการริเริ่มของผู้เข้าร่วมที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อปรับปรุงระบบนิเวศ React Native ให้ดียิ่งขึ้น

รูปภาพแสดงให้เห็นว่ามีผู้มีส่วนร่วมโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สของ Meta รวมทั้งสิ้น 7,353 คนในปี 2022 โดยที่ 3,727 คนเป็นผู้มีส่วนร่วมภายใน และ 3,626 มาจากภายนอก

ในบรรดาโปรเจ็กต์อื่นๆ ที่ Meta เผยแพร่แบบโอเพนซอร์สสำหรับเว็บและมือถือ Js-flipper คือแพ็คเกจ NPM ที่แสดงไคลเอนต์ Flipper ในแอพ JavaScript และอนุญาตให้ผู้พัฒนาสร้างปลั๊กอิน Flipper ใหม่หรือใช้รายการที่มีอยู่แล้วได้อย่างง่ายดาย อีกโปรเจ็กต์หนึ่งคือ MemLab ซึ่งให้บริการทดสอบหน่วยความจำ JavaScript ที่จะคอยตรวจจับการรั่วไหลของหน่วยความจำได้โดยอัตโนมัติ

ในท้ายที่สุด ผู้พัฒนาจาก Meta ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่ตนใช้เทคโนโลยีบนเว็บไซต์และมือถือแบบโอเพนซอร์สในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเทคโนโลยีเหล่านั้นด้วย บล็อกโพสต์หนึ่งได้เจาะลึกรายงานข้อบกพร่องของ Hermes รวมถึงบอกเล่าว่ารายงานนี้ช่วยเป็นแนวทางให้ทีมที่เกี่ยวข้องวางโปรแกรมสร้างตัวเจาะระบบที่ใช้กับ Doom เวอร์ชั่นปี 1993 ภายใน Hermes ส่วนอีกบล็อกโพสต์หนึ่งได้พูดถึงตัวแสดงหน้าเว็บบนโครเมียมโฉมใหม่ ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้เบราว์เซอร์ในแอพ Facebook สำหรับ Android

สำรวจซีรีส์พบปะผู้พัฒนา: ระบบมือถือ:

เครื่องมือผู้พัฒนา: การควบคุมการปรับปรุงแก้ไข เครื่องมือจัดทำเอกสาร และความก้าวหน้าด้านอื่นๆ

ผู้พัฒนาที่ Meta ใช้เครื่องมือโอเพนซอร์สที่สร้างที่ Meta เองเพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานของตน เครื่องมือเหล่านี้มักจะได้รับการทดสอบและปรับปรุงวันต่อวันที่ Meta จึงทำให้โปรเจ็กต์โอเพนซอร์สเป็นโปรเจ็กต์ที่ตอบสนองต่อความท้าทายที่ไม่เหมือนใครในด้านการขยายตัวและความเร็ว

ในปี 2022 ทีม Sapling นำเสนอโฉมใหม่ของไคลเอนต์การควบคุมการปรับปรุงแก้ไขที่ใช้ร่วมกับ Git ได้ Sapling เป็นระบบควบคุมการปรับปรุงแก้ไขที่ใส่ใจความสามารถในการใช้งานและการขยายตัว โดยตั้งเป้าแบ่งปันสิ่งที่ผู้พัฒนาที่ Meta ได้กลั่นกรองมาเป็นเวลากว่า 10 ปีเพื่อจุดประกายให้เกิดงานอื่นๆ ต่อไปในด้านนี้ และมุ่งแสดงให้ผู้พัฒนาเห็นอนาคตที่เป็นไปได้สำหรับระบบการควบคุมการปรับปรุงแก้ไข ในเดือนสิงหาคม มีการเปิดตัว Docusaurus 2.0 เครื่องมือสร้างไซต์สแตติกที่มีประสิทธิภาพ โดยได้ขยายการใช้งาน React และการสนับสนุนเว็บไซต์ต่างๆ ของตนในลักษณะที่เป็นมากกว่าการจัดทำเอกสาร

