ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราจัดการข้อมูลและวิธีที่เรามอบความรับผิดชอบให้กับพาร์ทเนอร์ของเราในการเข้าถึงและจัดการข้อมูล เราได้จำกัดการเข้าถึง API ปรับปรุงการตรวจสอบแอพ และจัดให้มีการตรวจสอบผู้พัฒนาแอพ โดยล่าสุดเรายังได้ทำข้อตกลงกับ FTC อย่างเป็นทางการอีกด้วย ทั้งนี้ เราได้ดำเนินการปรับปรุงใน 4 ด้านดังต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้พัฒนาจะมีเครื่องมือและข้อมูลที่จำเป็นในการใช้แพลตฟอร์มของเราอย่างมีความรับผิดชอบต่อไป
สำหรับการดำเนินการในด้านแรก ในวันนี้เราได้นำข้อกำหนดแพลตฟอร์มและนโยบายผู้พัฒนาแบบใหม่มาใช้เพื่อให้มั่นใจว่า ธุรกิจและผู้พัฒนาจะมีความเข้าใจอย่างชัดเจนถึงความรับผิดชอบของตนในการปกป้องข้อมูลและเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ขณะที่ใช้แพลตฟอร์มและเครื่องมือของเรา
ข้อกำหนดแพลตฟอร์มและนโยบายผู้พัฒนาแบบใหม่จะเป็นการลดความซับซ้อนและมีผลบังคับใช้แทนที่นโยบายแพลตฟอร์ม Facebook (รวมถึงแพลตฟอร์ม Messenger), นโยบายแพลตฟอร์ม Instagram, ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มขยาย รวมถึงบทแก้ไขเพิ่มเติมสำหรับผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม
ข้อกำหนดแพลตฟอร์ม: เราได้ปรับปรุงข้อกำหนดแพลตฟอร์มเพื่อให้ความสำคัญกับข้อจำกัดการใช้ข้อมูล ข้อกำหนดด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ข้อบัญญัติด้านการบังคับใช้ รวมถึงข้อกำหนดและการรับประกันตามกฎหมาย เช่น สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (IP) โดยข้อกำหนดใหม่นี้จะช่วยสรุปสิทธิและความรับผิดชอบของผู้พัฒนาเมื่อมีการสร้างผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นบนแพลตฟอร์ม Facebook ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น:
นโยบายผู้พัฒนา: เราได้แยกความถูกต้องสมบูรณ์ การควบคุมคุณภาพ ประสบการณ์ของผู้ใช้ เนื้อหา ความสวยงาม และข้อกำหนดด้านฟังก์ชันการทำงานไว้ในเอกสารฉบับเดียวที่มีชื่อว่านโยบายผู้พัฒนา
เราจะแจ้งให้ผู้พัฒนาทราบถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ผ่านอีเมล ในแดชบอร์ดของแอพ และบน developers.facebook.com รวมถึงในศูนย์ช่วยเหลือของ Instagram ผู้พัฒนาควรตรวจสอบข้อกำหนดและนโยบายเหล่านี้เพื่อให้มั่นใจว่าตนได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดฉบับปรับปรุงแล้วก่อนที่ข้อกำหนดและนโยบายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 31 สิงหาคม 2020 อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้กำหนดให้ต้องดำเนินการใดๆ เพื่อยินยอมตามข้อกำหนดและนโยบายใหม่
เรายังได้ปรับปรุงข้อกำหนดธุรกิจ รวมถึงข้อกำหนดเครื่องมือธุรกิจ ซึ่งอาจครอบคลุมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน Facebook SDK, การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook และโซเชียลปลั๊กอินในบางลักษณะอีกด้วย นอกจากนี้ เรายังได้ทำการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในข้อกำหนดทางการค้าของเราเพื่อเสริมความชัดเจนและทำให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินการได้ที่นี่
การบังคับใช้นโยบายฟีเจอร์การเข้าถึงเนื้อหาสาธารณะในเพจ (PPCA)
นอกจากนี้ เรายังได้ย้ำเตือนผู้พัฒนาด้วยว่า เอกสารสำหรับผู้พัฒนาระบุไว้ว่า PPCA สามารถนำมาใช้เพื่อนำเสนอเนื้อหาสาธารณะในรูปของผลรวมและไม่ระบุตัวตนเพื่อการวิเคราะห์และการเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานในเชิงการแข่งขันเท่านั้น โดยเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการชี้แจงแนวทางการใช้ข้อมูล ในช่วงปลายปีนี้ เราจะเริ่มบังคับใช้นโยบายนี้ในวงกว้างขึ้นกับผู้พัฒนาที่มีสิทธิ์การเข้าถึง PPCA ผู้พัฒนาที่มีสิทธิ์การเข้าถึง PPCA ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวเท่านั้น และอาจจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสอบแอพในอีกไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้เพื่อรักษาสิทธิ์การเข้าถึงไว้
เราเชื่อว่าผู้ใช้ ธุรกิจ และผู้พัฒนาสมควรได้ใช้แพลตฟอร์มที่ปลอดภัย และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ที่ใช้แอพของเรา และขับเคลื่อนให้เกิดคุณค่าในระยะยาวสำหรับผู้พัฒนาที่ใช้แพลตฟอร์มของเรา เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฮับโครงการริเริ่มของแพลตฟอร์มรูปแบบใหม่
14 กรกฎาคม 2020: เราได้ปรับปรุงฮับโครงการริเริ่มของแพลตฟอร์มเพื่อแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงด้านที่สี่ โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้และคำแนะนำด้านนโยบายสำหรับผู้พัฒนา