ข้อความในภาพกล่าวว่า "ในปี 2022 โอเพนซอร์สของ Meta ได้รับดาวเพิ่มขึ้น 133,854 ดวงบน GitHub รวมเป็นตัวเลข 1,563,562 ดวง"

การอัพเดตเพิ่มเติมของโปรเจ็กต์ต่างๆ ยังรวมถึงตัวตรวจจับการหยุดชะงักใหม่สำหรับ Android, การเพิ่มการนำเข้าแบบรอคำสั่งใน Cinder และพรีวิวตัวแก้ไข OpenStreetMap รุ่นใหม่ RapiD 2.0 อีกหนึ่งโปรเจ็กต์ได้แก่การเปิดตัวระบบปฏิบัติการเชิงกำหนดที่ใช้งานได้จริงโดย Hermit ซึ่งช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถแก้ไขปัญหา เช่น การทดสอบและควบคุมที่น่าสงสัยสำหรับอินพุตที่เปิดเผย เช่น การกำหนดเวลาเธรด การสร้างเลขแบบสุ่ม และอื่นๆ

หนึ่งในโพสต์อื่นๆ ที่เผยแพร่ไว้นั้นจะพูดถึงวิธีการทำงานร่วมกันของเครื่องมือผู้พัฒนา Meta ต่างๆ โดยเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการทำงานของผู้พัฒนา โดยเครื่องมือหลายตัวในที่นี้ก็เป็นแบบโอเพนซอร์ส ซึ่งรวมถึงโปรเจ็กต์อย่างระบบการสร้าง Buck, SuperConsole, EdenFS (ระบบไฟล์ที่ผสานการทำงานใกล้ชิดกับ Sapling), เฟรมเวิร์กการทดสอบ Jest และเครื่องมืออื่นๆ

สำรวจบทความและการเปิดตัวเพิ่มเติมที่กล่าวถึงเครื่องมือผู้พัฒนาในปี 2022

ข้อมูล: อัพเดตเกี่ยวกับ Velox, Presto และ RocksDB

คลัง C++ แบบโอเพนซอร์สอย่าง Velox ได้รับการประกาศเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2022 โดย Velox ได้เข้ามาพลิกโฉมการลดการใช้พลังงานและการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับเครื่องมือข้อมูล คลังดังกล่าวนี้ใช้การดำเนินการแบบเนทีฟและผสานการทำงานอยู่กับเครื่องมือหลายๆ ตัวที่ Meta โดยทำหน้าที่เป็นชั้นเครื่องมือดำเนินการที่รวมเป็นหนึ่งเดียว

Velox ออกแบบมาเพื่อลดการดำเนินการกับโค้ดลงได้อย่างมาก และมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นจาก 2 เท่าเป็น 10 เท่าในหลากหลายกรณีใช้งาน เรียนรู้เกี่ยวกับชุมชนที่กำลังขยายตัวของ Velox และวิธีที่สร้างสรรค์ในการปรับโครงสร้างโค้ดสำหรับการสืบค้นข้อมูลโดยเครื่องมือ Big Data และฐานข้อมูลในเอกสาร “Velox: Meta’s Unified Execution Engine,” (Velox: เครื่องมือดำเนินการที่รวมเป็นหนึ่งเดียวของ Meta) เผยแพร่ที่ VLDB เมื่อปี 2022

เฉพาะในปีที่แล้วนั้น โปรเจ็กต์โอเพนซอร์สของ Presto บน GitHub มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แล้ว 21 ครั้ง ได้รับดาวใหม่เกือบถึง 2,000 ดวง มีสมาชิกใหม่ 600 คน และผู้มีส่วนร่วมใหม่ 152 คน Presto Foundation จัดงานกิจกรรมแบบพบปะในสถานที่จริงเป็นครั้งแรกชื่อ PrestoCon ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คอมพิวเตอร์ในเมาน์เทนวิว แคลิฟอร์เนีย โดยในงานมี Tim Meehan มาร่วมบรรยายในฐานะประธาน TSC และ Phillip Bell ก็มาร่วมประกาศทิศทางของ Presto ในปีที่จะถึงนี้ด้วย

ในเดือนธันวาคม ทีม RocksDB จัดการพบปะตัวจริงประจำปีขึ้นอีกครั้งที่สำนักงานใหญ่ของ Meta ในเมนโลพาร์ก โดยรวบรวมวิศวกรของ Meta และผู้ให้ความร่วมมือจากภายนอกมาอภิปรายถึงกรณีการใช้งาน นวัตกรรมใหม่ๆ และความมุ่งหวังสำหรับโปรเจ็กต์

การรักษาความปลอดภัยและฮาร์ดแวร์

การรักษาความปลอดภัยและฮาร์ดแวร์มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนงานของผู้พัฒนา โอเพนซอร์สที่ Meta สามารถรับรองได้ว่าระบบและโค้ดจะยังคงมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ตั้งแต่เครื่องมือการแก้ไขข้อบกพร่องไปจนถึงฮาร์ดแวร์การสร้างเครือข่าย

เมื่อต้นปี เรื่องราวของผู้มีส่วนร่วมเรื่องหนึ่งได้กล่าวถึงงานในโปรเจ็กต์ Pysa ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์แบบสแตติกของ Python ภายใต้โปรเจ็กต์ Pyre-check เรื่องราวนี้เน้นย้ำว่าการสร้างชุมชนโอเพนซอร์สที่เข้มแข็งจะสามารถส่งผลต่อความสำเร็จของโปรเจ็กต์อย่าง Pysa โดยตรงได้อย่างไร ซึ่งในกรณีของ Pysa นี้ ส่งผลให้มีโค้ดการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น

ในฮาร์ดแวร์ Precision Time Protocol ได้รับการนำมาใช้ทั่วทั้งเครือข่ายและศูนย์ข้อมูลของ Meta เทคโนโลยีนี้มอบระดับความถูกต้องแม่นยำไปอีกขั้นสำหรับการซิงค์เวลาในระบบแบบกระจาย ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับโปรโตคอลล้วนเป็นแบบโอเพนซอร์สเพื่อจะรองรับการปรับใช้ในระดับอุตสาหกรรม โดยเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ Open Compute

ในปี 2022 ที่ผ่านมา Meta ได้สานต่องานด้านโอเพนซอร์สภายในผลิตภัณฑ์ เช่น WhatsApp และ Messenger Code Verify เป็นส่วนขยายเบราว์เซอร์เพิ่งเปิดเป็นโอเพนซอร์สในเดือนมีนาคม โดยจะช่วยให้ผู้พัฒนาได้ปกป้องความสมบูรณ์ของโค้ดใน WhatsApp Web และ Messenger โดยแสดงภาพให้เห็นว่าโค้ดบนเว็บเพจนั้นมีการถูกปลอมแปลงหรือปรับเปลี่ยนหรือไม่

ขอบคุณชุมชนโอเพนซอร์ส

โพสต์นี้เป็นการหยิบยกผลงานเพียงไม่กี่เรื่องจากกว่า 1,000 โปรเจ็กต์โอเพนซอร์สและอัพเดตของ Meta ในปี 2022 หากต้องการสำรวจโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สเหล่านี้เพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ Meta Open Source และติดตามเราได้ที่ Facebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn เราต้องขอบคุณชุมชนผู้มีส่วนร่วม ผู้ใช้ องค์กร และพาร์ทเนอร์ผู้ให้ความร่วมมือกับ Meta ในโปรเจ็กต์โอเพนซอร์สด้วย

เราทุกคนที่ Meta เชื่อว่าโอเพนซอร์สขับเคลื่อนนวัตกรรมในโลก เราแบ่งปันโค้ด สแต็ก และแม้แต่ดีไซน์ของฮาร์ดแวร์ เพราะมุ่งเป้าว่าจะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไปข้างหน้า และมอบโอกาสให้บริษัทอื่นๆ และบุคคลต่างๆ ได้ใช้โซลูชั่นของเราในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดีๆ ต่อไป

โพสต์นี้เขียนขึ้นโดยร่วมมือกับนักพัฒนาผู้มีส่วนร่วมอย่าง Dmitry Vinnik, Suraj Subramanian และ Cami Williams